ส่วนตัวมองว่าศาสตร์การนวด ถ้าทำโดยผู้รู้จะเป็นการดูแลสุขภาพที่ได้ผลจริง รักษาโรคทางกล้ามเนื้อได้บางโรคแต่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
การนวดเป็นงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญ ต้องใช้ประสบการณ์จากการลงมือจริง และใช้ความรู้เฉพาะทางเพื่อวิเคราะห์เพื่อแก้ไขให้ถูกจุด
แล้วความนิยมตอนนี้ในบ้านเราเป็นยังไงครับ พอดีต้องการศึกษาต่อเพื่อต่อยอด อยากรบกวนโหวตและแสดงความคิดเห็น
เกริ่นก่อนว่าผมไปเมืองนอกแล้วได้ทำงานด้านการนวด ไปเรียนเกี่ยวกับนวดแก้อาการของเค้ามาด้วย จะเป็นแนวๆ clinical massage นะครับจากออสเตรเลีย เรียนแบบเน้นวิเคาะห์และวางแผนก่อนการนวด
หลักสูตรเป็นใบประกาศ 2 ปี จริงๆมีถึงขั้นปริญญาเลยแต่ไม่ได้เรียนครับ ก็เรียนค่อนข้างลึกพอสมควรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับวิชาชีพ
นอกจากด้านระบบต่างๆของร่างกาย โรคต่างๆแล้วก็สอนเกี่ยวกับระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเกือบทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับการนวด
ไม่ถึงขั้นผ่าดูแต่ก็สอนให้จับทุกชิ้นที่ทำการนวดได้ครับ รวมไปถึงการคลำหาจุดยึดของกล้ามเนื้อบนกระดูกให้แน่ใจว่ารู้แล้วจริงๆ
จบแล้วสามารถทำงานร่วมกับหมอและนักกายภาพได้ เสียดายที่ผมตัดสินใจกลับไทยเลยไม่ได้ลองหางานทำ
ที่ออสเตรเลียด้านนี้เขาให้ความสำคัญมากจริงๆ ทำงานในคลินิคด้านสุขภาพได้ ก็มีหน้ามีตาในสังคมพอสมควรเลยต่างกับบ้านเรา
พอกลับมาไทยแล้วรู้สึกว่าตัวเองด้อยไปเลยครับ แล้วก็ต้องไปเรียนใหม่เอาใบประกอบวิชาชีพ ใช้เวลาค่อนข้างนาน
ผมตัดสินใจเรียนระดับปริญญาเลยเพื่อที่จะให้มีโปรไฟล์ที่ดีให้คนเชื่อถือ แต่ก็ยังรอการตอบรับอยู่
ใจผมต้องการศึกษาให้ลึกขึ้นด้วยครับ ที่เลือกแพทย์แผนไทยเพราะต้องการใบเพื่อเปิดสถานประกอบการนวดแก้อาการ เผื่อทำงานเป็นครูด้านนี้ด้วย
มีช่วงนึงคิดอยู่ว่าจะเข้าวิทย์การกีฬาดีมั้ย เพราะดูจะเรียนจะมีความเชี่ยวชาญด้านฟังก์ชันการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อ แต่ผมมองว่าอแพทย์แผนไทยก็จะเรียนแบบองค์รวม จะไปต่อเฉพาะทางด้านอื่นน่าจะง่ายขึ้น เห็นมีของรามสามารถเรียนได้โดยไม่ต้องเข้าไปเชคชื่อในห้อง อาจจะเรียนควบคู่กันไป
ส่วนนักกายภาพนี่ไม่ค่อยเกี่ยวกับการนวดอยู่แล้ว และมีการศึกษาที่ลึกและต่างกันออกไปกับสิ่งที่ผมสนใจทำ การรักษาก็ต่างกันออกไปเลยไม่ได้สนใจเรียน แต่ก็อยากรู้ความคิดเห็นของคนทั่วไปว่าเวลามีอาการบาดเจ็บแล้วเลือกการรักษาทางไหนเป็นอันดับแรกๆ เพราะราคาก็ค่อนข้างจะต่างกัน
ปล. ตอนนี้ก็31แล้วครับ แต่คิดว่าทำงานด้านสุขภาพ มีอายุแล้วมันไม่เสียหาย ถ้ามีความสามารถจริงก็พอมีที่ยืนอยู่ เพราะความรู้ด้านวิทย์สุขภาพมันก็อัพเดททุกๆวันอยู่แล้ว ถ้าขยันหน่อยก็ยังพอมีทางไป ถึงแม้เรื่องที่ผมเป็นผู้ชายจะมีปัญหากับการทำงานบ้าง
