สืบเนื่องมาจาก มีผู้ไปถามถึงหนังสือรู้จักพระไตรปิฎก ในขณะนั้น...พระพรหมคุณาพร ผู้เขียน กรณีพระคึกฤทธิ์

ข้อความบางส่วนจากคลิปใน spoil
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พระคึกฤทธิ์ : ก็โยมไปเชื่อตรรกะเค้าซะแล้ว

โยม : ใช่ไหมครับ มันอยู่ที่ตรรกะ

พระคึกฤทธิ์ : ใช่ พอโยมไปเชื่อตรรกะเค้า โยมก็เอนไปตาม

โยม : ผมไม่เอนครับ ผมแค่หวั่นไหว เฉยๆ จริงๆผมกับท่านเนี้ยะ เสพติดไปเรียบร้อยแล้ว เวลาผม ก็จะเปิดทั้งวันทั้งคืนเลย

พระคึกฤทธิ์ : อาตมามองว่า มันไร้สาระ น่ะ

โยม : คือไม่ต้องเอาไปคิดเรื่องนี้ก็ได้ ใช่ไหม ครับ

พระคึกฤทธิ์ : ใช่ คนๆ หนึ่ง ไม่ได้เจาะรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธวจนะเลย แล้วจะมาพูดพุทธวจนะได้ยังไง เสพคบอะไรมา เสพคบอรรถกถา มาเกือบตลอดชีวิต กับคนๆหนึ่งเสพคบ พุทธวจนะ มาตลอด มันจะพูดกันรู้เรื่องไหมเนี้ยะ ใช่ไหม? อื่มแล้วเราเอาหูไปฟังเขา มันก็ไร้สาระ ใช่ไหม? เราก็เลยปล่อยไป

โยม : ท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ใช่ไหมครับ?

พระคึกฤทธิ์ : ปล่อยตายไปกับอรรถกถา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วิพากษ์พระคึกฤทธิ์ : พลาดหรือตั้งใจบิดเบือนพระบาลีภาษาบาลี

ครูนัท หนอนพระไตรปิฎก : กรณีเรื่องของพระไตรปิฎกบาลี การใช้ภาษาบาลี

การสืบค้นภาษาบาลี พลาดหรือตั้งใจบิดเบือน นะคะ

สืบเนื่องมาจาก มีผู้ไปถามถึงหนังสือ เล่มนี้คะ

หนังสือรู้จักพระไตรปิฎก ในขณะนั้น...พระพรหมคุณาพร

ผู้เขียน กรณีพระคึกฤทธิ์

โยมคู่สนทนา : ผมสงสัยกรณีทีท่านเจ้าคุณประยุต อ่ะครับ

ออกหนังสือเกี่ยวกับวิจารณ์เกี่ยวกับกรณีของพระอาจารย์โดยตรง

ผมเลยหวั่นไหวมาก จริงๆ ผมอ่านไม่รู้เรื่องอะครับ

ที่ท่านคิดว่า ไม่เอาอรรถกถาเนี้ยะ จะต้องแปลบาลีใหม่ทั้งหมดอะครับ

ผมก็นั่งฟังและก็ล่าสุดอยู่เป็นประจำว่า เอะ...

ท่านจะอธิบายตรงนี้เพื่อ...คือพูดตามตรงว่า

ผมหวั่นไหวในตัวพระอาจารย์

ที่ท่านเจ้าคุณประยุตพูดเนี้ยะ พอมีเหตุผลอยู่บ้างนะ

อย่างเรื่องสกิเทวะ เรื่องถ้าเกิดท่านจะไม่เอาบาลีเนี้ยะ

ก็ต้องแปลใหม่หมดเลย ว่าคำแปลเนี้ยะ ใช้ อรรถกถา

ช่วยแปลด้วย

พระคึกฤทธิ์ : ก็โยมไปเชื่อตรรกะเค้าซะแล้ว

โยม : ใช่ไหมครับ มันอยู่ที่ตรรกะ

พระคึกฤทธิ์ : ใช่ พอโยมไปเชื่อตรรกะเค้า โยมก็เอนไปตาม

โยม : ผมไม่เอนครับ ผมแค่หวั่นไหว เฉยๆ

จริงๆผมกับท่านเนี้ยะ เสพติดไปเรียบร้อยแล้ว

เวลาผม ก็จะเปิดทั้งวันทั้งคืนเลย

พระคึกฤทธิ์ : อาตมามองว่า มันไร้สาระ น่ะ

โยม : คือไม่ต้องเอาไปคิดเรื่องนี้ก็ได้ ใช่ไหม ครับ

พระคึกฤทธิ์ : ใช่ คนๆ หนึ่ง ไม่ได้เจาะรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธวจนะเลย

แล้วจะมาพูดพุทธวจนะได้ยังไง เสพคบอะไรมา

เสพคบอรรถกถา มาเกือบตลอดชีวิต

กับคนๆหนึ่งเสพคบ พุทธวจนะ มาตลอด

มันจะพูดกันรู้เรื่องไหมเนี้ยะ ใช่ไหม? อื่ม

แล้วเราเอาหูไปฟังเขา มันก็ไร้สาระ ใช่ไหม?

เราก็เลยปล่อยไป

โยม : ท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ใช่ไหมครับ?

พระคึกฤทธิ์ : ปล่อยตายไปกับอรรถกถา

โยม : เท่าที่ท่านเจ้าคุณประยุตเนี้ยะ วิจารพระอาจารย์เนี้ยะ

ผมก็เห็นว่า ดูแล้วท่านคงไม่ได้ฟังพระอาจารย์ เกินกว่า 2 ชม.

อาจจะแบบจับตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย ใครเอาไปฟ้อง

ตรงนั้นนิดเดียวมากกว่า

พระคึกฤทธิ์ : คือไม่ได้ฟังเลย

มันไร้สาระไง อาตมาถึงบอก มันไร้สาระไง

เพราะว่า ฟังคนอื่นมา แล้วก็ปรุงแต่งต่อ

ฟังมาก็ปรุงแต่งต่อ เคยมาตรวจเราไหม?

ว่า เราทำอะไร? เราศึกษายังไง?

พูดเองหมดเลยอะ พูดเองหมดเลย ยกเมฆหมดเลย

แล้วเราจะไปสนใจทำอะไร?

สำหรับคนที่ ไม่เคยรู้อะไรหรอก นะ

อื่ม ทั้งที่กลุ่มอาสาเรา เราไม่ใช่ทำคนเดียว ใช่ไหม?

ทีมงานเรา ๖๐๐ กว่าคนแล้วตอนนี้

พวกเปรียญธรรมกลับใจเยอะแยะไปหมดเลย

ก็เรียนเหมือนกะท่านนั่นและ นะ

อ่า เจ้าอาวาส ในกรุงเทพก็เยอะแยะ

เปรียญธรรม ด๊อกเตอร์ทางพุทธศาสนา เค้ากลับใจ

เค้า เข้าใจพุทธวจนะ เค้าก็มีความรู้เหมือนท่านนั่นแหละ

ไม่ใช่ท่านมีความรู้คนเดียว อย่าไปคิดว่า อู้หู้

มันยากเย็น บรรยายภาพให้มันน่ากลัว นะ

มันก็เป็นเรื่องของภาษาธรรมดา ไม่ได้เรื่องยากอะไร

ไปทำให้มันรู้สึกน่ากลัว

โยม : อย่างภาษาบาลีเนี้ยะ อ้าว ถ้าใครบอกว่า

คนโน้นเก่งบาลีเนี้ยะ มันหมายความว่ายังไงครับ

สามารถจะมีคนเก่งบาลี คนไม่เก่งบาลีเนี้ยะ

ก็เหมือนภาษาอังกฤษเนี้ยะ ก็มีรู้กับไม่รู้

พระคึกฤทธิ์ : มันก็ไม่มีอะไร โยม เก่งบาลีเค้ามีอะไรเป็นเกณฑ์

เกณฑ์ที่เค้ามี มันก็เป็นเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเองอีกอ่ะ

เปรียญ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ มัน ตั้งขึ้นมาหมดอ่ะ

มีไหมล่ะ สารีบุตร ได้เปรียญ ๙ หรือยัง?

ก็ไม่มีอ่ะโยม ใช่ไหม?

ทำไมไม่พูดหลักการพระศาสดา

การเชื่อมธรรมธรรมะพระศาสดา

ในเมื่อเค้าศึกษาอรรถกถา หลักการนี้เค้าใช้ไม่ได้

เค้าจะไม่มีใช้หลักการนี้ เพราะหลักการนี้

ใช้ได้กับคำของพระสัมมาสัมพุทธะผู้เดียวในโลก ใช่ไหม?

