แชร์ประสบการณ์การไปพบจิตแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมตั้งกระทู้นี้มาเพื่อแชร์ประสบการณ์การพบจิตแพทย์

ปัญหาของผมคือความเครียดของงานครับ ผมเพิ่งย้ายงานตอนต้นปี พบปัญหาเยอะมากทั้งเรื่องงาน เรื่องคน คาราคาซัง ปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่ได้ เอาคนออกก็ไม่ได้

ส่วนตัวผมค่อนข้างคิดบวก มีความหวัง คิดอะไรใหม่ๆ มองโลกกว้างๆ เน้นการสร้างสรรค์ ชอบอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง มี self-esteem สูง

พฤติกรรมส่วนตัวเริ่มเปลี่ยนไป พูดน้อยลง ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ออกกำลังกาย ไม่ไปเรียนพิเศษภาษา นอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะหลับก็ตีสองตีสาม เสาร์อาทิตย์ก็ตื่นสายมาก หลังเที่ยงตลอด บางช่วงตื่นมาเกือบหกโมงเย็น กินของไม่มีประโยชน์เยอะขั้น น้ำหนักขึ้น หน้าเครียดตลอดเวลา

ทีแรกคิดว่าเราแค่เครียดมาก ก็พยายามปล่อยวาง แต่ แต่ แต่ แต่เรื่องในหัวไม่มันหายไปครับ ซึ่งต่างกับอดีต ที่ผมปล่อยวางอะไรได้ค่อนข้างง่าย คิดลบตลอด กลายเป็นคน sensitive เลยตัดสินใจไปหาจิตแพทย์ที่ศรีธัญญา ไปนอกเวลาราชการ

คุณหมอวินิจฉัยว่าผมเป็นซึมเศร้าชัดเจนครับ ตอนนั้นผมค่อนข้างช็อคเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมรับ คุณหมอให้ยามาสองตัว กินทุกคืนก่อนนอน ช่วยการนอนหลับ และปรับสารเคมีในสมอง

ทีแรกผมก็ตะหงิดๆว่าในใจหมอไม่แนะนำอะไรเท่าไรเลย บอกแค่กินยาแล้วจะดีขึ้น

เออแฮะ มันดีขึ้นจริงๆครับ ทั้งเรื่องการนอนหลับ หลับง่ายขึ้น และความคิดลบมันก็ลดลง เครียดน้อยลง (ถึงปัญหามันยังเจอเหมือนเดิม) เริ่มไปออกกำลังกายอีกครั้ง ไปสังสรรค์ ไปทำกิจกรรมใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆ

กลับไปหาหมออีกครั้ง หมอบอกว่าผมดีขึ้นมาก (ส่วนนึงคือหมอบอกว่าผมเข้าใจตัวเองเร็ว และมีแนวคิดการจัดการความคิดค่อนข้างดีอยู่แล้วเลยดีขึ้นเร็ว) ผมซื้อหนังสือซึมเศร้ามาอ่านเพื่อทำความเข้าใจความคิดมากขึ้น

ที่ผมอยากจะแชร์ก็คือ
1.อย่ากลัวการไปหาจิตแพทย์ครับ ถ้าเราเป็น ก็ต้องหา เพื่อจะดีขึ้น อย่าคิดว่าการไปหาจิตแพทย์คือเราเป็นบ้า
2.อย่าคิดว่าปัญหาความเครียดที่เราเจอมันจะหายทางด้วยธรรมะ หรือปล่อยวาง หรือไปทำกิจกรรมที่คลายเครียด เพราะสุดท้ายมันอาจไม่ช่วยให้เราดีขึ้นจริงๆ แค่ลืมความเจ็บปวดชั่วคราวเท่านั้น

เพื่อนๆที่เครียดอยู่ มีเรื่องเจ็บปวด ผมแนะนำเลยครับไปหาจิตแพทย์ ถ้าไม่อยากเสียเงินมาก ศรีธัญญา คลินิคนอกเวลา เปิดถึงดึกครับ

สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่