พี่สาวที่รักท่านหนึ่งฝากเรามาแชร์ประสบการณ์การเป็นแฟนคลับซีรีส์อินเดียเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ค่ะ
******************************
ในฐานะที่เราเป็นแฟนคลับ jkn มานาน และกำลังตัดสินใจว่าจะเลิกเป็น.
เราอยากขอบคุณ jkn
ที่นำหนังละครอินเดียเข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทยจนติดเรตติ้งโด่งดังหลายเรื่อง.
ตัวเราเป็น ผู้ชมหนังอินเดียมานานทางช่องอินเดีย. แต่เมื่อ jkn
ได้นำมันเข้ามาในประเทศไทยเราก็รู้สึกดีใจ
ที่ละครหรือหนังอินเดียจะได้รับการขยายฐานแฟนๆในไทยอีกครั้ง.ครอบครัวเราก็ชอบดูช่อง
JKN และ jkn ยังนำนักแสดงอินดียที่พวกเราชอบมาให้พบปะ.
มีการจัดงานให้แฟนๆได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แรกๆเราชื่นชม jkn มาก.
แต่มาปัจจุบันหลังจากที่ jkn เติบโตขึ้นเป็นบริษัทพันล้าน.
มาตรฐานความเอาใจใส่ในฐานแฟนคลับกลับด้อยคุณภาพลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เราขอพูดแทนใจแฟนคลับหลายท่านนะค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วง 1 ปีมานี้
เริ่มจากงาน Blue Diamond เมื่อปีที่แล้ว.
1. การเตรียมการต้อนรับนักแสดง ที่สนามบิน.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับที่สนามบินไม่มีการประสานงานกับกลุ่มแฟนคลับ
และมีการพูดจาไม่สุภาพกับแฟนคลับ.
และยังขาดการประเมินสถานการณ์ถึงจำนวนแฟนคลับที่จะมารอรับที่สนามบิน.
ขาดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับนักแสดง.
เหตุการณ์ในวันนั่นค่อนข้างยุ่งเหยิง. และมีแฟนคลับได้รับบาดเจ็บหลายท่าน
2. วันงาน ที่มีการปล่อยบัตรฟรีที่นอกเหนือจากคนที่ลงทะเบียน
ให้คนเข้ามชมจนโรงแทบแตก และอันตรายมากๆ. เพราะจำนวนคนต่อโรวรับได้แค่
700-800 แต่จำนวนคนที่ปล่อยเข้าไปเพิ่มน่าจะมีมากถึง 1200.
3.
การมีตแอนด์กรี้ดกับนักแสดงเป็นแค่ปาหี่ที่นำนักแสดงมาลวนลามด้วยคำพูดสองแง่สองง่าม
ที่ไม่ให้เกียรตินักแสดง เพราะคิดว่าเขาไม่รู้ภาษาไทย.
มีการเบ่นมุขหยาบโลนแบบไทยๆ
แต่ไม่ได้มีการจัดให้มีการเล่รเกมหรือซักถามระหว่างนักแสดงและแฟนๆ.
เป็นงานแสดงตลกสองแง่สองง่ามของพิธีกรเพียงเพื่อเรียกเสียงกรีดร้องของแฟนๆ.
แต่หาสาระอันใดไม่ได้ ไม่มีการจัดงานให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปกับนักแสดง
ไม่มีการได้จับมือจับไม้ใกล้ชิด. แต่เพราะเป็นงานฟรี
แฟนๆก็พอใจตามที่บริษัทจัดให้
งานเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง Khejdi เมื่อวันที่ 18 ก.ค.
ตอนแรกที่ JKN มีประกาศซื้อลิขสิทธิ์ JKN มาฉายใน SEA นั้น
ทางกลุ่มแฟนๆไทย มีความปลื้มใจและรู้สึกขอบคุณผู้บริหาร JKN ที่เอาใจแฟนๆ
และเห็นคุณค่าของภาพยนต์เรื่องนี้ แฟนๆเอาใจเชียร์ JKN มาตลอดเวลา
แต่สิงที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมานั้น. ทำให้บรรดาเราแทบจะถอดใจเลิกติดตาม JKN
เหตุผลคือ
1. การประกาศขายบัตร มีการประกาศขายบัตร
ว่าให้เริ่มจองบัตรทาง Thai Ticket Major ในวันที่ 25 มิ.ย. ในราคา 999
บาท. รายได้ทั้งหมดให้มูลนิธิ LIFT. แต่ต่อมาปรากฎว่า.
