เพราะร่างกายต้องการสูด Oxygen ให้เต็มปอดทริปนี้จึงเกิดขึ้น 

สวัสดีเพื่อนชาวพันทิปทุกคน เนื่องจากเราหาข้อมูลไป New Zealand จากในพันทิปไปเที่ยวทริปนี้ค่อนข้างเยอะมากเลยอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่ไปมากลับให้ทุกท่านได้อ่าน ต้องขอบอกก่อนว่า ทริปนี้เดินทาง Road trip และเน้นธรรมชาติมากๆ และสิ่งที่จะได้ไปเห็น รูปภาพได้ผ่านการ Process สีมา แต่ของจริงที่ดูด้วยตานั้นสวยกว่ามาก เรื่องการประหยัดกับการกิน และ การเดินทางนั้นไม่ได้อยู่ในทริปนี้ใครที่มองหาความประหยัดข้ามไปได้เลยค่ะเพราะเราเน้นกินกาแฟดี อาหารอ่รอย ที่พักดี แต่บางมื้อก็เอามามาม่าไป เพราะอยากกินรสเผ็ดๆแบบไทย และเน้นการทำกิจกรรมที่สามารถทำได้ในช่วงที่ไป เพราะมีหลายอย่างไม่ได้ทำเนื่องจากอากาศไม่อำนวย ขอใช้เงินซื้อประสบการณ์แบบเต็มที่

เราเดินทางช่วงหลังสงกรานต์ เข้าสู่ฤดูใบไม่ร่วง อากาศค่อนข้างเย็นแล้วโดยเฉพาะเกาะใต้แต่ก็ยังไม่หนาวมาก ทำให้เราเห็บใบไม้เปลี่ยนสี แต่ยังมีหิมะอยู่บนภูเขาบ้าง

แผนการเดินทาง

Day 1, 16 Apr: Bangkok –Auckland นอนบนเครื่อง

Day 2, 17 Apr: Auckland -Christchurch – นอน Christchurch

Day 3, 18 Apr: Christchurch- Springfield - Greymouth (via Arthur’s Pass)- Punakaiki --นอน Hokitika

Day 4, 19 Apr: Hokitika - Franz Josef Glacier - Fox Glacier- Lake Matherson นอน Franz Josef

Day 5, 20 Apr: Bruce Bay & night point lookout, Thunder Creek falls, blue pools walk – Wanaka – นอน Lake Hawea

Day 6, 21 Apr: Wanaka – Cardrona hotel- Crown range & Arrow junction lookout – Arrow town นอน Queenstown

Day 7, 22 Apr: Queenstown - Te Anau - Milford Sound นอน Milford Sound

Day 8, 23 Apr: Milford Sound – Queenstown นอน Queenstown

Day 9, 24 Apr: Queenstown –Lindis pass – Mount Cook- Lake Pukaki – นอน Lake Tekapo

Day 10, 25 Apr: Lake Tekapo – Christchurch – นอน Auckland

Day 11, 26 Apr: Auckland – Waitomo Glowworm – นอน Hamilton

Day 12, 27 Apr: Auckland – BKK

สายการบิน : การบินไทย บินตรง BKK- Auckland : Dreamliner business class

บินในประเทศ Auckland -Christchurch ขอเทใจเลือก Air New Zealand

ข้อดี: full service จองล่วงหน้าราคาไม่แพง แถมการเช็คอินทำง่ายสบาย

ข้อเสีย: ขนมไม่ค่อยอร่อย แต่นั่งแป๊บเดียวก็ถึงไม่ได้ถึงกับต้องซีเรียส

การเช่ารถ : ใช้ของ EZI Car ดีเลย

ข้อดี : รถโอเค ตอนรับรถไมลล 2 หมื่นนิดๆ รับรถง่ายในตัว คืนง่าย

ข้อเสีย: การคืนรถที่สนามบิน Auckland เพราะว่าจุดรับและคืนอยู่รอบสนามบิน เดินไกลมากแต่มี Shuttle Bus แนะนำให้ซื้อประกันครอบคลุมทุกอย่างเพราะระหว่างทางบางทีเราระวังแล้วแต่ธรรมชาติไม่ได้ระวังให้เรา เรื่องหินร่วงใส่รถเป็นสิ่งที่เกิดได้ประจำ ซื้อไปดีกว่าจ่ายที่หลัง

Mobile: เปิด Roaming AIS หรือใครสะดวก Sim 2 Fly ไม่ว่ากัน สัณญาณ ok ทั้งคู่

GPS: Google map ล้วน กับใช้ GPS ในรถบ้าง

การขับรถ : ความเร็วอย่างเกินตามป้ายบอก overall ไม่ควรเกิน 100 ตำรวจตามมาจับจริง เนื่องจากขับรถระยะทางไกลขอแนะนำให้โหลดเพลงไว้หลายๆแนว แก้ง่วงได้ดีทีเดียว

DAY BY DAY

Day 1-2:

นอนบนเครื่อง ขอรีวิว Dreamliner ที่นั่งสบายนอนราบ 180 องศา entertainment flight หนังใหม่ อาหารรสชาติ ไม่ได้อร่อยมากพอทานได้ ไม่แย่ ชอบ Dreamliner ตรงที่กระจกสามารถเปลี่ยนสีได้เวลามีแสงสว่างเยอะ เราสามารถปรับสีได้ ส่วนที่ไม่ชอบคือที่นั่งแบบถ้ามา 2 คนที่ติดกัน ตรงกลางมันไม่เชื่อมหากันเลยน่าจะมีบางคู่ที่ติดกันแบบใกล้กันได้มากกว่านี้ แต่ overall ก็คือโอเค ตรงเวลามากในเส้นทางนี้

ไฟลต์บินมาถึง 10.45 พร้อมเที่ยวช่วงบ่ายได้เลย แต่เราต่อเครื่องไปยัง Christchurch ขอแนะนำสายการบิน Air NZ สะสวกสบายในเรื่องการTransfer กระเป๋าไม่ต้องลากกระเป๋าข้ามตึกไปยัง domestic ลงจาก international ออก ต.ม. counter Air NZ สามารถโหลดกระเป๋าได้เลย สบายสุดๆ

มาถึง Christchurch ช่วงบ่ายเย็นแล้ว เราไปรับรถของ EZI และ เข้าที่พัก Air BNB BnB on Hagley Park ราคาไม่แพง host เป็นคนเกาหลี friendly ปลอดภัย และออกไปทานข้าวร้าน 5th Street บรรยากาศดี อาหารอร่อยต้องจองล่วงหน้า

Day3: Christchurch – Hokitika

ก่อนเดินทางขอเติมกาแฟกับร้านกาแฟชื่อดัง AllPress Espresso ฟีลประมาณ Roots บ้านเรา ที่นี่มีโรงคั่วกาแฟ และที่เรียนทำกาแฟ เป็น Specialty coffee shop ตัวจริง พนักงานก็ Hipster เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง 10 เต็มไปเลย

1. Sheffield Pie Shop: ขับผ่านเมือง Sheffield ห้ามพลาดที่ต้อง แวะร้านพายแห่งชาติที่ทุกคนต้องมา มีพายมากมายแป้งหลายอย่างทั้ง Gluten หรือ ธรรมดา ส่วนไส้พายก็มากมายตามภาพเลย ซื้อตุนไว้ระหว่างทางก็ดี ช่วยได้มากเวลาหิว ๆระหว่างขับรถ

2. Castle Hill: ขับไปกินพายไปก็มาถึง Castle Hill จอดรถด้านหน้าแล้วเดินเข้าไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นแท่งหินมากมายเรียงรายอยู่บนพื้นหญ้า ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสวยมาก ได้วิวหิน ๆ ที่นี่มี Walking track สามารถเดินไปได้หรือใครจะขึ้นไปบนหินก็ได้

3. Auther's Pass Visitor Center: ขับต่อไปภูมิประเทศเริ่มเปลี่ยนเป็นทิวเขา วิวก็จะเปลี่ยนไปจากแถบ Castle Hill เขาจะเป็นหิน บางเขามีต้นไม้สลับไปกับทุ่งหญ้า เราแวะถ่ายรูปที่ป้าย Auther’s Pass national park แล้วไปต่อ

4. Otira Viaduct: จุด Lookout หรือจุดชมวิว มุมสูงล้อมด้วยเขาและต้นไม้มองเห็นถนนเราต้องขับต่อไปยัง Greymouth

5. Greymouth: เมืองเลียบชายทะเลเราแวะร้าน MONTEITH’s เพื่อทานข้าว ร้านนี้จริง ๆแล้วเป็นโรงหมักเบียร์หลายชนิดมากมีแบบ Cider, Hobs, Malts, freshment หลายฟีลมาก มีทัวร์ให้เข้าไปชมเรื่อง Beer brewing ด้วย เค้าเปิดมา 150 ปีแล้ว ร้านตกแต่งดิบ ๆ สวยเลย

6. Punakaiki Pancake Rock: หลังกินข้าวเสร็จเราแวะเติมน้ำมันเพราะเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่เราจะผ่านแล้วจากนั้นขับไป Punakaiki Pancake Rock ทางค่อนข้างเป็นภูเขาสลับชายฝั่ง สวยมาก มาถึง Punakaiki เราจอดรถฝั่งตรงข้ามแล้วข้ามถนนไปจะเจอทางเข้า เพื่อดูหินเรียงกันเหมือนแพนเค้กที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำและลมเป็นล้านปี ที่นี่สามารถนั่งดูพระอาทิตย์ตกได้ด้วยบรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ ขากลับเราต้องกลับทางเดิม มองวิวพระอาทิตย์ ชิลมาก Next station Hokitika

7. Hokitika: ขับลงเขา ผ่าน Grey Mouth เพื่อไปค้างคืนที่ Hokitika เรานอน Air BNB ชื่อ River and Trail Apartment โอเคเลย บ้านใหญ่ นอนได้หลายคนมาก facility พร้อมทุกอย่าง วิวหลังบ้านก็สวยแนะนำ