เล่าเรื่องเมืองกิฟุ Gifu : ฉันเห็นฉัน ชิราคาวาโกะ #jourNU


ติดตามกระทู้ก่อนหน้าได้ที่ : https://ppantip.com/topic/39100784

-เรื่องยาวนะ อ่านไหวเหรอ- มีอยู่ช่วงหนึ่ง นับๆดูก็หลายช่วงอยู่นะ เพื่อนรอบข้างมักจะประหลาดใจในพฤติกรรมของฉัน "แกมันบ้าป่ะว่ะ เอะอะก็เข้าโรงหนังๆ ติสต์ไป๊ ดูคนเดียว เรื่องเดียวซ้ำๆตั้งสามสี่รอบเนี่ยนะ" พีคสุดคือ หกรอบหมกตัวเช้ายันค่ำก็ทำมาแล้ว ติดฮัชแท็ก #เฮ้าส์ลิโด้คือบ้าน
...เอาล่ะ พักเรื่องฉันไว้ก่อน ขอย้อนไปที่หนังเรื่องหนึ่ง ชื่อ Little Forest อันนี้ก็รวมอยู่ในความระห่ำของฉันเหมือนกัน เพราะดูครบทั้ง 4 ฤดู 2 ภาค ฟังซาวน์ดแทร็กวนไปจ้า ชอบการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ พ็อตมันเหมือนจะราบเรียบนะ แต่มีเสน่ห์ยิ้ม เปิดเรื่องด้วยฉากหญิงสาวราวๆยี่สิบปลายๆ ตัวเอกของเรื่อง(ชื่ออะไรไม่รู้จำไม่ได้แล่ะ)กับฉากเปิดตัว เริ่มที่ปั่นจักรยานไปตามถนนท้องทุ่งไปเรื่อยๆเรื่อยๆ จนซาวน์ดแทร็กจบไปเพลงนึ่งจ๊า ถึงบ้านกลางทุ่งพอดีเลย แค่นี่แต่กลับดึงความใคร่รู้ของฉันไปได้ทั้งหมด "เอ๊ะ นี่มันจะปั่นไปไหนว่ะ จะครึ่งเรื่องอยู่แล่ะ" สองข้างทางวิวสวยมากคุณ แล้วหนังก็เล่าวิถีชีวิตพอเพียงของเธอไปตามลำดับ โดยมีตัวแปรสำคัญคือ ฤดูกาลและเมนูอาหาร การถนอมอาหารไว้กินในฤดูถัดไป แต่ละอย่างที่เธอลงมือทำ จึงอิงกับอากาศในช่วงนั้นๆ ซึ่งใช้วัถุดิบจากสวนหลังบ้านบ้างท้องไร่ท้องนาบ้าง บางที ก็ออกไปหาเกาลัดในป่า จับปลาในลำธาร สลับกับนึกถึงเรื่องราวในอดีต แอบมีดราม่านิดๆก็แม่เธอหายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยครูพักรักจำ และด้วยอารมณ์คิดถึงแม่ที่มักจะชอบทำอาหารให้เธอกินและสอนเธอทำอยู่เรื่อยๆ บวกกับว่าปมในใจของเธอเอง แต่ละเมนูที่ทำ จึงพยายามทำให้ใกล้เคียงกับรสมือแม่ที่เคยกำชับไว้ให้ได้มากที่สุด หนังดีมากๆอยากให้ได้ดู ถ้าใครชอบไปที่เดิมๆ ซ้ำๆ จะรู้ว่าแต่ละช่วงเวลา มีอะไรให้เห็นที่ต่างกันออกไป ก็อย่างหนังที่ฉันเล่ามา(คร่าวๆ)นี่แหละ นับถือ ผกก. บทไม่ถึงกับดีมาก แต่วางลำดับการนำเสนอดีมาก เล่าเรื่องดีมาก องค์ประกอบต่างๆลงตัว นางทำให้ฉันอยากเที่ยวตามรอยเลยทีเดียว แต่เท่าที่ทราบหมู่บ้านในเรื่องไกลโขอยู่
ที่พอทำให้บรรเทาความคิดถึงหนังเรื่งนี้ได้ ก็ที่ ชิราคาวาโกะที่ฉันไปมานี่แหละ เดินๆอยู่นึกว่าผีนางเอกในเรื่องเข้าสิง เผลอฮัมเพลง aki วง flower flower ไปพลาง "คุราอิ โมริ คิมิมิ อิคึๆ" บลาๆ เลียๆไป ทั้งสภาพหมู่บ้าน แปลงผัก ท้องนา ระเบียงบ้านที่นั่งกินแตงโมกับเพื่อน พ่นเม็ดมันรัวๆราวกับยิงกระสุน ฉากเดินเข้าไปหาของในป่า  





