[CR] ANYDAY VACATION | ตอน ขับรถเที่ยวเส้นทางยอดนิยม Munich-Austria ตอนใต้-Cesky Krumlov-Prague Day 2

ความเดิมตอนที่แล้ว Day 1 : https://ppantip.com/topic/39097896
 
Day 2 : Schönbrun-Prater-Haus der Musik-Overnight train to Munich

เป็นวันที่ต้องตื่นเช้าเนื่องจากพระราชวัง Schönbrunn นั้นตั้งอยู่นอกตัวเมือง Vienna ต้องเผื่อเวลาเดินทางสักนิดนึง ที่นี่แนะนำว่าควรจองตั๋วทาง online ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกขึ้นกับว่าจะเข้าชมอะไรบ้าง โดยแบบclassic pass คนละ26.5 ยูโร สามารถเข้าชมในส่วนพระราชวัง, Privy Garden, Orangery Garden, Maze (สวนแบบเขาวงกต) และGloriette (ตึกกระจกใหญ่ๆที่สร้างบนยอดเนินเหนือไปจากตำแหน่งพระราชวัง) เมื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าของGloriette จะสามารถมองลงมาเห็นพระราชวังสวยมากๆ การเดินทางพวกเราเลือกใช้Underground สายU4 สามารถมาลงที่สถานี Schönbrunn แล้วเดินมาอีกไม่ไกล 
ภาพจากบนสถานีกับจังหวะรถไฟกำลังเข้ามาที่สถานีพร้อมกัน 
เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆประมาณ 600 เมตรจะมาถึงหน้าประตูทางเข้าพระราชวัง แต่เหมือนว่าจะมีงานแสดง(อีกแล้ว) ด้านหน้าปราสาทจึงมีแต่เวทีและการล้อมเสาเพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดสถานที่..เศร้าเล็กน้อย 
ตั๋วonline เข้าชมพระราชวังจะมีเวลาระบุไว้ จึงต้องมาให้ตรงเวลา การเยี่ยมชมห้องต่างๆในพระราชวังต้องฝากกระเป๋าไว้ที่จุดให้บริการ จากนั้นไปรับaudio guide แล้วก็เริ่มทัวร์ได้(ข้างในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ) เมื่อชมด้านในของพระราชวังเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกไปชมส่วนต่างๆเริ่มจาก Privy Garden ที่มองไปไกลลิบๆจะพบน้ำพุและบนยอดเนินเล็กๆจะมองเห็น Gloriette ตั้งอยู่.. เป็นจุดหมายที่รีดพลังหลังอาหารเช้าได้ดีทีเดียว
หลังจากเก็บภาพบรรยากาศมาได้พอสมควรพร้อมๆกับเดินมาเรื่อยๆจนถึงน้ำพุ Neptune Fountain ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปปั้นของเทพเจ้าโพไซดอน(ชื่อกรีกของเทพเจ้าNeptune) ตรีศูลและม้าน้ำ
จากจุดน้ำพุ Neptune จะมีทางเดินไปยัง Gloriette และเมื่อขึ้นไปถึงจะมีลานดินและสระน้ำ พร้อมเก้าอี้ให้นั่งพักเพื่อชมทิวทัศน์ เนื่องจาก Classic pass สามารถขึ้นไปชมวิวบนดาดฟ้าของ Gloriette ได้จะช้าอยู่ไยขึ้นบันไดวนไปแล้วก้อพบว่าไม่เสียดายค่าตั๋วจริงๆ ในภาพ นอกจากพระราชวังและฉากหลังเป็นตัวเมืองVienna เราจะพบว่าเริ่มมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมพระราชวังที่สวยงามแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
ขึ้นยอดเนินแล้วก็ใจหายต้องเดินกลับลงไปอีกรึเนี่ย55 แต่Maze (สวนแบบเขาวงกต) ก็รออยู่ จึงกัดฟันเดินลงเนินตรงไปยัง Maze โดยระหว่างทางก่อนจะถึง Maze จะมีทางเชื่อมออกไปยังเส้นทางรถม้าและเส้นทางวิ่งออกกำลังกาย ถ่ายรูปออกมาสวยไหม?
แล้ว Maze ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง  เพราะที่นี่มีรางวัลล่อใจสำหรับคนที่เลือกเส้นทางเดินได้ถูกต้องก็จะพบกับลานไม้เล็กๆที่สร้างขึ้นล้อมรอบต้นไม้ใหญ่ตรงกลางสวนโดยสร้างยกขึ้นเหนือพื้นทำให้ได้ภาพของMaze ในมุมสวยแบบนี้(ถ้าเดินไม่หลงจนถอดใจไปก่อน55) 
ใน Maze  จะมีส่วนย่อยหลายอันที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาลับสมองเลือกเส้นทางที่ถูกต้องในสวนแบบเขาวงกตแบบต่างๆ นอกจากนี้ Harmony stones (แท่งหินในภาพข้างล่าง) ยังรอให้ไปสัมผัสเพื่อรับพลังงานบวกเข้ามาในตัวเราได้ด้วย.. เดินไปมาก็ได้เวลา11 โมงแล้ว(ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาได้ว่าเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับอะไร..ถ่ายรูป?  ไม่ใช่.. หลงในสวนน่ะสิจะเหลือรึ) จึงจำใจต้องลาSchönbrunn ไปก่อนเพื่อเข้าเมืองไปเติมพลังงานก่อนจะลุยต่อในภาคบ่าย

