เรื่องของเรื่องเลยนะคะ เราคบกับแฟนมาเกือบ 10 ปี เริ่มต้นตั้งแต่บ้านเราโดนยึด เลยต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ได้ 2-3 ปี เราคุยกับที่บ้านว่า ให้เราไปอยู่บ้านแฟนดีไหม เพราะตอนนั้นแฟนก็ชวนเราไปอยู่ด้วย ที่บ้านก็โอเค แต่ตอนแรกก็ถามเราว่าจะจัดงาน มีงานแต่งอะไรไหม เรากับแฟนก็พึ่งเริ่มสร้างตัว เลยบอกไปว่ายังไม่มี ขอเก็บเงินกันก่อน ที่บ้านเราก็โอเค
หลังจากนั้น เราก็เข้ามาอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเยอะ มีบ้าน 3 หลัง ในรั้วเดียว หลังแรก มี ย่า แฟนเรา น้องชาย(ลูกน้า) น้องสาว(ลูกน้า): ซึ่งตอนนั้นน้องไปเรียน ตจว. หลายเดือนกลับมาครั้ง
หลังสอง มี น้า กับ น้าเขย
หลังสาม มี ป้า ลูกชายป้า+แฟน ลูกสาวป้า+แฟน
ก็ปกติดี ไม่มีอะไร เรามีหน้าที่หากับข้าวตอนเย็น หรือเช้า ถ้าย่าไม่มีอะไรทาน อ่อ แล้วเราก็มีหมาแมว ซึ่งเข้าใจนะคะว่าเป็นภาระ แต่จะให้เราเอาไปปล่อยก็ใช่ที่ ซึ่งที่บ้านแฟนเขาทำบ้านหลังเล็กๆไว้หลังนึง ให้หมาเราไปอยู่ ซึ่งเราก็ขอบคุณในน้ำใจของพวกเขามากๆ ที่ไม่คิดรังเกียจ
ด้วยความที่ตอนเย็น คนที่จะกินข้าว ก็จะมี ย่า แฟนเรา เรา น้า น้าเขย น้อง(เป็นบางวัน). เรามองว่าเราจ่ายค่ากับข้าววันนีงก็หลักร้อย เราเลยไม่ได้จ่ายค่าน้ำ-ไฟ. เรายอมรับว่าผิดที่ละเลยเรื่องนี้ จนกระทั่งอยู่มาปีนึง เราไปหาครอบครัวเรา กลับมา ย่าก็คุยกับเราเรื่องค่าน้ำไฟ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราเริ่มจ่ายไปเดือนนึง เราให้ 3,000 บาท พอเดือนที่สอง เราให้ 2,000 บาท ย่าเขาก็ถามเราประมาณว่า จะให้แค่เงินแล้วไม่ช่วยทำอะไรเลยใช่มั้ย. เราก็แจงไปว่า เราไม่รู้จะหาร 2 หรือ 3 เพราะ หาร 2 คือ เรากะแฟน. / เรากะน้อง / น้องกะแฟน. ย่าเขาพูดมาว่า ทำไมต้องไปคิดกับน้อง หลังจากนั้นเราก็เป็นคนจ่ายเรื่องมา
การใช้ชีวิตกับแฟนเรา เรายอมรับว่าเราค่อนข้างอยากให้เขาสบาย เปย์อะไรแทนได้คือเปย์ แล้วจนมาปีที่แล้ว เขานอกใจเรา แต่เราจับได้ ตั้งแต่คบกันมา เขาก็มีมาเล็กๆน้อยๆ ไม่อะไรมาก แต่คนนี้คือหลอกเรามา 5 เดือน เป็นคนที่ทำงาน จนเราไม่ไหว จะเลิก เขาก็ขอโอกาส เพราะปลายปีนั้นเขาบวช. พอสึกออกมา เขาขอโอกาสเรา เขาไปทบทวนมาดีแล้ว.
