กว่าครึ่งศตวรรษบนถนนสายดนตรี วงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ "แกรนด์เอ็กซ์" ได้ฝ่าทั้งสายฝน แสงแดด ลมหนาว จนประสบความสำเร็จอยู่หลายครั้ง

ผ่านบทเพลงกว่า 250 เพลง ตระเวนเล่นดนตรีนับพันครั้ง กับอัลบั้มเพลงร่วม 20 ชุด หรือปีละ 2 ชุด ภายในระยะเวลา 12 ปีที่โด่งดังจนกระทั่งโรยรา

พวกเขาถือเป็นผู้นำและริเริ่มในหลาย ๆ ด้าน โดยเป็นวงดนตรีที่หยิบเพลงไทยหลากสไตล์มาทำดนตรีและบรรเลงตามแบบสากลได้อย่างเฉียบขาด

เพราะเมื่อคอเพลงได้ยินอินโทรเพลงนั้นเมื่อไร ก็รู้เลยว่ามาจากลายเซ็นของพวกเขา สมกับเป็นวงดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ตามชื่อวงได้แท้จริง

แกรนด์เอ็กซ์ออกอัลบั้มเพลงชุดสุดท้าย เมื่อช่วงปลายปี 2531 โดยมี "นคร เวชสุภาพร" หัวหน้าวง และ "ประสิทธิ์ ไชยะโท" มือกลองตั้งแต่วงก่อตั้ง รับหน้าที่ให้คำปรึกษาและช่วยทำดนตรีให้กับสมาชิกยุคสุดท้ายซึ่งมีเพียง 4 คน...

นั่นคือ สุธี แสงเสรีชน, อริชัย อรัญนารถ, ไอศูรย์ วาทยานนท์ และ จาคมัย ศรีวาลัย 

อัลบั้มที่ชื่อว่า "ได้ไหม?" เรียกว่าเป็นการพลิกภาพลักษณ์ทางดนตรีจากที่คุ้นเคย เนื่องด้วยกระแสเพลงแนวร็อกระบาดหนักในเมืองไทย ทำให้วงดนตรีและศิลปินหลายต่อหลายคนหันหรือแห่มาทางร็อกดูบ้าง

แม้แต่วงดนตรีระดับตำนานอย่างแกรนด์เอ็กซ์ก็ไม่น้อยหน้าที่จะเสนอผลงานทั้ง 12 เพลง...ได้อย่างบาดลึกและสะใจคนฟังยิ่งกว่าผลงานในชุดก่อน ๆ

ในอัลบั้มชุดนี้มีบทเพลงเด่น ๆ อยู่มากมาย แต่เพลงที่เป็นที่จดจำมากที่สุดจนมีศิลปินนักร้องท่านอื่น ๆ นำไปร้องต่อในภายหลังก็คือเพลง "เกิดเป็นผู้ชาย" จากปลายปากกาของ จันทนีย์ อูนากูล กับเสียงร้องที่ตีอารมณ์แตกของหนุ่มไก่ สุธี มือกีตาร์โซโล่ของวงนั่นเอง

สำหรับเพลงลำดับสุดท้ายของอัลบั้มชุดนี้ เรียกว่ามีความเป็นพิเศษที่ยิ่งกว่าพิเศษ เพราะเป็นผลงานคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงฯ ที่กลั่นกรองความรู้สึกจากศิลปินมากประสบการณ์อย่าง "นุภาพ สวันตรัจฉ์" โดยมอบหมายให้สมาชิกวงเกือบทั้งหมดร่วมกันขับร้อง

...และบทเพลงที่ชื่อ "ผูกพัน" จึงเกิดขึ้นมาเป็นการส่งท้ายอัลบั้มอย่างน่าประทับใจ...

ไม่ว่าจะเป็นมิวสิกวิดีโอที่จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะผู้ชมจะไม่เห็นหน้าค่าตาของสมาชิกวงที่มาลิปซิงค์ในเพลง โดยทีมงาน "โอเปี้ยม กรุ๊ป" ตั้งใจทำมิวสิกวิดีโอที่ใช้เด็กวัยรุ่นเป็นตัวดำเนินเรื่อง โดยแสดงการใช้ชีวิตร่วมชั้นจนถึงวันอำลา แล้วแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามใจหวัง ถือเป็นการจากกันด้วยดี