สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิว 1 ในโฮมสเตย์ ที่จังหวัดจันทบุรี

โดยโฮมสเตย์ที่จันทบุรีนี้ จะเป็นในแนวเดียวกันเกือบทั้งหมด คือจะเป็นแพคเกจบุฟเฟต์ รวมที่พัก 2 วัน 1 คืน 
- มื้อเที่ยงวันแรก
- มื้อเย็นวันแรก (บุฟเฟต์ซีฟู้ด)
- มื้อเช้าวันที่สอง
มีทั้งแบบสามารถขับรถไปถึงได้เลย และต้องขับรถไปจอดในจุดที่กำหนดแล้วทำการนั่งเรือของทางโฮมสเตย์ไปต่อ

โดยในวันนี้ จะมารีวิวโฮมสเตย์ที่ชื่อว่า อันนาโฮมสเตย์ โดยโฮมสเตย์แห่งนี้ สามารถขับรถไปจอดในตัวที่พักได้เลย
ไม่จำเป็นต้องฝากรถไว้ที่ไหน การเดินทางไปที่นี่ไม่ยากครับ ขับรถมุ่งตรงไปที่ จ.จันทบุรี ก่อนเลย โดยอันนาโฮมสเตย์จะตั้งอยู่ที่ อ.แหลมสิงห์
โดยบริเวณนี้จะมีโฮมสเตย์ตั้งเรียงรายให้เลือกเยอะแยะตามทางเลย แต่ปกติต้องทำการจองล่วงหน้าไปก่อนนะครับ ไม่งั้นอาจไม่มีห้องพักได้

การเดินทางจาก กทม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงก็มาถึงครับ ออกจาก กทม. สัก 7 โมงเช้า ก็จะมาถึงประมาณเที่ยงพอดี ได้เวลาอาหารมื้อแรกพอดีครับ
มาดูบรรยากาศที่พักกันเลยครับ

ด้านหน้าจะมีสไลเดอร์ และห่วงยางให้เล่นครับ โดยจะมีชูชีพให้สวมใส่ ไม่ต้องกลัวจมน้ำครับ

ที่พักจะตั้งเรียงติดๆกันเป็นห้องๆ มีทั้งห้องขนาดใหญ่ และขนาดปกติ (ขนาดปกตินอนได้ 4-6 คนครับ)
มีเปลให้นอนบริเวณที่พักด้วยครับ ไม่ต้องกลัวจม
อันนี้คือห้องพักขนาดปกติครับ มีแอร์ ทีวี และห้องน้ำในตัว (แต่ไม่มีผ้าเช็ดตัวนะครับ ต้องเตรียมมาเอง)

มีเรือเป็ดให้ถีบเล่นด้วยนะครับ
ด้านหน้าที่เห็นจะเป็นบริเวณรับประทานอาหารครับ โดยที่นี่จะมี น้ำเปล่า น้ำอัดลม โซดา กาแฟ โอวัลติน และน้ำแข็ง ให้บริการไม่จำกัด ตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ครับ

อันนี้จะเป็นอาหารมื้อเที่ยงมื้อแรกของที่นี่นะครับ ขอรวมมาเลย เพราะหิวแล้วครับ 55555+
ก็จะมี แกงส้มไข่ชะอม หมูชะมวง แกงจืด น้ำพริกปู และปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ทุกอย่างขอเติมได้ไม่อั้นครับ อร่อยหมดเลย โดยเฉพาะปูนิ่มครับ (แต่น้ำพริกแอบเผ็ดไปนิดนึง คนกินเผ็ดน่าจะชอบครับ ) ( คะแนนรวมทั้งมื้อ 4/5 คะแนนครับ)

หลังจากอิ่มแล้ว ก็สามารถออกไปขับรถเล่นบริเวณตัวเมืองจังหวัดจันทบุรีก็ได้ครับ โดยแถวๆนี้ก็จะใกล้กับหาดแหลมสิงห์ คุกขี้ไก่ หินสีชมพู เป็นต้นครับ
หรือถ้าไม่อยากออกไปไหน ทางโฮมสเตย์ก็จะมีพาไปล่องแพเปียก ไปเล่นน้ำ ชมเหยี่ยว ครับ โดยทางที่พักก็จะนัดมาเจอประมาณบ่าย 3 เพื่อออกเดินทางครับ โดยจุดขึ้นแพอยู่ไม่ไกล นั่งรถของทางที่พักไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงครับ

กิจกรรมล่องแพเปียก คิดว่าทุกโฮมสเตย์ คงมีเหมือนกันหมดครับ มาลงแพที่จุดเดียวกัน แต่มีการจัดการเป็นระบบอยู่ ไม่ต้องกลัวการแย่งกันนะครับ
ล่องไปเรื่อยๆ ก็จะมาจอด ณ จุดนึง เพื่อให้ลงเล่นน้ำได้ครับ โดยให้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นก็จะเรียกขึ้นแพเพื่อนั่งกลับไปอาบน้ำ เตรียมตัวรับประทานอาหารค่ำกันต่อครับ

