ตอนแรกที่ทำคลิปเราไม่เคยให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆเลย คิดว่าแค่ถ่ายคลิปแล้วเอามาลงเฉยๆก็น่าจะเพียงพอ

แต่พอเริ่มจริงจัง เข้าโหมดเป็น “youtuber ฝึกหัด” เราก็เรียนรู้เรื่องอุปกรณ์และโปรแกรมตัดต่อต่างๆมากขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใหม่มาก สำหรับแม่บ้านที่ไม่เก่งด้าน IT หรือ technology อย่างเราเลย >.<

ดังนั้นการรีวิวของเราจะไม่อ้างอิงทฤษฎีหรือเทคนิคใดๆนะคะ วัดจากความรู้สึกเราล้วนๆค่ะ ใครมีข้อแนะนำเราตรงไหนเพิ่มเติมก็ยินดีเลยค่ะ ^^

เข้าเรื่องกันเลย...ตอนเราดูรีวิวของไมค์ตัวนี้ เราก็เห็นว่ามันดูเล็ก กะทัดรัด น่าจะเหมาะกับเราดีนะ คือจะหยิบใช้ตอนไหนก็สะดวก อุ้มลูกไป ถ่ายไปก็ไม่ลำบาก แล้วก็เห็นว่ามันใช้ได้กับทั้ง iPhone และ android เราเลยไปสอยมา ... แต่ทันทีที่เราลองใช้ เราลืมนึกไปว่ามือถือที่ดูในรีวิวมันเป็นรุ่นที่ต่อกับพอร์ตหูฟัง 3.5 ได้เลย แต่มือถือเราดันเป็นรุ่น iPhone X ที่ไม่มีรูนั้นนนนนน T_T

เศร้าใจนัก เพราะต้องเอาสาย lightning ของ iPhone มาต่อกับไมค์ก่อน ซึ่งก็จะทำให้สายไมค์มันห้อยเกะกะ เราเลยไปถามที่ศูนย์เค้าก็บอกว่ามันไม่มีตัวแปลงสำหรับไอโฟนรุ่นนี้ ลองถามคนขายไมค์แบบนี้จากหลายๆร้านก็ได้คำตอบเดียวกัน

บางคนบอกว่าให้เอาหนังสติ๊กมาพัน เราลองทำตามมันก็ไม่ค่อยเวิร์คเวลาจะขยับไมค์เพื่อปรับทิศทาง เราก็เสิร์ชหาข้อมูล ก็ไม่เห็นคนรีวิวว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี จนเสิร์ชไปเจอร้านนึงในเว็บเค้าขายตัวที่เรียกว่า “dongle clip” ที่ใช้เป็นตัวต่อระหว่างสาย lightning กับไมค์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ^_^ เราเลยจัดมาแบบไม่รีรอ

แล้วมันก็ใช้งานได้ดีจริงๆ รู้สึกดีใจมาก เพราะไมค์รุ่นนี้ถูกสเปคเราจริงๆ เลยได้ใช้สมใจ

ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงสำหรับเราก็ให้ผ่านนะคะ เสียงดังฟังชัด ไม่อู้อี้ ดีกว่าไม่ใช้ไมค์แน่นอน ยิ่งเวลาไปถ่ายนอกสถานที่แล้วเดินพูดก็ชัดเจน ไม่ใหญ่โตจนเคอะเขินสำหรับมือใหม่อย่างเรา

และด้วยราคาไมค์ก็ไม่ถึงพันเลยค่ะ มีรับประกันศูนย์ด้วย โดยรวมคือประทับใจค่าา

#อ้างลูกเที่ยว #เลี้ยงลูกผ่านโลกกว้าง 🌎👶🏻💕

📍FB Page 👉🏻 fb.me/thefamilytraveller
📍YouTube 👉🏻 https://bit.ly/2v4zOKt