ก็มาถึงภาคสองกันแล้วนะครับ ต่อจากภาคแรก A Dog's Purpose ที่ว่าด้วยเรื่องราวของหมาที่ชื่อ เบลี่ย์ ที่อยู่กับเจ้าของ อีธาน อย่างมีความสุขจนถึงเวลาที่มันต้องลาจาก ก่อนเบลี่ย์สิ้นใจ
เขาได้ก้มลงบอกมันมันอย่างอาลัย "กลับมาหาฉันนะ ไม่ว่ากี่ชาติฉันก็จะรอแก"

การผจญภัยของหมาระลึกชาติเบลี่ย์ในภารกิจค้นหาเป้าหมายตัวเองจึงเริ่มต้นขึ้น ผ่านไปหลายชาติหลายชีวิต จนวันนึงมีโอกาสได้กลับมาเจอกับเจ้าของในที่สุด จบภาคแรก A Dog's Purpose จนมาถึงภาคต่อนี้

แล้วคุณจะรู้ว่า ระยะทาง และเวลา นั้นไม่เคยเป็นอุปสรรค กับ มิตรภาพ..


✳️ เป็นช่วงเวลาเกือบสองชั่วโมงที่อิ่มเอมมีความสุขมาก น้ำตาริ้นทั้งเรื่อง คืนฟอร์มแฟรนไชส์ dog purpose ได้แบบก้าวกระโดดขึ้นมาอีก คราวนี้หนังไม่ได้หยิบแค่ประเด็นของคนรักหมามาเล่นเท่านั้น แต่ยังนำสารพัดเรื่องในช่วงชีวิตเจ้าของมาเรียงร้อยกันได้อย่างลงตัว แต่ละชาตินี่ได้เห็นแต่ละคนเติบโต ย้ายไปมา มีงานมีการ มีความรักใหม่ ควบคู่ไปกับเบลี่ย์ที่จะขอตามหา ตามปกป้องกันไปทุกชาติ ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหน แต่หัวใจเราเชื่อมถึงกัน

✳️ ได้เห็นความน่ารักของหมาหลายสายพันธุ์แต่ละชาติของเบลี่ย์ ไม่ว่าจะเป็น บลูด็อกกล้ามบึ้ก บีเกิ้ลจอมซน จนไปถึงชิสุสายวีน และหนังกำกับซีนอารมณ์น้องหมาออกมาได้สุดยอดทุกตัว ครบรสมากๆ โกรธ เศร้า เหงา ปลื้มปิติ น้องตูบคว้าใจคนดูได้อยู่หมัดมากๆ แถมยังดึงท่าทาง นิสัยของหมาแต่ละชาติมาใช้ได้คุ้มค่า และน่าจดจำจริงๆ ใครรักหมาได้มีกรี๊ดกันตายคาโรงแน่ๆ

✳️ แอดมองว่าหนังฉีกตัวเองออกไปจากภาคแรกได้ไกลขึ้นมาก ขยายกลุ่มเป้าหมายจากคนรักหมา only เป็นแนวดราม่าเล่าเรื่องราวมิตรภาพ และให้ข้อคิดดีๆในชีวิต ซึ่งทำออกมาได้สวยงามกลมกล่อม จนไม่รู้สึกว่ามีด้านไหนลดทอนลงไปมากนัก รวมถึงแต่ละชาตินั้นเชื่อมโยงตัวละครเดิม ไม่แยกขาดจากกันเหมือนภาคแรก

✳️ มีดราม่าจากลาเบลี่ย์แต่ละชาติไม่พอ ภาคนี้ยังมีดราม่าครอบครัวอุปสรรคชีวิตที่หนังกะขยี้เราเอาตาย ทั้งช่วงปะทุและช่วงที่กลับมาเข้าใจกัน เหวี่ยงเราขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะ น้ำตาซึมจนไม่รู้จะซึมยังไงแล้ว ได้เห็นการพัฒนาของตัวละครแต่ละรุ่นตั้งแต่แบเบาะยันโต ที่น้องหมาเบลี่ย์ของเรากลับชาติมา แล้วสุดท้ายกลับมาเจอกันอย่างปลื้มปิติ แถมตบท้ายทุกอย่างในภาคแรกให้หายคิดถึงอีก ไม่ว่าใจแข็งยังไงคุณไม่พ้นเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้แน่นอน

✳️ นักแสดงแสดงได้โคตรอิน สมบทบาททุกคน ไม่ว่าจะเป็นตายายเจ้าของเบลี่ย์เก่า ลูกสาวที่โตเป็นแม่คน รุ่นหลานสาว คนต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ทำให้ซีนดราม่ามีอิมแพคสูงมากเรียกน้ำตาได้ทั้งเรื่อง ประทับใจมากที่นักแสดงต่างคน เล่นเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยแก่ ได้เนียนจนเหมือนเป็นคนๆเดียวกัน

✳️ หนังก้าวเข้าสู่ช่วงตบท้ายเรื่องได้ขยี้ใจ ทิ้งข้อคิดไว้อย่างดี รู้สึกถึงมิตรภาพระหว่างสองสายพันธุ์ ที่เกิดมาเพื่อเคียงคู่กันจริงๆ ทั้งประทับใจ และนับถือในไอเดียการนำเสนอของหนังมาก มันสวยงาม และแมสกับความเชื่อของเราด้วย ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนจบแล้วมีความสุข เสียน้ำตาเป็นลิตรขนาดนี้


✴️ หนังเริ่มลดทอนดราม่าส่วนของหมาลง แล้วไปเน้นดราม่าชีวิตเจ้าของแต่ละคน โดยมีเจ้าเบลี่ย์เป็นสื่อกลาง ด้านความทัชในอารมณ์สำหรับคนรักหมาเลยอาจจะลดลง 10-15% และก็มีเรื่องของมุกพากย์หมาบางอย่างที่ภาคนี้พยายามเล่นซ้ำ พร่ำเพรื่อเกินไปหน่อย จนแบบว่ามุกนี้.. อีกแล้วเหรอ

ใครไม่ได้รักหมา แต่อยากหาหนังดีๆ สักเรื่องดูยังไงก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ อยู่ครับ สัปดาห์นี้ต้องรีบโกย เพราะโชคดีมากที่มีหนังดีๆเข้าติดกันถึงสามเรื่อง Child's Play, Parasite, Dog's Journey มีความสุขอิ่มเอมมาก

===================
🏅คะแนนรวม 9/10
===================
🔻 การรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวหลังรับชม Please have นานาจิตตัง in mind..

❗ใครไม่เคยภาคแรกไม่ต้องกังวลไป หนังเกริ่นให้เราฟังพอสมควรเกี่ยวกับเบลี่ย์ และเจ้าของคนเก่า แค่อาจไม่อินขั้นเดียวกับแอดเท่านั้นเอง 7-8 ได้อยู่


ติดตามรีวิวหนังเปิดอกจัดเต็ม ไม่มีอวย ได้ที่
✔️ เฟสบุ้ค "คนจริงไม่อวยหนัง"
www.facebook.com/IndyMovieReviewer