สวัสดีค่ะ เราเป็นนักศึกษาอาชีวศึกษาบัญชี ปี2 อายุ20ปี เหลืออีก1ปีก็จบ.แต่เราอยากดรอปเรียนแล้วออกไปหาเงินค่ะ.
ครอบคัวเรามีอยู่5คน พ่อแม่ พี่ชาย พี่สาว และ เรา .ทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
พ่อเป็นพนักงานราชการ แม่เป็นแม่ค้าขายของ
ที่ตลาด และ ทำธุรกิจสมุนไพรที่บ้าน รายได้หลักของครอบคัวมาจากแม่หมดเลย เพราะเงินเดือนพ่อพอแค่ใช้ค่าผ่อนรถให้เราแต่ละเดือน และ เป็นค่าเทอมเราในแต่ละปี พี่ชายทำงานแล้ว ส่วนพี่สาวอยู่บ้านไปวันๆ .
เราเป็นคน1ที่การเรียนไม่ได้แย่ แต่เราไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ถึงแม้เราจะเตือนสติตัวเองเสมอว่า พ่อทำงานลำบากมากนะที่จะหาเงินมาให้เราเรียน ช่วยตั้งใจเรียนให้สมกับที่พ่อแม่เหนื่อยหน่อยสิ .แต่ก็ไม่ไหว เวลาเรียนเหมือนจิตใจเราหลุดไปไหนไม่รู้ เราเหมือนจะตั้งใจเรียนแค่ วิชาภาษาอังกฤษ นอกนั้นไม่เข้าหัวเลย.
เพื่อนเราหลายคนเรียนจบแค่ ม.ปลาย ออกมาทำงานหาเงินโดยการค้าขายหลายคน จนสร้างครอบคัวไปแล้วก็มี.เรารู้ว่าเราเรียนจบไปก็ไม่มีงานทำแน่ๆ เหลืออีกตั้งปี1 เอาเงินค่าเทมอปีหน้าไปลงทุนค้าขายไม่ดีกว่าหรอ และเราก็ไม่ชอบงานที่รอแต่เงินเดือน,ทำงานตามคำสั่งใคร, เช้าไปทำงาน เย็นกลับแบบนี้ก็ทำได้นะ เคยทำงานที่โรงงานอยู่ตอนช่วงปิดเทมอเหนื่อยแต่ไม่มีความสุข มีความสุขแค่วันเงินเดือนออกเท่านั้นล่ะ .
เราชอบค้าขายค่ะ โดยเฉพาะ ขายเกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มเพราะว่าคนเราต้องกินทุกวัน
เราหาเงินมาตั้งแต่เรียน ม.3 ขายเครื่องสำอางตอนนั้นก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วก็เลิกไป.จนมาถึง ม5ช่วงปิดเทมอ เราไปเป็นสาวโรงงาน รายได้เดือน 4800฿ เป็นเวลา3เดือน เงินก็หมดไปกับเสื้อผ้าเครื่องสำอาง และ ค่ากิน,ค่าน้ำมันรถในแต่ละวัน เราได้เงินมาเดือนแรกก็ให้พ่อ1500฿ ให้แม่2000฿ แต่แม่บอกว่าเดือนหน้าไม่ต้องให้นะเก็บไว้ใช้เองเถอะ .จากนั้นขึ้น ม6 เราทำแซนวิช กับ ขนมปังปิ้งขายให้เพื่อนในห้อง แต่ขายแชนวิชไม่ค่อยได้เยอะ เพื่อนสั่งแค่ปังปิ้ง เราเลยไปเสนอร้านค้าที่อยู่ในโรงเรียนว่าจะรับแซนวิชไปขายต่อมั้ย 10ชิ้นขื้นไปส่งให้ชิ้นละ15฿ ขายต่อ20฿ เค้าก็รับนะ ก็ส่งทุกวัน ลูกค้าก็บอกอร่อยไส้เยอะเพราะเรามือหนักชอบให้เยอะๆแม้ไม่ค่อยจะได้กำไรก็เถอะ จนวัน1แม่มาขอให้เลิกขายเพราะเห็นเราเหนื่อยบวกกับกำไรที่ไม่มาก ไม่คุ้มกับที่ต้องตื่นตี5ไปตลาดทุกวัน ไม่คุ้มค่าน้ำมัน บวกกับ วัตถุดิบที่ราคาแพง เราก็ไปบอกร้านค้าว่าหนูจะเลิกทำแล้วหนูไม่ได้กำไร แล้วก็ไม่ได้ทำไรเลยจนจบ ม.ปลาย.