มีการเปลี่ยนแปลงราคาบัตรในหน้าเว็บ Thai Ticket เป็น 1499 บาท.
อย่างเงียบๆ โดยไม่มีการแจ้งให้แฟนๆทราบเป็นทางการ.
และรายได้ที่หุกค่าใช้จ่ายถึงจะเอาไปบริจารให้มูลนิธิ LIFT.
สิ่งนี้แฟนๆหลายท่านเกินจะรับ. มีการสอบถามไปทางผู้ดูแลเพจของท่าน
ก็ไม่มีคำตอบ หรือคำอธิบายใดๆ. แฟนๆหลายท่าน ที่รอชมภาพยนต์เคจจลี มานาน
ยอมจ่ายเพราะอยากชมภาพยนต์เรื่องนี้มานานมากแล้ว.
และเพียงเพื่อจะได้พบนักแสดงที่เขาเฝ้าชื่นชมมานานหลายปี
ด้วยเหตุผลนี้ จำนวนตัวที่เปิดจองจึงขายได้แค่ประมาณ 140 ใบ ทำให้โรงว่างเกือบครึ่งโรง
2. การโปรโมทภาพยนต์เคจจลี ทาง JKN ได้จัดทำเทรลเลอร์ ภาพยนต์ลงทางช่อง
Youtube เท่านั้น. และโฆษณาทางหน้าเพจบ้าง.
แต่ทางแฟนๆไม่เคยเห็นการโฆษณาเพื่อโปรโมทภาพยนต์ในสื่ออื่นๆเลย.
เรียกว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ.ที่ภาพยนต์น้ำดีเรื่องหนึ่ง
ทั่ได้รับรางวัลมาจากงานเทศกาลภาพยนต์มากมาย
ถึงไม่มีงบโปรโมทจากบริษัทมหาชนพันล้านเลย?
3.
การประกาศให้ผู้ชมทั่วไปลงทะเบียนฟรี เพื่อเข้าร่วมงาน เปิดตัวมูลนิธิ LIFT
และพบกับนักแสดงนำเคจจลี เวลา 17.00 นาฬกา ที่สยามพารากอน ลานอินฟินิตี้
ในวันที่ 12 ก.ค. เช้า มีการประกาศให้แฟนๆทั่วไปสามารถลงทะเบียนเข้างาน เปิดตัวมูลนิธิ LIFT ได้ฟรี 200 ที่นั่ง. ที่หน้าเพจของ JKN
เหตุการณ์นี้ทำให้แฟนๆที่ซื้อบัตร 1499 บาท ค่อนข้างช้อค.
และท้วงติงไปยังแอดมินเพจของท่าน. แต่ก็เงียบไร้คำตอบที่ชัดเจนเช่นเคย.
เพราะก่อนหน้านั้นได้มีการแจ้งว่าคนที่ซื้อตั๋ว 1499 จะได้ร่วมงานตั้งแต่
17:00 นาฬิกาฟรีเช่นกัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามจริงในวันงานคือ. ......
ทังผู้ซื้อตั๋วราคา1499 และผู้ลงทะเบียนฟรี 200 คนไม่สามารถเข้างานได้
กันพื้นที่ให้เฉพาะวีไอพี 50 ที่นั่งเท่านั้น แฟน ๆ 200
คนที่มีรายชื่อรวมทั้งคนที่ซื้อบัตรเข้าชมภาพยนตร์ 1499
ถูกกันออกมาข้างนอกพื้นที่ ทางแฟนๆได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ JKN
ก็ได้รับคำยืนยันว่าเข้าไม่ได้ จนแฟน ๆ ไม่พอใจเริ่มโวยวาย
พนักงานของท่านจึงให้เข้าไปยืนข้าง ๆ ตรงที่ควบคุมเสียงได้เท่านั้น
4. การฉายหนังรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 18 ก.ค.