ฉันเดินไปเรื่อยๆ ทำความรู้จักจนเรียกว่าเกือบจะครบทุกมุมตามประสาเพิ่งเคยมา พยายามกวาดสายตาเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ทักทายต้นไม้ใบหญ้าจนคุ้นชิน
ภาพจำวัยเด็กของฉันก็ผูกพันกับวิถีชาวนาก็ผุดขึ้น แม่จะย้ายมาอยู่เมืองหลวงก็นานแล้ว แต่ไม่อาจหนีเงาตัวเองได้ ภาพที่เดินตามหลังพ่อแม่ไปบนคันแทนา ต้นกล้ากำลังเขียวสด มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับว่าใครมาปูพรมเขียวเอาไว้ก็ไม่ปาน เล่นน้ำในคลองกับเพื่อนในหมู่บ้าน หาปูกินปลาไปตามอัตภาพ เมื่อถึงฤดูเกี่ยวข้าวชาวบ้านก็มาช่วยกันจนดึกดื่น บ้านฉันเสร็จ ก็ไปช่วยอีกบ้าน มื้อเย็นคือกับข้าวบ้านๆแทนสินน้ำใจที่ใครๆต่างมาช่วย แกงขี้เหล็ก แกงหน่อไม้ อาหารเลิศรส ในป่าคือซุเปอร์มาร์เก็ต เนรมิตมื้ออร่อยได้หลากหลาย สมัยนั้นเมืองกับชุมชน ดูเหมือนใกล้ แต่กลับรู้สึกไกลราวกับห่างกันคนละซีกโลก เวลาผ่านไปไว จนอยากให้มันเป็นเรื่องโกหก การโยกย้ายเปลี่ยนมือ ที่นาแปรสภาพเป็นบ้านจัดสรร มันค่อยๆคืบเข้ามาทีละนิดๆ วิถีชุมชนถูกแทนที่ด้วยวิถีเมือง ทุกตารางนิ้วเปลี่ยนไปแล้ว เมืองก่อนข้างๆบ้านมักจะเป็นญาติพี่น้อง ตอนนี้บ้านหลายหลัง กลายเป็นใครก็ไม่รู้ โลกเปลี่ยนวิถีก็เปลี่ยนตาม หนุ่มสาวเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง พวกเขาเลือกที่จะกลายเป็นคนแปลกหน้าในบ้านเกิด แต่กลับนับถือตัวละครอื่นๆในโลกสมมุติ ถ้า little forest มีเวอร์ชั่นไทยนะ ฉันว่าคงไม่ทำเงินนัก แถมยังถูกมองว่าหนังอะไรโคตรเฟคเลย วิถีแบบเนี่ยไม่มีอยู่จริงแล้ว ใคร๊ จะอยู่ได้โดยไม่แคร์เงินทองขนาดนั้น อ่ะไม่แน่นะ...แต่ก็น่าจะมีคนบางกลุ่มที่ชอบ ก็กลุ่มคนที่โหยหาวิถีดั้งเดิม กลุ่มที่มีภาพจำวัยเยาว์ กลุ่มตจว.ที่เข้ามาชุบตัวแล้วเคลมว่าตนเป็นเด็กเทพอย่างฉันไงเล่า! เพราะเอาเข้าจริงความคิดวัยรุ่ยคือมันแค่มายา ต้นไม้ยังมีราก ต่อให้ตัดกิ่งโค่นต้น ก็ไม่อาจลืมรากเหง้าของเราได้