กับความสัมพันธ์บ้านเขา เราค่อนข้างสนิทกับทุกคน ใครๆเราก็เข้าได้ กับน้องเราก็สนิท เรารักเหมือนเป็นน้องเราเอง ตอนนั้นแฟนเงินเดือนเยอะกว่าเรา หลายพันอยู่. ไม่ค่อยอะไรมาก แต่แฟนก็ใช้เงินเก่ง ชวนเราไปข้างนอกบ่อย เราก็โอเค ไปๆ. แต่ส่วนใหญ่เราก็จ่าย
จนพอแฟนเปลี่ยนงานมาทำที่เงินเดือนน้อยกว่าในช่วง 3 เดือนแรก หักค่ารถแล้ว เหลืออยู่ 5 พัน เราก็ไม่เคยขอเขา เพราะตั้งแต่คบมา เราขอน้อยมาก ส่วนใหญ่ 100-200 แต่เขาก็ยังชวนไปไหนมาไหน เพาะส่วนใหญ่เป็นเงินเรา ตอนนั้นผ่อนโทรศัพท์ของเรากะเขา 2 เครื่อง 50,000 กว่า เราเป็นคนผ่อน เขารับจ่ายค่าบัตรอีกใบนึง พอตอนนี้ เขาย้ายงานกลายเป็นว่า บางเดือนเราก็ต้องจ่ายค่าบัตรด้วย
แฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อนกับเราพอสมควร โกรธเราทีคือไม่คุยเป็นอาทิตย์แม้จะนอนห้องเดียวกันก็ตาม
มันเคยมีปัญหามาครั้งนึง เรายืมเงินน้าไปจ่ายค่ารถเรา แฟนรู้ โกรธเรามาก เหมือนเราทำอะไรข้ามหัวเขา เราก็รู้ว่าเราผิด ปากมันบอกไม่ให้เราเป็นหนี้คนนอกบ้าน แต่พอเรายืมในบ้านคือเป็นปัญหาแต่เรื่องนั้นจบไปแล้ว
ปัญหาต่อมาคือเงินเราไม่พอใช้แล้ว เพราะจ่ายหลายอย่าง เราก็ยืมเพื่อนบ้าง ก็ใช้คืนตรง แต่มันกลายเป็นเงินหมุน จนวันนึงพ่อเราเข้า icu ต้องผ่าตัดใหญ่ พ่ออายุมากแล้ว 80 ปรใช้เงินหลายแสนบาท ซึ่งตรงนั้น ลูกสาวพ่ออีกแม่นึง(ภรรยาเก่า) เขาเป็นคนจัดการเพราะเขามีเงิน แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมาซัพพอทเรากับแม่ด้วย
ว่ากันด้วยเรื่องแม่ คือหลายๆคนมองแม่เราไม่ดี เรายอมรับ เมื่อก่อนแม่เราติดพนัน ทำให้เป็นหนี้จำนวนมาก แล้วแม่ก็จะโกหกเพื่อขอเงิน แต่ตอนนี้พอชีวิตแย่ลง แม่เรามาทำกับข้าวขาย แต่เงินที่ได้ก็ใช้หนี้หมด. ทำให้บางวันไม่มีทุนพอซื้อของ ก็จะขอเราหรือพ่อ แล้วแม่เราก็ป่วยหลายอย่างแต่ก่อนชอบซื้อยามากินเองโดยไม่ไปหาหมอ ทำให้ยามันส่งผลกับร่างกายในปัจจุบัน ข้อเข่ามีปัญหา ท้องโต ผังผืดที่แขน แฟนเราไม่ชอบครอบครัวเรามานานแล้วว่ากันตามจริง ด้วยความที่แต่ก่อนแม่ชอบโกหก เวลาแม่พูดอะไร หรือมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับแม่คือแฟนเราจะไม่เชื่อเลย
อ่ะ ต่อจากพ่อเข้าโรงพยาบาล เรารู้ตัวแล้วว่าเดือนนี้แย่แน่ เพราะพ่อยังไม่รู้สึกตัว เราเลยไปขอยืมเงินเพื่อนมา จ่ายค่ารถ และ สำรองไว้เรื่องแม่ เพราะพ่อป่วยขนาดนั้น เราไม่อยากให้แม่ไปกวนพ่อ เราก็ผ่อนจ่ายกับเพื่อน ก็ไม่มีอะไร
จนกระทั่งเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นแม่ต้องไปผ่าตัดเล็กรอบนึง รวมค่ายาอะไรแล้ว ก็หลายพันอยู่. แล้วที่แม่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้เป็นตึกพาณิชย์พังๆ ที่มันร้างๆ แม่เราขายของเย็นถึงเช้า นอนช่วงกลางวัน แม่บอกเราว่า แม่มีเงินประมาณ 8,000 จะขอเรา 8,000 ไปติดแอร์. ขอหาหมอ กับ ทุนขายของด้วย รวมๆแล้วประมาณ 14,000 เราบอกเราไม่มี แต่ด้วยนิสัยแม่ของเราเอง เรารู้ว่าเขาจะมีดราม่าตลอด ถ้าตอนไหนที่ขอเงินพ่อไม่ได้ ก็จะโทรมาจี้ๆๆๆๆเรา ให้คุยกับพ่อ เรากับพ่อแก้ปัญหากันผิดวิธีมาตลอด ให้ไปเพื่อตัดรำคาญ. แล้วตอนนั่นพ่อเราป่วย เงินก็ไม่มี เราพาแม่ไปเยี่ยมพ่อ แม่ก็นั่งพูดแต่เรื่องนี้ แล้วเราเห็นสีหน้าพ่ออ่ะ เราบอกไม่ถูก. เราเลยคุยกับแฟนว่า เราจะขอยืมเงินน้องแล้วผ่อนให้ได้มั้ย. แฟนเราตอบเลยว่า ไม่เห็นด้วย ไม่ให้ติดแอร์ ถ้าจะติดก็ผ่อนเอาเอง แล้วให้แม่เอาเงินที่มีอยู่ไปหาหมอ แล้วถ้าขาดเหลือก็บอกมา