พอเรียนปี1เราอยู่ไม่นิ่งคิดหาของขายเลยชวนพี่สาวที่ไม่ได้เรียน ไม่มีงานทำไปขายน้ำด้วยกัน โดยเงินลงทุนคือ เงินเราเกือบทั้งหมด เหลือนั้นก็เงินแม่ช่วยบ้าง ส่วนพี่เราไม่ได้มีเงินมาลงเลย เราขายน้ำที่หน้าบ้านยาย ทำเลดี ขายดี กำไรก็เยอะอยู่ แต่ต้องตื่นเช้ามาเตรียมของขาย ,ชื้อน้ำแข็ง ไปตลาดชื้อของเข้าร้าน บวกกับเราก็ต้องไปเรียนด้วย ให้พี่ขายคนเดียว พี่เราชอบโทรเรียกมาปิดร้านบ้าง, มาช่วยขาย, มาเฝ้าร้านบ้าง มาชื้อ,แก้ว,หลอด,ถุง,น้ำแข็ง บ้าง เราก็โดดเรียนมาช่วย บางวันก็ไม่ไปเรียน พี่เราชอบด่าชอบตะคอกใส่ ชอบขว้างของใส่ ขว้างมีดใส่ เราก็ทนนะแม่ไม่ให้เถียงพี่ จนนานเป็นปีกว่าๆ มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องนิสัย เราไม่ทนอีกต่อไป เราระเบิดอารมณ์ใส่กัน จนแตกถึงขั้นแตกหัก เราก็ให้พี่ทำคนเดียว แล้วให้หาเงินทุนมาคืนเรา จากนั้นก็ทำคนเดียวไปเลย หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย(ตอนนี้พี่เลิกทำไปแล้วเพราะยายเอาที่ดินไปจำนอง ). ตอนนี้ปีเราอยู่ปี2เราทำ เมี่ยงหมูขายออนไลน์ ขายได้แค่3วัน ธุรกิจก็เจ๊ง ของที่ชื้อมาก็เน่าหมด ไม่มีเงินทุนจนเลิกไป ตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรขายอีกแล้ว ไม่อยากเรียนต่อ และ ก็ไม่รู้จะขายอะไรดี อยากทำขนมส่ง มินิมาร์ท เงินทุนก็หมด เราบอกแม่ ว่าจะไม่เรียนต่อ จะออกไปขายของแม่ก็บอกว่า ถ้าจะออกมา ให้ออกมาทำสมุนไพรสืบทอดจากแม่ เราไม่อยากทำเลยไม่ชอบ เพราะต้องเรียนตำราหลายเล่มมาก และงานมันก็หนัก . ชีวิตตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรต่อ เราอยากมีอาชีพมั่นคง พึ่งตัวเอง หาเลี้ยงพ่อแม่เพราะท่าก็แก่มากแล้ว อยากชื้อรถมอเตอร์ไซด์ใหม่ให้พ่อเพราะรถพ่อก็พุๆพังๆมาก อยากชื้อรถยนต์ให้พ่อ เพราะบ้านเราไม่มีรถยนต์เลย อยากต่อเติมบ้าน ให้เสร็จด้วย .
ใครมีความคิดเห็นอย่างไรช่วยแนะนำมาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
**ถ้าถามว่าเหตุผลทำไมถึงดิ้นรนอยากหาเงิน ก็เพราะว่า พี่สาวโดนคนอื่นพูดใส่ว่าโตขนาดนี้แล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่อีก เราเลยไม่อยากให้ใครมาพูดใส่เราแบบนี้บ้าง
อายุ20 อยากดรอปเรียน แล้วไปหาเงินโดยการเป็นแม่ค้า ดีมั้ย?