ผ่านไป 1 โบสถ์ 1 ปราสาทของเมืองVienna ไปแล้วพวกเราจึงขอเลือกไปสวนสนุกเพื่อดูความครึกครื้นของผู้คนที่ออกมาพักผ่อนกันในวันอาทิตย์ยามบ่ายสวนสนุกแห่งนี้มีชื่อเรียกสั้นๆว่า Prater ตามชื่อเรียกของย่านชุมชนนี้การเดินทางก็สะดวกเลือกU-Bahn สายU1,2 หรือS-Bahn สายS2, 3 หรือ4 ลงสถานี Praterstern ซึ่งอยู่หน้าสวนสนุกเลยโดยที่นี่เราสามารถเข้าชมบรรยากาศข้างในได้ฟรีอยากเล่นแบบไหนค่อยเสียเงินซื้อตั๋วทำให้เป็นที่พักผ่อนยอดฮิตของชาวVienna และนักท่องเที่ยวลองไปดูบรรยากาศกันด้านหน้าจะมี Giant Ferry Wheels รอต้อนรับอยู่ 
เดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะเห็นเครื่องเล่นต่างๆเต็มไปหมด ทุกคนดูสนุกสนานกันใหญ่
บ้านผีสิงเค้าก้อมีนะ(ดูในMap จะพบว่ามี Hotel Psycho อีก1 ที่เค้าแนะนำซึ่งจะอยู่อีกโซน) 
Blumenrad (Flower wheel) กลางวันสวยขนาดนี้กลางคืนจะขนาดไหน แต่คืนนี้มาไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะตกรถไฟไป Munich
ในสวนสนุก Prater นี้ยังมีเครื่องเล่นแนวสูบฉีด Adrenaline ให้ไปลองกันอีกด้วย  เช่น Prater Tower Boomerang (รถไฟเหาะตีลังกา) หรือBlack Mamba (เครื่องเล่นแนวหมุนคว้างกลางอากาศ) 
ถึงตรงนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะพาเด็กๆไปด้วยได้ไหมเพราะที่นี่ยังมี Madame Tussauds, สวนน้ำหรือแม้แต่รถไฟจำลองที่สามารถพาเด็กๆนั่งชมบรรยากาศไปตามทางทอดยาวคดเคี้ยวอยู่ภายในอาณาจักรสวนสนุกแห่งนี้ แค่เดินเล่นดูบรรยากาศข้างในก็ฟินแล้วเรียกว่ามาได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ 

เมื่อเดินเล่นจนเริ่มคอแห้งแล้วและตามพยากรณ์อากาศที่จะมีฝนตกในช่วงบ่ายแก่ๆ  จึงต้องย้ายสถานที่ไปหาอะไรเย็นชื่นใจเข้าปากพร้อมกับหลบฝนไปในตัวซึ่ง Ice cream/ Gelato เป็นอะไรที่พวกเราพยายามจะไปชิมในทุกเมืองที่ไปเที่ยวและภาพนี้คงไม่ต้องบรรยายว่าร้านนี้มีชื่อเสียงด้านIce cream ขนาดไหน 
การเดินทางก็แสนง่ายนั่งUnderground U1 มาลงที่สถานีReumannplatz ออกสถานีมาเห็นคนมุงอะไรเยอะๆก็ตรงไปทางนั้นเลยป้ายร้านโดดเด่นขนาดนี้ 
มองเห็นคนสั่งไอติมของเรากันไหม อยู่ไหนหนอ?
ปล.ขอแนะนำว่าให้เลือกรสชาด basic ไว้ก่อนเพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะพนักงานในร้านส่วนใหญ่จะไม่พูดภาษาอังกฤษน่ะสิ... อันนี้คือสั่งรสCoconut เค้าไม่รู้เรื่องขอเปลี่ยนเป็นโยเกิร์ตได้มาเป็นสตรอว์เบอร์รี่ซะงั้น