เราก็ไปบอกแม่แบบนั้น แม่เราก็เสียใจ เพราะแม่รู้อยู่แล้วว่าแฟนเราไม่ชอบเขา เราเลยคุยกับน้องเอง แล้วน้องก็ให้ยืมมา คือเราคิดว่าเราขอความช่วยเหลือ เพราะอะไรในบ้านเราจ่ายคนเดียว น้องน่าจะเห็นว่าเราไม่มีเงินเยอะ เราก็เอาให้แม่ และในตอนนี้เราก็กำลังหางานใหม่ เพราะที่เดิมรายได้น้อย
เรื่องก็เกิดขึ้นว่า แฟนเรารู้เรื่อง ขอดูบิลทั้งหมด เราบอก เรามีให้นะ แต่หาหมอมันไม่ถึงยอดนั้นหรอก แฟนบอกงั้นสิ้นเดือนจะไปคุยกับพ่อ กับแม่ แล้วมันก็ไปพูดกับเพื่อนว่า ถ้าสิ้นเดือนนี้เราหาหลักฐานไม่ได้ จะให้เราออกไปอยู่กับแม่ เราได้ยินแบบนั้น เราเลยเริ่มหาบ้านเช่าที่อื่น เพราะคิดว่ายังไงตัวเองต้องโดนไล่แน่ๆ. เราเคยหามาแล้วครั้งนึงตอนที่เขานอกใจ
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ
เมื่อเรามีปัญหาชีวิต
หลังจากนั้น เราก็เข้ามาอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเยอะ มีบ้าน 3 หลัง ในรั้วเดียว หลังแรก มี ย่า แฟนเรา น้องชาย(ลูกน้า) น้องสาว(ลูกน้า): ซึ่งตอนนั้นน้องไปเรียน ตจว. หลายเดือนกลับมาครั้ง
หลังสอง มี น้า กับ น้าเขย
หลังสาม มี ป้า ลูกชายป้า+แฟน ลูกสาวป้า+แฟน
ก็ปกติดี ไม่มีอะไร เรามีหน้าที่หากับข้าวตอนเย็น หรือเช้า ถ้าย่าไม่มีอะไรทาน อ่อ แล้วเราก็มีหมาแมว ซึ่งเข้าใจนะคะว่าเป็นภาระ แต่จะให้เราเอาไปปล่อยก็ใช่ที่ ซึ่งที่บ้านแฟนเขาทำบ้านหลังเล็กๆไว้หลังนึง ให้หมาเราไปอยู่ ซึ่งเราก็ขอบคุณในน้ำใจของพวกเขามากๆ ที่ไม่คิดรังเกียจ
ด้วยความที่ตอนเย็น คนที่จะกินข้าว ก็จะมี ย่า แฟนเรา เรา น้า น้าเขย น้อง(เป็นบางวัน). เรามองว่าเราจ่ายค่ากับข้าววันนีงก็หลักร้อย เราเลยไม่ได้จ่ายค่าน้ำ-ไฟ. เรายอมรับว่าผิดที่ละเลยเรื่องนี้ จนกระทั่งอยู่มาปีนึง เราไปหาครอบครัวเรา กลับมา ย่าก็คุยกับเราเรื่องค่าน้ำไฟ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราเริ่มจ่ายไปเดือนนึง เราให้ 3,000 บาท พอเดือนที่สอง เราให้ 2,000 บาท ย่าเขาก็ถามเราประมาณว่า จะให้แค่เงินแล้วไม่ช่วยทำอะไรเลยใช่มั้ย. เราก็แจงไปว่า เราไม่รู้จะหาร 2 หรือ 3 เพราะ หาร 2 คือ เรากะแฟน. / เรากะน้อง / น้องกะแฟน. ย่าเขาพูดมาว่า ทำไมต้องไปคิดกับน้อง หลังจากนั้นเราก็เป็นคนจ่ายเรื่องมา
การใช้ชีวิตกับแฟนเรา เรายอมรับว่าเราค่อนข้างอยากให้เขาสบาย เปย์อะไรแทนได้คือเปย์ แล้วจนมาปีที่แล้ว เขานอกใจเรา แต่เราจับได้ ตั้งแต่คบกันมา เขาก็มีมาเล็กๆน้อยๆ ไม่อะไรมาก แต่คนนี้คือหลอกเรามา 5 เดือน เป็นคนที่ทำงาน จนเราไม่ไหว จะเลิก เขาก็ขอโอกาส เพราะปลายปีนั้นเขาบวช. พอสึกออกมา เขาขอโอกาสเรา เขาไปทบทวนมาดีแล้ว.