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หาใครดีสุดครับ [ แพทย์แผนไทย / นักกายภาพ / นักวิทย์ศาสตร์การกีฬา / หมอนวดแก้อาการ
การนวดเป็นงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญ ต้องใช้ประสบการณ์จากการลงมือจริง และใช้ความรู้เฉพาะทางเพื่อวิเคราะห์เพื่อแก้ไขให้ถูกจุด
แล้วความนิยมตอนนี้ในบ้านเราเป็นยังไงครับ พอดีต้องการศึกษาต่อเพื่อต่อยอด อยากรบกวนโหวตและแสดงความคิดเห็น
เกริ่นก่อนว่าผมไปเมืองนอกแล้วได้ทำงานด้านการนวด ไปเรียนเกี่ยวกับนวดแก้อาการของเค้ามาด้วย จะเป็นแนวๆ clinical massage นะครับจากออสเตรเลีย เรียนแบบเน้นวิเคาะห์และวางแผนก่อนการนวด
หลักสูตรเป็นใบประกาศ 2 ปี จริงๆมีถึงขั้นปริญญาเลยแต่ไม่ได้เรียนครับ ก็เรียนค่อนข้างลึกพอสมควรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับวิชาชีพ
นอกจากด้านระบบต่างๆของร่างกาย โรคต่างๆแล้วก็สอนเกี่ยวกับระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเกือบทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับการนวด
ไม่ถึงขั้นผ่าดูแต่ก็สอนให้จับทุกชิ้นที่ทำการนวดได้ครับ รวมไปถึงการคลำหาจุดยึดของกล้ามเนื้อบนกระดูกให้แน่ใจว่ารู้แล้วจริงๆ
จบแล้วสามารถทำงานร่วมกับหมอและนักกายภาพได้ เสียดายที่ผมตัดสินใจกลับไทยเลยไม่ได้ลองหางานทำ
ที่ออสเตรเลียด้านนี้เขาให้ความสำคัญมากจริงๆ ทำงานในคลินิคด้านสุขภาพได้ ก็มีหน้ามีตาในสังคมพอสมควรเลยต่างกับบ้านเรา
พอกลับมาไทยแล้วรู้สึกว่าตัวเองด้อยไปเลยครับ แล้วก็ต้องไปเรียนใหม่เอาใบประกอบวิชาชีพ ใช้เวลาค่อนข้างนาน
ผมตัดสินใจเรียนระดับปริญญาเลยเพื่อที่จะให้มีโปรไฟล์ที่ดีให้คนเชื่อถือ แต่ก็ยังรอการตอบรับอยู่
ใจผมต้องการศึกษาให้ลึกขึ้นด้วยครับ ที่เลือกแพทย์แผนไทยเพราะต้องการใบเพื่อเปิดสถานประกอบการนวดแก้อาการ เผื่อทำงานเป็นครูด้านนี้ด้วย
มีช่วงนึงคิดอยู่ว่าจะเข้าวิทย์การกีฬาดีมั้ย เพราะดูจะเรียนจะมีความเชี่ยวชาญด้านฟังก์ชันการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อ แต่ผมมองว่าอแพทย์แผนไทยก็จะเรียนแบบองค์รวม จะไปต่อเฉพาะทางด้านอื่นน่าจะง่ายขึ้น เห็นมีของรามสามารถเรียนได้โดยไม่ต้องเข้าไปเชคชื่อในห้อง อาจจะเรียนควบคู่กันไป
ส่วนนักกายภาพนี่ไม่ค่อยเกี่ยวกับการนวดอยู่แล้ว และมีการศึกษาที่ลึกและต่างกันออกไปกับสิ่งที่ผมสนใจทำ การรักษาก็ต่างกันออกไปเลยไม่ได้สนใจเรียน แต่ก็อยากรู้ความคิดเห็นของคนทั่วไปว่าเวลามีอาการบาดเจ็บแล้วเลือกการรักษาทางไหนเป็นอันดับแรกๆ เพราะราคาก็ค่อนข้างจะต่างกัน
ปล. ตอนนี้ก็31แล้วครับ แต่คิดว่าทำงานด้านสุขภาพ มีอายุแล้วมันไม่เสียหาย ถ้ามีความสามารถจริงก็พอมีที่ยืนอยู่ เพราะความรู้ด้านวิทย์สุขภาพมันก็อัพเดททุกๆวันอยู่แล้ว ถ้าขยันหน่อยก็ยังพอมีทางไป ถึงแม้เรื่องที่ผมเป็นผู้ชายจะมีปัญหากับการทำงานบ้าง