ครอบคัวเรามีอยู่5คน พ่อแม่ พี่ชาย พี่สาว และ เรา .ทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
พ่อเป็นพนักงานราชการ แม่เป็นแม่ค้าขายของ
ที่ตลาด และ ทำธุรกิจสมุนไพรที่บ้าน รายได้หลักของครอบคัวมาจากแม่หมดเลย เพราะเงินเดือนพ่อพอแค่ใช้ค่าผ่อนรถให้เราแต่ละเดือน และ เป็นค่าเทอมเราในแต่ละปี พี่ชายทำงานแล้ว ส่วนพี่สาวอยู่บ้านไปวันๆ .
เราเป็นคน1ที่การเรียนไม่ได้แย่ แต่เราไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ถึงแม้เราจะเตือนสติตัวเองเสมอว่า พ่อทำงานลำบากมากนะที่จะหาเงินมาให้เราเรียน ช่วยตั้งใจเรียนให้สมกับที่พ่อแม่เหนื่อยหน่อยสิ .แต่ก็ไม่ไหว เวลาเรียนเหมือนจิตใจเราหลุดไปไหนไม่รู้ เราเหมือนจะตั้งใจเรียนแค่ วิชาภาษาอังกฤษ นอกนั้นไม่เข้าหัวเลย.
เพื่อนเราหลายคนเรียนจบแค่ ม.ปลาย ออกมาทำงานหาเงินโดยการค้าขายหลายคน จนสร้างครอบคัวไปแล้วก็มี.เรารู้ว่าเราเรียนจบไปก็ไม่มีงานทำแน่ๆ เหลืออีกตั้งปี1 เอาเงินค่าเทมอปีหน้าไปลงทุนค้าขายไม่ดีกว่าหรอ และเราก็ไม่ชอบงานที่รอแต่เงินเดือน,ทำงานตามคำสั่งใคร, เช้าไปทำงาน เย็นกลับแบบนี้ก็ทำได้นะ เคยทำงานที่โรงงานอยู่ตอนช่วงปิดเทมอเหนื่อยแต่ไม่มีความสุข มีความสุขแค่วันเงินเดือนออกเท่านั้นล่ะ .
เราชอบค้าขายค่ะ โดยเฉพาะ ขายเกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มเพราะว่าคนเราต้องกินทุกวัน
เราหาเงินมาตั้งแต่เรียน ม.3 ขายเครื่องสำอางตอนนั้นก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วก็เลิกไป.จนมาถึง ม5ช่วงปิดเทมอ เราไปเป็นสาวโรงงาน รายได้เดือน 4800฿ เป็นเวลา3เดือน เงินก็หมดไปกับเสื้อผ้าเครื่องสำอาง และ ค่ากิน,ค่าน้ำมันรถในแต่ละวัน เราได้เงินมาเดือนแรกก็ให้พ่อ1500฿ ให้แม่2000฿ แต่แม่บอกว่าเดือนหน้าไม่ต้องให้นะเก็บไว้ใช้เองเถอะ .จากนั้นขึ้น ม6 เราทำแซนวิช กับ ขนมปังปิ้งขายให้เพื่อนในห้อง แต่ขายแชนวิชไม่ค่อยได้เยอะ เพื่อนสั่งแค่ปังปิ้ง เราเลยไปเสนอร้านค้าที่อยู่ในโรงเรียนว่าจะรับแซนวิชไปขายต่อมั้ย 10ชิ้นขื้นไปส่งให้ชิ้นละ15฿ ขายต่อ20฿ เค้าก็รับนะ ก็ส่งทุกวัน ลูกค้าก็บอกอร่อยไส้เยอะเพราะเรามือหนักชอบให้เยอะๆแม้ไม่ค่อยจะได้กำไรก็เถอะ จนวัน1แม่มาขอให้เลิกขายเพราะเห็นเราเหนื่อยบวกกับกำไรที่ไม่มาก ไม่คุ้มกับที่ต้องตื่นตี5ไปตลาดทุกวัน ไม่คุ้มค่าน้ำมัน บวกกับ วัตถุดิบที่ราคาแพง เราก็ไปบอกร้านค้าว่าหนูจะเลิกทำแล้วหนูไม่ได้กำไร แล้วก็ไม่ได้ทำไรเลยจนจบ ม.ปลาย.