มื้อเย็นที่นี่จะเริ่มประมาณ 19.00 น. โดยจะแบ่งโต๊ะๆไว้ ตามชื่อและจำนวนคนที่จองไว้ครับ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่นั่ง หรืออาหารหมดนะครับ ไม่ต้องรีบ สามารถไปเล่นสระน้ำบริเวณด้านหน้าได้ ก่อนจะถึงเวลา
มาถึงที่โต๊ะ ก็จะมีน้ำจิ้ม กับจาน มารอไว้ก่อน อาหารจะมาเสิร์ฟ เมื่อเรามานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว (น้ำจิ้มไม่เผ็ดมาก รสชาติกำลังดีเลยครับ)
ทอดมันปลา คิดว่ารสชาติปกติครับ (3.5/5 คะแนน)
ต้มยำทะเล เอาไว้ซดน้ำให้ลื่นคอ ไม่เผ็ดมาก รสชาติโอเคครับ (4/5 คะแนน)
กุ้งแช่น้ำปลา ไม่ได้กินครับ - -'' ( -/- คะแนน)
ทางร้านแจ้งว่าเป็นพล่าปลา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ต้องกินกับน้ำจิ้มที่เตรียม คิดว่าคล้ายๆปลาลวกจิ้มครับ (3/5 คะแนน)
หอยนางรมสด กินกับพริกเผา หอมเจียว รสชาติหวานครับ หลังกินไม่มีอาการใดๆ ถือว่าอร่อยครับ (5/5 คะแนน)
ปลากระพงทอดน้ำปลา กรอบ รสชาติน้ำปลาที่ราดไม่เค็มเกิน มีรสหวาน อร่อยครับ (5/5 คะแนน)
กุ้งเผา เป็นกุ้งลายเสือ เนื้อแน่นครับ สดเลยครับ เผามาร้อนๆเลย เหมือนจะเผาทุกครั้งที่ขอครับ เนื่องจากมากี่จาน ก็ต้องรอหายร้อนถึงแกะได้ (5/5 คะแนน)
ปู ปู๊ ปู ไฮไลท์อันดับ 1 ของที่นี่ครับ เนื้อสด แน่น หวาน อร่อย มีไข่เป็นบางตัว มาร้อนๆเหมือนกุ้งเลยครับ (5/5 คะแนน)

สามารถร้องคาราโอเกะได้ด้วยนะครับ โดยน่าจะให้เวลาถึงเที่ยงคืน (ตรงนี้ไม่แน่ใจ เพราะอยู่ไม่ถึง แต่ 4 ทุ่มกว่าก็ยังเห็นร้องกันอยู่นะครับ)
ในส่วนของอาหารก็จะให้บริการเรื่อยๆ จนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่มครับ ทุกอย่างขอเติมได้ไม่อั้นครับ
หลังจากอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาไปนอนเอาแรง เพื่อตื่นมาพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกันต่อครับ


ในส่วนของเช้าวันที่สอง ก็จะมีอาหารเช้าแบบง่ายๆเตรียมไว้ให้ครับ โดยอาหารเช้าจะเริ่มเวลาประมาณ 7.30

เป็นปาท่องโก๋ มีนมให้เทจิ้มนะครับ แต่ตอนมา รู้สึกเย็นไปนิด น่าจะเตรียมทิ้งไว้นานแล้ว (3/5 คะแนน)
ข้าวต้มทะเล ตักมาร้อนๆ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติโอเคแล้วครับ ไม่ต้องปรุงอะไร (3.5/5 คะแนน)
เส้นจันท์ผัดปู อันนี้อร่อยดีครับ อาหารพื้นเมืองของจันทบุรีเลย (4.5/5 คะแนน)

หลังจากอิ่มกันเรียบร้อย ก็สามารถนอนเล่นอยู่ได้จนถึง 10.00 น. หรือถ้าจะไปแล้วก็สามารถเช็คเอาท์ ออกเดินทางได้เลยครับ

ราคาที่อันนาโฮมสเตย์นี้ ถ้าเป็นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถ้าไม่ถึง 4 คน จะอยู่ที่ 2,000 บาท/คน แต่ถ้า 4 คนเป็นต้นไปจะอยู่ที่ 1,700 บาท/คน ส่วนวันธรรมดา ไม่แน่ใจ ยังไงถ้าสนใจก็ลองติดต่อสอบถามดูนะครับ ใครสนใจที่นี่ก็ตามลิงค์นี้เลยครับ 
---> https://th-th.facebook.com/unnahappy/
การจองของที่นี่ ก็จะเหมือนกับโฮมสเตย์อื่นๆ นั่นคือมัดจำก่อน 50% ส่วนที่เหลือก็มาจ่าย ณ ที่พักครับ

สรุปถือเป็นโฮมสเตย์ที่โอเคเลยครับ อาหารอร่อย เติมได้ไม่อั้น พนักงานที่โฮมสเตย์ใส่ใจดีครับ คอยถามตลอดเวลาว่าจะรับอะไรเพิ่มอีกไหม ตั้งแต่มื้อแรกจนถึงมื้อจะกลับเลยครับ (5/5 คะแนน)

จริงๆ ตอนที่จะจองก็เล็งไว้ 2-3 ที่ครับ แต่สาเหตุที่เลือกที่นี่ เนื่องจากตอนติดต่อสอบถาม ขอรายละเอียดที่พัก ที่นี่มีการตอบกลับที่รวดเร็ว พนักงานตอบคำถามได้น่ารัก และให้ข้อมูลโอเคครับ ก็เลยตัดสินใจไม่ยากว่าจะเลือกที่ไหน

ทั้งหมดที่รีวิวไป เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

สำหรับรีวิวอันนาโฮมสเตย์ ก็ขอจบลงเท่านี้นะครับ ไว้มีโอกาสจะมารีวิวอื่นๆต่อไปนะครับ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