เมื่อหลักการนี้ใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ได้ เพราะว่า

เนื้อหาที่เค้าศึกษา มันไม่ใช่ของสัมมาสัมพุทธะ

มันไม่สมารถเอามาเชื่อมมาเทียบเคียง

เอ้ ทิฎฐิ ๖๒ อาจารย์นั้น พูดยังไง

หลวงปู่ หลวงตานั้น พูดยังไง ไม่สามารถหาได้

สาวกแต่ละคน พูดไม่ครบ แล้วก็ปรุงแต่งขึ้นมาเอง

มันไม่ได้ ระดับพุทธเจ้า ต้องกำหนดสมาธิทุกครั้ง

ในการพูด แล้วสาวกทำได้ไหม ๑๐ พระสูตร

ไม่แน่น เมื่อ ๑๐ พระสูตร ไม่แน่น เนี้ยะ

จะเส ไปหาคำสาวกไง ถ้า ๑๐ พระสูตร แน่นชัดเนี้ยะ

คำสาวก จะหมดราคาไปทันที

นั่นคือเค้าต้องย้อนกลับไปหา ๑๐ พระสูตรใหม่

ว่าเค้าเนี้ยะ ไม่เชื่อความสามารถ พระพุทธเจ้า

ไม่แน่น ไม่มั่นคง ใช่ไหม?

เรื่องมันง่ายๆ นะ สาวกคนใดละ กำหนดสมาธิได้

พูดสอดรับ ไม่ขัดแย้งกัน พูดเป็นอกาลิโก

ก็ไม่มีอยู่แล้ว ใช่ไหม? อื่ม

สุคตวินิโย เข้าใจไหม อ่า

ระเบียบถ่อยคำของตถาคต ที่พระพุทธเจ้าให้สาวกไปแสดง

เยอะแยะเลย นะ จริงๆ สามารถแย้งได้ทุกเรื่องอ่ะ

แต่ ไม่พูดดีกว่า เฉยๆ นะ มันก็หมดไปเอง

โยม : ผมเลยไม่ได้นั่งฟังที่ล่าสุดก็ไม่เห็นมี

ท่านพูดเรื่องนี้ ผมก็เลยต้องมาถามเอง

พระคึกฤทธิ์ : อื่ม คือ เพราะแต่ก่อนเนี้ยะ

เราก็เคยพูดของเรื่องนิพพานเป็นอนัตตา

ที่เขาพูดกันใช่ไหม? เราบอกเห้ย ไม่ใช่

นิพพานคืออย่างนี้ อนัตตาคืออย่างนี้ๆ

เวลาเค้ายกมา เค้ายกสาวกภาษิตหมดเลย

โอ้ คนละตำรากันเนาะ คุยกันไม่รู้เรื่องและ

เค้าต้องไปทำความเข้าใจ ในพระสูตรก่อนว่า

อ้า ยอมรับคำพุทธเจ้าก่อน ยอมรับพุทธวจนก่อน

แต่บางที ปากพูดว่ายอมรับพุทธวจนะ

แต่ใช้อรรถกถาตลอด อย่างเงี้ยะ นะ

เพราะฉนั้น เรื่องของคำพระศาสดา

มันมีการเชื่อมคำกัน นะ การแปลก็โอเค

แต่การแปลที่พลาด ก็มี มันไม่ใช่ว่าถูกหมด

แต่เราก็ใช้ได้ ไม่ใช่ว่าเราใช้ไม่ได้ นะ

และเวลาแปล ถ้าผิดพลาดเนี้ยะ

มันจะเกิดการขัดกัน เพราะคำพระพุทธเจ้าจะต้องสอดรับกัน

จะขัดแย้งกันไม่ได้ นะ หลักการเนี้ยะ มันไม่มีในคำของสาวก

ที่เค้าเรียนกันทั้งหลาย และมันใช้ได้แต่คำพระพุทธเจ้าเท่านั้น

แต่ทีนี้ คำพระพุทธเจ้า เค้าจะมารู้ได้ไง ในเมื่อในหัวเค้ามีแต่อรรถกถา

นะ คนหนึ่งทรงจำอรรถกถา คนหนึ่งทรงจำพุทธวจนะ

คนที่ไคร่ครวญ จากการทรงจำอรรถกถา

ก็จะไคร่ครวญในสิ่งที่ตัวเองทรงจำ ใช่ไหม?