และแล้วก่อนจะต้องจาก Vienna ไปในค่ำคืนนี้เนื่องจากเวลาเหลือหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นOvernight train ไม้ตายสุดท้ายที่เตรียมไว้คือMuseum สักที่ที่พวกเรา(ซึ่งไม่อินกับMuseum) จะได้ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ต้องยอมรับว่าอ่านรีวิวไปคร่าวๆแต่ประสบการณ์ที่ได้กลับมาเปิดโลกการท่องMuseum ของพวกเราไปมากเลยทีเดียวและแล้วก็ขอนำเสนอ.... Haus der Musik (House of Music) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเสียงและดนตรีแห่งแรกของAustria การเดินทางใช้Underground สายU1 ลงที่สถานี Karlsplatz แล้วเดินไปอีก450 เมตร ราคาตั๋วเข้าชมคนละ13 ยูโร บอกก่อนเลยว่าถึงไม่ใช่คนดนตรีแต่ที่นี่สามารถรั้งให้เราอยู่เพลิดเพลินกับเสียงและดนตรีได้หลายชั่วโมงสบายๆ 
แค่เริ่มขึ้นบันไดMusic Step by Step ก็สร้างความตื่นตะลึงทางโสตประสาทซะแล้ว 
พิพิธภัณฑ์นี้แบ่งออกเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นก็จะมีลูกเล่นให้ผู้มาเยี่ยมชมได้มีส่วนร่วมในประสบการณ์ทางเสียง จะขอแนะนำเฉพาะส่วนที่คิดว่าเป็น highlight เริ่มจากการทอยลูกเต๋าสร้าง note เพลงที่เป็นunique ของเราเองเรียกว่า Waltz Dice game ทอยไปจนครบถึงจะได้ฟังผลงานของตัวเองกัน 
ลองฟังเสียงต่างๆที่ไม่รู้เค้าไปสรรหามาจากทั่วทุกมุมโลก อาทิเช่น เสียงที่เกิดในหลอดอาหารเวลากลืนอาหารหรือเสียงจากเหตุการณ์สำคัญเช่น เมื่อยานอวกาศApollo 11 แตะพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกหรือแม้แต่เสียงที่บันทึกจากแหล่งต่างๆในเมืองใหญ่
ด้านบนยังมีการจำลองHolograms ใบหน้าและห้องทำงานของศิลปินเอกทางดนตรีของโลกหลายคนทั้งHayn, Mozart, Beethoven แน่นอนว่ารวมถึงการฟังเพลงของศิลปินเหล่านี้ในห้องทำงานจำลอง
ถ้ายังไหวเดินขึ้นด้านบนชั้น 4 และ5 ยังมีความสนุกในคนที่มีความฝันจะเป็น Conductor ในวงOrchestra ก็จะมี Virtual Conductor ให้ได้ลองฝึกเล่นอีกด้วยเรียกว่าได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานจริงๆ 

และเมื่อใกล้ได้เวลา23.25 น. พวกเราก็ต้องกลับไปที่Wien Hbf เพื่อจะขึ้นOvernight train ไปยังMunich การจองตั๋วสามารถใช้key word ได้หลายคำทั้ง“Overnight train”, “Nightjet” หรือแม้เข้าผ่านOBB (การรถไฟของAustria) หรือDB (การรถไฟของDeutsche, Germany) สุดท้ายก็จะสามารถเข้าไปเลือกเดินทางด้วยNight train (การซื้อตั๋วโดยวิธีonline มักจะไม่สามารถจองได้ก่อนวันเดินทางเกิน8-10 สัปดาห์) Overnight train นั้นมีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบที่นั่งรวม6 คน(Seat) ตู้นอนรวมหลายคนตั้งแต่4-6 คน(Couchette) หรือตู้นอนที่เป็นห้องแยก1-3 คนหรือห้องรวมสำหรับครอบครัวก็คือการเหมาตู้นอนCouchette นั่งเอง  ซึ่งแบบที่นั่งรวมยังสามารถจะเลือกตู้โดยสารที่แยกเพศหญิงและชายได้ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว
ครั้งนี้พวกเราเลือกห้องแยกสำหรับเดินทางสองคน เมื่อจองแล้วจะต้องกดPrint ตั๋วออกมาเผื่อเวลาเจ้าหน้าที่เรียกตรวจระหว่างข้ามพรมแดนด้วย(เค้าจะระบุว่าที่Austria ยอมรับE-ticket แต่ปลายทางที่จะข้ามพรมแดนอาจจะไม่แน่)  ที่ตั๋วก็จะระบุเลขขบวนรถและเลขห้องไว้เรียบร้อยไม่ต้องกังวลว่าต้องไปแย่งชิงทำเลกับใคร 

รถไฟมาแล้วๆ>> พวกเราก็ง่วงแล้วๆขนกระเป๋าให้ไว
ขอลาไปก่อนในค่ำคืนนี้ ประสบการณ์ Overnight Train ครั้งแรกจะเป็นอย่างไรไว้มาต่อกันกับพวกเรา ANYDAY Vacation ในเช้าวันพรุ่งนี้ Day 3
ชื่อสินค้า:   Munich-Austria ตอนใต้-Cesky Krumlov-Prague
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่