[รีวิวที่ 273] Parasite: “เหม็นสาบคนจน” by ตั๋วหนังมันแพง




[รีวิวที่ 273] Parasite: “เหม็นสาบคนจน”

คะแนน: 10/10

by ตั๋วหนังมันแพง

❗ คำเตือน ❗
❗ มีการเปิดเผยเนื้อหาต้นเรื่องนิดหน่อย ❗

.
.
.

เรื่องย่อ: หนังเล่าเรื่องถึงครอบครัวหนึ่งที่โคตรจะยากจน อาศัยอยู่ในบ้านชั้นใต้ดินต่ำกว่าพื้นถนนกลางชุมชนแออัด พ่อแม่ตกงานไม่มีรายได้ ลูกสาวคนเล็กไม่มีโอกาสเรียนสูงๆ ลูกชายคนโตก็ไม่เอาถ่าน เรียนไม่ถึงระดับอุดมศึกษา จะเล่นเน็ตก็ต้องไปเกาะวายฟายฟรีในส้วม

วันหนึ่ง ลูกชายคนโต “กีอู” ก็จับพลัดจับผลูไปเป็นติวเตอร์ให้กับลูกสาว “ครอบครัวพัค” ไฮโซผู้แสนดีที่มีบ้านหลังโตบนเนินเขา แล้วเขาก็ได้ค้นพบช่องทางทำเงินก้อนโตง่ายๆ จากครอบครัวนี้

เท่านั้นยังไม่พอ พอเห็นว่าบ้านนี้มีลูกชายคนเล็กอีกคน เขาก็ “ย้อมแมว” ให้น้องสาวตัวเองกลายเป็นครูศิลปะจบนอกมากินเงินติวอีกทางหนึ่งอีก และยิ่งนานวันเข้าพวกเขาก็ยิ่งหาวิธี “ปอกลอก” ที่สร้างสรรค์ขึ้นเรื่อยๆ

สมกับเป็น "ชนชั้นปรสิต" อย่างแท้จริง

.
.

1.ถือว่าเป็นหนังน้อยเรื่องที่ผมจำใจต้องใส่ “สปอยล์บางส่วน” ลงไปในรีวิว เพราะหนังมันสงวนตัวเยอะมาก และพูดตามตรงคือถ้าไม่ให้แตะต้องกับเนื้อหาเลย ผมก็ไม่รู้จะเล่าอะไร นอกจากพร่ำบอกคุณว่า “มันสนุกนะ” เฉยๆ

2.อย่างที่รู้กันว่า Parasite เป็นหนังชนะรางวัลปาล์มทองคำจากเมืองคานส์มา ดังนั้นบางคนอาจมีความรู้สึก “เกร็ง” ไม่กล้าเปิดใจเข้าไปดูเพราะกลัวว่าหนังมันจะยาก ดูแล้วไม่สนุก … แต่ผมขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่า “มันสนุกมากโว้ยคุณ”

3.หนังผ่านการสร้างมาอย่างชาญฉลาดจนมีศักยภาพตีตลาดได้ทุกกลุ่ม คือถ้าคุณเป็นสาย “ดูเอามันส์” แบบผม คุณก็จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะหนังมันดำเนินเรื่องได้ระทึกแบบเป็นธรรมชาติมากๆ

ที่ว้าวที่สุดคือจู่ๆ หนังก็โยน "ความกดดัน" เข้ามาใส่คุณได้แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แล้วมันก็ทำงานได้ดีมากจนน่าทึ่ง เป็นบรรยากาศที่ชวนให้หายใจไม่ออกที่เกิดขึ้นมาราวกับเวทมนตร์

4.คุณจะได้ลุ้นไปกับการตัดสินใจของตัวละครที่โคตรจะหวาดเสียวหวาดไส้ คุณจะอยากรู้ว่ามันจะพาตัวเองไปลงเอยตรงไหนจนนั่งไม่ติดเบาะ และในความลุ้นระทึกตรงนี้ หนังก็มีความฮาแบบไม่บันยะบันยังสอดแทรกเข้ามาด้วย พูดได้เลยว่าหนังตลาดมากๆ ดูง่าย ย่อยง่าย

5.และถ้าคุณเป็นสายดี้ป ชอบตีความ โอ้โห หนังเรื่องนี้มันเหมือนบุฟเฟ่ต์เชิงสัญลักษณ์ ทั้งการเสียดสีโครงสร้างสังคมของเกาหลี (ที่แอบซ้อนทับกับเมืองไทยอยู่) เอาเป็นว่าให้มองมันเป็น Snowpiercer หรือว่า Okja ในฉบับที่กลมกล่อมกว่า สนุกกว่า แต่เนื้อหาแน่นเหมือนเดิมก็ได้

6.ในหนังจะมีคำพูดหนึ่งที่ติดปากตัวละครคนรวยเสมอ เขาบอกว่าตัวเอกมี “กลิ่น” บางอย่างที่เขานิยามไม่ถูก ถ้าจะให้เห็นภาพที่สุดก็คงเหมือน “ผ้าขี้ริ้วเปียกต้ม” ล่ะมั้ง?

7.ถ้าว่าง่ายๆ มันก็คงเป็นกลิ่นสาบคนจนนั่นแหละ ไม่ใช่เพราะตัวเอกไม่อาบน้ำหรืออะไร แต่หนังนำเสนอว่ากลิ่นนี้เกิดจาก “ไลฟ์สไตล์จนๆ” ที่มันอบอวลอยู่รอบตัวของคนที่ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปาก มันเป็นกลิ่นฉุนเตะจมูกที่คนรวยไม่เข้าใจ แต่ตัวคนจนน่ะเข้าใจ แล้วมันก็เจ็บมาก

8.ผมคิดว่าหนึ่งในเสน่ห์ที่ร้ายกาจที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือ “ความเปรียบต่าง” (Contrast) ของไลฟ์สไตล์สองขั้ว ระหว่างบ้านของตัวเอกเล็กราวกับรูหนูที่ถูกนำเสนอด้วยมุมกล้องแคบๆ ชวนอึดอัด กับบ้านไฮโซพัคที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับแดนสวรรค์

9.สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ “ความห้าว” ที่สอดคล้องกับฐานะและสถานะของคน -- ตอนที่จนแสนจน แม้คนเมาจะมาเยี่ยวรดหน้าบ้าน ครอบครัวตัวเอกก็ไม่กล้าโวยวายอะไร แต่พอเริ่มมีเงินมีทอง ของที่เคยทนได้ก็นับว่าทนไม่ได้อีกต่อไป กลายเป็นกล้าหาญชาญชัย กล้าไฟท์กันทั้งครอบครัว

10.ความดีงามของหนังเรื่องนี้มันอยู่ในระดับที่ว่า “ถ้าผมทำได้ ผมก็อยากซื้อตั๋วเรื่องนี้แจก” คือมันเป็นงานคราฟท์ที่ละมุนมากๆ คนเราต้องอัจฉริยะระดับไหน ถึงจะทำหนังที่ “ตื้นและลึก” ให้คนดูทุกกลุ่มเอ็นจอยกับมันได้แบบนี้

.
.

เผลอๆ นี่อาจจะเป็นหนังที่ดีที่สุดในปี 2019 ก็ได้

#ตั๋วหนังมันแพง #Review #Parasite
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่