กำหนดการคือ....การเข้าชมภาพยนต์เรื่องเคจจลีและต่อด้วยมิวสิควิดีโอ I
wanna touch the sky และต่อด้วยกิจกรรม Q&A
กับนักแสดงและผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้
มีการประชาสัมพันธ์ให้แฟนๆอยู่ต่อหลังภาพยนต์จบเพื่อชมเพลง
และรอพูดคุยกับนักแสดงและผู้อำนวยการสร้างมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ก่อนภาพยนต์เข้าฉาย
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังภาพยนต์ฉายจบ นักแสดงและผู้อำนวยการสร้างคุณอาชิช
และอัจนา ถูกกันออกนอกโรงทันทีโดยได้รับแจ้งแค่ว่า
เวลาในการใช้โรงหมดแค่นั้น. และถูกกันออกไปเพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อของ JKN
ที่จัดเตรียมมา โดยไม่มีการแจ้งหรือประกาศใดๆจาก JKN
เลยสักนิดเดียวให้กับแฟนๆที่รออยู่ในโรง.
แม้แต่นักแสดงก็งงงวยเพราะสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในกำหนดการ.
นักแสดงเองก็รอเพื่อจะได้พูดคุยกับแฟนๆ
และท่ามกลางความช็อคของแฟนๆที่รอเพื่อที่จะพูดคุยกับนักแสดงอย่างเต็มที่
ไร้คำอธิบายใดๆทั้งสิ้น.
สร้างความงงงวยว่านี่คือวิธีการทำงานของบริษัทพันล้าน. ผู้ชมบัตรราคา 1499
บาท ได้อะไรจากการซื้อบัตรแพงขนาดนี้
และยังถูกปฎิบัติเหมือนไม่ใช่ลูกค้าบริษัท
นอกจากนั้น
ของขวัญที่เป็นซีดีและหนังสือที่ท่านแจ้งว่าจะแจกให้ผู้ซื้อตั๋วทุกท่าน
ก็ปรากฎว่า มีไม่ครบ. และพนักงานแจ้งว่าของหมด.
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่านี่คือการจัดการของบริษัทพันล้านต่อลูกค้าของท่าน
5. รอบการฉายหนัง.
เดิมมีการประกาศว่าหลังจากรอบพรีเมียร์จะมีการฉายเคจจลีด้วยราคาปกติ
ตั้งแต่วันที่ 19-31 ก.ค. แต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.
ปรากฎว่าเคจจลีถูกถอดออกจากโรงโดยไม่มีการแจ้งแฟนๆอีกเช่นกัน.
หนังอาจจะไม่ทำเงิน เพราะท่านไม่โปรโมทเลย. แต่ท่านก็ควรจะแจ้งแฟนๆบ้าง
เพราะมีแฟนๆอีกหลายคนตั้งใจจะไปดูกันอีกหลังจากมีการแนะนำปากต่อปากและเริ่มมีการรีวิวกันเองในกลุ่มแฟนๆ
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ บรรดาเราเหล่าแฟนคลับรู้สึกเศร้าใจ
ที่มาตรฐานของท่านด้อยลงไปมาก.
และภาพยนต์ที่ดีอย่างเคจจลีที่น่าจะได้รับการโปรโมทเหมือนหนังเรื่องอื่นๆกลับถูกดองและไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควร.
โปสเตอร์หนังที่โรงหนังก็ยังไม่ค่อยจะมี
ถ้าหาก JKN
ยังไม่เร่งแก้ไขในสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราเองก็คงเลิกซื้อตั๋วไปงาน JKN
เพราะความไม่แน่นอนในการจัดการอีเว้นต์ต่างๆของท่าน
ที่ทำให้เราแฟนคลับที่สนับสนุนท่านมาตลอดรู้สึกถูกเอาเปรียบมากเกินไปที่จะสนับสนุนท่านต่อ.