กับความสัมพันธ์บ้านเขา เราค่อนข้างสนิทกับทุกคน ใครๆเราก็เข้าได้ กับน้องเราก็สนิท เรารักเหมือนเป็นน้องเราเอง ตอนนั้นแฟนเงินเดือนเยอะกว่าเรา หลายพันอยู่. ไม่ค่อยอะไรมาก แต่แฟนก็ใช้เงินเก่ง ชวนเราไปข้างนอกบ่อย เราก็โอเค ไปๆ. แต่ส่วนใหญ่เราก็จ่าย
จนพอแฟนเปลี่ยนงานมาทำที่เงินเดือนน้อยกว่าในช่วง 3 เดือนแรก หักค่ารถแล้ว เหลืออยู่ 5 พัน เราก็ไม่เคยขอเขา เพราะตั้งแต่คบมา เราขอน้อยมาก ส่วนใหญ่ 100-200 แต่เขาก็ยังชวนไปไหนมาไหน เพาะส่วนใหญ่เป็นเงินเรา ตอนนั้นผ่อนโทรศัพท์ของเรากะเขา 2 เครื่อง 50,000 กว่า เราเป็นคนผ่อน เขารับจ่ายค่าบัตรอีกใบนึง พอตอนนี้ เขาย้ายงานกลายเป็นว่า บางเดือนเราก็ต้องจ่ายค่าบัตรด้วย
แฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อนกับเราพอสมควร โกรธเราทีคือไม่คุยเป็นอาทิตย์แม้จะนอนห้องเดียวกันก็ตาม
มันเคยมีปัญหามาครั้งนึง เรายืมเงินน้าไปจ่ายค่ารถเรา แฟนรู้ โกรธเรามาก เหมือนเราทำอะไรข้ามหัวเขา เราก็รู้ว่าเราผิด ปากมันบอกไม่ให้เราเป็นหนี้คนนอกบ้าน แต่พอเรายืมในบ้านคือเป็นปัญหาแต่เรื่องนั้นจบไปแล้ว
ปัญหาต่อมาคือเงินเราไม่พอใช้แล้ว เพราะจ่ายหลายอย่าง เราก็ยืมเพื่อนบ้าง ก็ใช้คืนตรง แต่มันกลายเป็นเงินหมุน จนวันนึงพ่อเราเข้า icu ต้องผ่าตัดใหญ่ พ่ออายุมากแล้ว 80 ปรใช้เงินหลายแสนบาท ซึ่งตรงนั้น ลูกสาวพ่ออีกแม่นึง(ภรรยาเก่า) เขาเป็นคนจัดการเพราะเขามีเงิน แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมาซัพพอทเรากับแม่ด้วย
ว่ากันด้วยเรื่องแม่ คือหลายๆคนมองแม่เราไม่ดี เรายอมรับ เมื่อก่อนแม่เราติดพนัน ทำให้เป็นหนี้จำนวนมาก แล้วแม่ก็จะโกหกเพื่อขอเงิน แต่ตอนนี้พอชีวิตแย่ลง แม่เรามาทำกับข้าวขาย แต่เงินที่ได้ก็ใช้หนี้หมด. ทำให้บางวันไม่มีทุนพอซื้อของ ก็จะขอเราหรือพ่อ แล้วแม่เราก็ป่วยหลายอย่างแต่ก่อนชอบซื้อยามากินเองโดยไม่ไปหาหมอ ทำให้ยามันส่งผลกับร่างกายในปัจจุบัน ข้อเข่ามีปัญหา ท้องโต ผังผืดที่แขน แฟนเราไม่ชอบครอบครัวเรามานานแล้วว่ากันตามจริง ด้วยความที่แต่ก่อนแม่ชอบโกหก เวลาแม่พูดอะไร หรือมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับแม่คือแฟนเราจะไม่เชื่อเลย