การมาของฉัน มันกลายเป็นทริปสโลว์ไลฟ์สมความตั้งใจ ที่จะเฉียดความศิวิไลซ์ ให้ได้น้อยที่สุด เหตุผลที่ใช้บอกคนอื่นคือมาชาร์จแบตและสูดอากาศบริสุทธิ์ ในทางเดียวกัน ฉันมาเติมรากให้ลึกขึ้นไปอีกต่างหากล่ะ
.....รถบัสNohi ที่ฉันนั่งมาในราคา 4,900¥(จ่ายค่าขี้ลืมJR Passไว้ที่พัก) ค่อยๆพาฉันเคลื่อนห่างจากพื้นที่สีเขียวชิราคาวาโกะ ไปเรื่อยๆเรื่อยๆ ฉันขยับแว่นตาอยู่สองสามครั้ง (รู้สึกมันชักจะไม่แนบสนิทกับสันจมูกนูนต่ำนัก) จนรู้สึกกระชับดี หวังจะมองให้ชัดๆเป็นครั้งสุดท้าย ทันใดนั้น!! ฉันละสายตาจากวิวภูเขาที่อยู่ตรงหน้าในทันที ผู้หญิงหน้าตาขึงขัง ในชุดเสื้อคลุมสีกรมท่า หมวกผ้าทรงปีกกว้าง เพิ่งปั่นจักรยานรุ่นเก่าคันนั้น "ใครกัน? เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่" ฉันคิดในใจ เธอทำให้ทุกอย่างหมุนช้าลง ราวกับฉากสโลโมชั่นในหนังโรแมนติก "ใช่!!...ต้องใช่แน่ๆ!!! ยัยคนนั้นนั่นเอง ที่ฉันพูดถึงหล่อน เทอมาทำอะไรที่นี่ หรือว่า!เธอมีตัวตนจริงๆ" ฉันผุดลุกผุดนั่นไม่ติดเก้าอี้พร้อมกับสอดส่ายสายตามองตาม พอจะหันกลับไปมองอีกครั้งเธอก็ไปไกลจนลับสายตาฉันเสียแล้ว ปล่อยให้ฉันจากมาด้วยคาใจ มีแค่ความสงสัยที่ต้องคงต้องกลับมาหาคำตอบอีกครั้ง จะว่าไป คนเราก็เหมือนชิราคาวาโกะ เวลาเปลี่ยน ฤดูกาลหมุนเวียนสักแค่ไหน ชิราคาวาโกะ ก็ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ ฉัน ก็ยังเป็นฉัน คุณก็ยังเป็นคุณคนเดิมอยู่ อาจจะมีเสื่อมถอยไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ คุณไม่อาจไปเคาะประตูบ้านใครเพื่ออธิบายให้เค้าเข้าใจตัวคุณได้ทั้งหมด แค่คุณรู้ว่าคุณเป็นใคร มาจากไหนและกำลังทำอะไรอยู่ก็พอ ก็เหมือนกัน ฉันไม่อาจบอกคุณๆได้นะว่า เมืองนี้มันน่ามาเยือนสักครั้ง (มีดีมากกว่ามาถ่ายฝาท่อสะสมแต้ม) แล้วตัดสินเอง นั่งครุ่มคิดอยู่พักใหญ่ เผลอยิ้มกริ่มให้กับความสุขตามอัตภาพในวันวาน ลาก่อน...ชิราคาวาโกะ
กล้องตัดรับภาพมุมสูง : รสบัสขับไปตามถนนมุ่งสู่ทาคายาม่า
Sound : เสียงเพลง aki วง flower flower ดังขึ้น https://youtu.be/oOJwOlS1iXs
*ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ย่อหน้าสุดท้ายเรื่องแต่งนะครับอมยิ้ม16





แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่