และคงกลับไปตามศิลปินที่เราชอบทางช่องอินเดียต่อเองเหมือนที่เคยทำมานานแล้ว.
เราหวังว่าขัอความของเราจะเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกความคิดของแฟนๆ.
ถ้าหากท่านอ่านจนจบ และลองนำไปวิเคราะห์ และปรับปรุง
คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย
ขอบคุณค่ะ
อุทธาหรณ์แฟนคลับซีรีส์อินเดียกับบริษัทคอนเทนต์นำเข้าซีรีส์อินเดียค่ะ
******************************
ในฐานะที่เราเป็นแฟนคลับ jkn มานาน และกำลังตัดสินใจว่าจะเลิกเป็น.
เราอยากขอบคุณ jkn
ที่นำหนังละครอินเดียเข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทยจนติดเรตติ้งโด่งดังหลายเรื่อง.
ตัวเราเป็น ผู้ชมหนังอินเดียมานานทางช่องอินเดีย. แต่เมื่อ jkn
ได้นำมันเข้ามาในประเทศไทยเราก็รู้สึกดีใจ
ที่ละครหรือหนังอินเดียจะได้รับการขยายฐานแฟนๆในไทยอีกครั้ง.ครอบครัวเราก็ชอบดูช่อง
JKN และ jkn ยังนำนักแสดงอินดียที่พวกเราชอบมาให้พบปะ.
มีการจัดงานให้แฟนๆได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แรกๆเราชื่นชม jkn มาก.
แต่มาปัจจุบันหลังจากที่ jkn เติบโตขึ้นเป็นบริษัทพันล้าน.
มาตรฐานความเอาใจใส่ในฐานแฟนคลับกลับด้อยคุณภาพลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เราขอพูดแทนใจแฟนคลับหลายท่านนะค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วง 1 ปีมานี้
เริ่มจากงาน Blue Diamond เมื่อปีที่แล้ว.
1. การเตรียมการต้อนรับนักแสดง ที่สนามบิน.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับที่สนามบินไม่มีการประสานงานกับกลุ่มแฟนคลับ
และมีการพูดจาไม่สุภาพกับแฟนคลับ.
และยังขาดการประเมินสถานการณ์ถึงจำนวนแฟนคลับที่จะมารอรับที่สนามบิน.
ขาดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับนักแสดง.
เหตุการณ์ในวันนั่นค่อนข้างยุ่งเหยิง. และมีแฟนคลับได้รับบาดเจ็บหลายท่าน
2. วันงาน ที่มีการปล่อยบัตรฟรีที่นอกเหนือจากคนที่ลงทะเบียน
ให้คนเข้ามชมจนโรงแทบแตก และอันตรายมากๆ. เพราะจำนวนคนต่อโรวรับได้แค่
700-800 แต่จำนวนคนที่ปล่อยเข้าไปเพิ่มน่าจะมีมากถึง 1200.
3.
การมีตแอนด์กรี้ดกับนักแสดงเป็นแค่ปาหี่ที่นำนักแสดงมาลวนลามด้วยคำพูดสองแง่สองง่าม
ที่ไม่ให้เกียรตินักแสดง เพราะคิดว่าเขาไม่รู้ภาษาไทย.
มีการเบ่นมุขหยาบโลนแบบไทยๆ
แต่ไม่ได้มีการจัดให้มีการเล่รเกมหรือซักถามระหว่างนักแสดงและแฟนๆ.
เป็นงานแสดงตลกสองแง่สองง่ามของพิธีกรเพียงเพื่อเรียกเสียงกรีดร้องของแฟนๆ.
แต่หาสาระอันใดไม่ได้ ไม่มีการจัดงานให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปกับนักแสดง
ไม่มีการได้จับมือจับไม้ใกล้ชิด. แต่เพราะเป็นงานฟรี
แฟนๆก็พอใจตามที่บริษัทจัดให้
งานเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง Khejdi เมื่อวันที่ 18 ก.ค.