อ่ะ ต่อจากพ่อเข้าโรงพยาบาล เรารู้ตัวแล้วว่าเดือนนี้แย่แน่ เพราะพ่อยังไม่รู้สึกตัว เราเลยไปขอยืมเงินเพื่อนมา จ่ายค่ารถ และ สำรองไว้เรื่องแม่ เพราะพ่อป่วยขนาดนั้น เราไม่อยากให้แม่ไปกวนพ่อ เราก็ผ่อนจ่ายกับเพื่อน ก็ไม่มีอะไร
จนกระทั่งเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นแม่ต้องไปผ่าตัดเล็กรอบนึง รวมค่ายาอะไรแล้ว ก็หลายพันอยู่. แล้วที่แม่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้เป็นตึกพาณิชย์พังๆ ที่มันร้างๆ แม่เราขายของเย็นถึงเช้า นอนช่วงกลางวัน แม่บอกเราว่า แม่มีเงินประมาณ 8,000 จะขอเรา 8,000 ไปติดแอร์. ขอหาหมอ กับ ทุนขายของด้วย รวมๆแล้วประมาณ 14,000 เราบอกเราไม่มี แต่ด้วยนิสัยแม่ของเราเอง เรารู้ว่าเขาจะมีดราม่าตลอด ถ้าตอนไหนที่ขอเงินพ่อไม่ได้ ก็จะโทรมาจี้ๆๆๆๆเรา ให้คุยกับพ่อ เรากับพ่อแก้ปัญหากันผิดวิธีมาตลอด ให้ไปเพื่อตัดรำคาญ. แล้วตอนนั่นพ่อเราป่วย เงินก็ไม่มี เราพาแม่ไปเยี่ยมพ่อ แม่ก็นั่งพูดแต่เรื่องนี้ แล้วเราเห็นสีหน้าพ่ออ่ะ เราบอกไม่ถูก. เราเลยคุยกับแฟนว่า เราจะขอยืมเงินน้องแล้วผ่อนให้ได้มั้ย. แฟนเราตอบเลยว่า ไม่เห็นด้วย ไม่ให้ติดแอร์ ถ้าจะติดก็ผ่อนเอาเอง แล้วให้แม่เอาเงินที่มีอยู่ไปหาหมอ แล้วถ้าขาดเหลือก็บอกมา
เราก็ไปบอกแม่แบบนั้น แม่เราก็เสียใจ เพราะแม่รู้อยู่แล้วว่าแฟนเราไม่ชอบเขา เราเลยคุยกับน้องเอง แล้วน้องก็ให้ยืมมา คือเราคิดว่าเราขอความช่วยเหลือ เพราะอะไรในบ้านเราจ่ายคนเดียว น้องน่าจะเห็นว่าเราไม่มีเงินเยอะ เราก็เอาให้แม่ และในตอนนี้เราก็กำลังหางานใหม่ เพราะที่เดิมรายได้น้อย
เรื่องก็เกิดขึ้นว่า แฟนเรารู้เรื่อง ขอดูบิลทั้งหมด เราบอก เรามีให้นะ แต่หาหมอมันไม่ถึงยอดนั้นหรอก แฟนบอกงั้นสิ้นเดือนจะไปคุยกับพ่อ กับแม่ แล้วมันก็ไปพูดกับเพื่อนว่า ถ้าสิ้นเดือนนี้เราหาหลักฐานไม่ได้ จะให้เราออกไปอยู่กับแม่ เราได้ยินแบบนั้น เราเลยเริ่มหาบ้านเช่าที่อื่น เพราะคิดว่ายังไงตัวเองต้องโดนไล่แน่ๆ. เราเคยหามาแล้วครั้งนึงตอนที่เขานอกใจ
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