พอเรียนปี1เราอยู่ไม่นิ่งคิดหาของขายเลยชวนพี่สาวที่ไม่ได้เรียน ไม่มีงานทำไปขายน้ำด้วยกัน โดยเงินลงทุนคือ เงินเราเกือบทั้งหมด เหลือนั้นก็เงินแม่ช่วยบ้าง ส่วนพี่เราไม่ได้มีเงินมาลงเลย เราขายน้ำที่หน้าบ้านยาย ทำเลดี ขายดี กำไรก็เยอะอยู่ แต่ต้องตื่นเช้ามาเตรียมของขาย ,ชื้อน้ำแข็ง ไปตลาดชื้อของเข้าร้าน บวกกับเราก็ต้องไปเรียนด้วย ให้พี่ขายคนเดียว พี่เราชอบโทรเรียกมาปิดร้านบ้าง, มาช่วยขาย, มาเฝ้าร้านบ้าง มาชื้อ,แก้ว,หลอด,ถุง,น้ำแข็ง บ้าง เราก็โดดเรียนมาช่วย บางวันก็ไม่ไปเรียน พี่เราชอบด่าชอบตะคอกใส่ ชอบขว้างของใส่ ขว้างมีดใส่ เราก็ทนนะแม่ไม่ให้เถียงพี่ จนนานเป็นปีกว่าๆ มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องนิสัย เราไม่ทนอีกต่อไป เราระเบิดอารมณ์ใส่กัน จนแตกถึงขั้นแตกหัก เราก็ให้พี่ทำคนเดียว แล้วให้หาเงินทุนมาคืนเรา จากนั้นก็ทำคนเดียวไปเลย หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย(ตอนนี้พี่เลิกทำไปแล้วเพราะยายเอาที่ดินไปจำนอง ). ตอนนี้ปีเราอยู่ปี2เราทำ เมี่ยงหมูขายออนไลน์ ขายได้แค่3วัน ธุรกิจก็เจ๊ง ของที่ชื้อมาก็เน่าหมด ไม่มีเงินทุนจนเลิกไป ตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรขายอีกแล้ว ไม่อยากเรียนต่อ และ ก็ไม่รู้จะขายอะไรดี อยากทำขนมส่ง มินิมาร์ท เงินทุนก็หมด เราบอกแม่ ว่าจะไม่เรียนต่อ จะออกไปขายของแม่ก็บอกว่า ถ้าจะออกมา ให้ออกมาทำสมุนไพรสืบทอดจากแม่ เราไม่อยากทำเลยไม่ชอบ เพราะต้องเรียนตำราหลายเล่มมาก และงานมันก็หนัก . ชีวิตตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรต่อ เราอยากมีอาชีพมั่นคง พึ่งตัวเอง หาเลี้ยงพ่อแม่เพราะท่าก็แก่มากแล้ว อยากชื้อรถมอเตอร์ไซด์ใหม่ให้พ่อเพราะรถพ่อก็พุๆพังๆมาก อยากชื้อรถยนต์ให้พ่อ เพราะบ้านเราไม่มีรถยนต์เลย อยากต่อเติมบ้าน ให้เสร็จด้วย .
ใครมีความคิดเห็นอย่างไรช่วยแนะนำมาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
**ถ้าถามว่าเหตุผลทำไมถึงดิ้นรนอยากหาเงิน ก็เพราะว่า พี่สาวโดนคนอื่นพูดใส่ว่าโตขนาดนี้แล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่อีก เราเลยไม่อยากให้ใครมาพูดใส่เราแบบนี้บ้าง