ซึ่งพุทธเจ้าบอก การทรงจำเป็นธรรมมีอุปการะมากต่อการไคร่ครวญธรรม

การไคร่ควรญเค้าจะไคร่ครวญอยู่แต่อรรถกถา

ที่อยู่ในการทรงจำเค้า ส่วนเราทรงจำพุทธวจนะ

การไคร่ครวญของเรา จะเชื่อมโยงอยู่กับคำพุทธเจ้า

จะเป็นสกิเทวก เทวะ อะไรเนี้ยะ เรามีพระสูตรหมด

แต่คุณได้เคยใช้ตรรกะของเราไปไหม?

จริงๆคนที่วิจาร ที่มาตรฐาน จะต้องบอกว่า

อ้อ อาจารย์คึกฤทธิ์พูดอย่างนี้ๆ ต้องศึกษาของเรา

อย่างละเอียด นะ แล้วเอาของเค้าอย่างละเอียดมาเทียบเคียงกัน...

เป็นคู่ชกกที่ไม่สมควร เค้าต้องปรับทิฎฐิก่อน ว่าชัดในคำพระศาสดา

จบคลิป

นาทีที่ 13.45 น.

ครูนัท หนอนพระไตรปิฎก : เริ่มประเด็นวิพากษ์ นะคะ ประเด็นแรกเลย

คือต้องทำความเข้าใจก่อนอื่น ถ้าไม่เข้าใจประเด็นนี้ จะไม่เข้าใจทั้งหมด

คือ ที่ท่านคึกฤทธิ์ แยกพระไตรปิฎก อรรถกถา แยกว่านั่นพุทธวจนะ

นี่คำสาวก เป็นหลักสูตรของท่านคนเดียวในโลก

ในรอบ ๒๐๐๐ กว่าปี คะ ไม่เคยมีใครแยก ไม่มีประเทศใหนแยกคะ

ถ้าการศึกษาพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และบาลี เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

พุทธวจนะ ไม่ตกถึงมือท่านให้ท่านนำมาใช้ได้ จนทุกวันนี้ ถูกต้องไหมคะ?

เพราะฉะนั้น ทั้งโลกเค้าไม่มีใครแยกคะ

ดังนั้นท่านจึงเป็นคนที่พูดกับคนอื่นเค้าทั้งโลก ไม่รู้เรื่อง

ไม่ใช่คนอื่นพูดกับท่านไม่รู้เรื่อง

คนทั้งโลก เค้าพูดกันรู้เรื่องหมด

มีแต่ท่าน คนเดียว ที่พูดกับคนอื่น ไม่รู้เรื่อง นะคะ

เพื่อนๆ คะ พระไตรปิฎก อรรถกถา บาลี และฎีกา

ต้องศึกษาไปด้วยกันเสมอ นี่คือพระบรมราชโองการ คะ

เอาเฉพาะในประเทศไทย นี่คือ พระบรมราชโองการ คะ

และไม่ใช่สิ่งที่ท่าน จะเอาไปอ้างว่า ไม่ใช่พุทธวจนะ

ไม่ใช่คำสั่งพระพุทธเจ้า เพราะมันไม่จริง คะ

พระเจ้าอยู่หัว ร. ๑ ให้ชำระ พระไตรปิฎก

สอดใส่ด้วยอรรถกถา ฎีกา ให้ถูกถ้วนผ่องใส

เพื่อประโยชน์ในการศึกษา พระไตรปิฎก ได้อย่างถูกต้อง

ไม่คิดเอาเอง ไม่อธิบายเอาเอง ตามกิเลสตัณหาของตัวเอง

นั่นต่างหาก คือสิ่งที่ สืบทอดกันมา นะคะ

ถ้าเข้าใจอย่างนี้ จะเข้าใจว่าพระคึกฤทธิ์

เป็นผู้มีทิฎฐิวิปลาส แต่เพียงผู้เดียว ในโลกนี้

และในรอบ ๒๐๐๐ กว่าปีด้วย นะคะ

ที่มาข้อความ : https://www.youtube.com/watch?v=GOdCUf4ocCk
ที่มาข้อความ : https://www.youtube.com/watch?v=GOdCUf4ocCk