ตอนแรกที่ JKN มีประกาศซื้อลิขสิทธิ์ JKN มาฉายใน SEA นั้น
ทางกลุ่มแฟนๆไทย มีความปลื้มใจและรู้สึกขอบคุณผู้บริหาร JKN ที่เอาใจแฟนๆ
และเห็นคุณค่าของภาพยนต์เรื่องนี้ แฟนๆเอาใจเชียร์ JKN มาตลอดเวลา
แต่สิงที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมานั้น. ทำให้บรรดาเราแทบจะถอดใจเลิกติดตาม JKN
เหตุผลคือ
1. การประกาศขายบัตร มีการประกาศขายบัตร
ว่าให้เริ่มจองบัตรทาง Thai Ticket Major ในวันที่ 25 มิ.ย. ในราคา 999
บาท. รายได้ทั้งหมดให้มูลนิธิ LIFT. แต่ต่อมาปรากฎว่า.
มีการเปลี่ยนแปลงราคาบัตรในหน้าเว็บ Thai Ticket เป็น 1499 บาท.
อย่างเงียบๆ โดยไม่มีการแจ้งให้แฟนๆทราบเป็นทางการ.
และรายได้ที่หุกค่าใช้จ่ายถึงจะเอาไปบริจารให้มูลนิธิ LIFT.
สิ่งนี้แฟนๆหลายท่านเกินจะรับ. มีการสอบถามไปทางผู้ดูแลเพจของท่าน
ก็ไม่มีคำตอบ หรือคำอธิบายใดๆ. แฟนๆหลายท่าน ที่รอชมภาพยนต์เคจจลี มานาน
ยอมจ่ายเพราะอยากชมภาพยนต์เรื่องนี้มานานมากแล้ว.
และเพียงเพื่อจะได้พบนักแสดงที่เขาเฝ้าชื่นชมมานานหลายปี
ด้วยเหตุผลนี้ จำนวนตัวที่เปิดจองจึงขายได้แค่ประมาณ 140 ใบ ทำให้โรงว่างเกือบครึ่งโรง
2. การโปรโมทภาพยนต์เคจจลี ทาง JKN ได้จัดทำเทรลเลอร์ ภาพยนต์ลงทางช่อง
Youtube เท่านั้น. และโฆษณาทางหน้าเพจบ้าง.
แต่ทางแฟนๆไม่เคยเห็นการโฆษณาเพื่อโปรโมทภาพยนต์ในสื่ออื่นๆเลย.
เรียกว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ.ที่ภาพยนต์น้ำดีเรื่องหนึ่ง
ทั่ได้รับรางวัลมาจากงานเทศกาลภาพยนต์มากมาย
ถึงไม่มีงบโปรโมทจากบริษัทมหาชนพันล้านเลย?
3.
การประกาศให้ผู้ชมทั่วไปลงทะเบียนฟรี เพื่อเข้าร่วมงาน เปิดตัวมูลนิธิ LIFT
และพบกับนักแสดงนำเคจจลี เวลา 17.00 นาฬกา ที่สยามพารากอน ลานอินฟินิตี้
ในวันที่ 12 ก.ค. เช้า มีการประกาศให้แฟนๆทั่วไปสามารถลงทะเบียนเข้างาน เปิดตัวมูลนิธิ LIFT ได้ฟรี 200 ที่นั่ง. ที่หน้าเพจของ JKN
เหตุการณ์นี้ทำให้แฟนๆที่ซื้อบัตร 1499 บาท ค่อนข้างช้อค.
และท้วงติงไปยังแอดมินเพจของท่าน. แต่ก็เงียบไร้คำตอบที่ชัดเจนเช่นเคย.
เพราะก่อนหน้านั้นได้มีการแจ้งว่าคนที่ซื้อตั๋ว 1499 จะได้ร่วมงานตั้งแต่
17:00 นาฬิกาฟรีเช่นกัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามจริงในวันงานคือ. ......
ทังผู้ซื้อตั๋วราคา1499 และผู้ลงทะเบียนฟรี 200 คนไม่สามารถเข้างานได้
กันพื้นที่ให้เฉพาะวีไอพี 50 ที่นั่งเท่านั้น แฟน ๆ 200
คนที่มีรายชื่อรวมทั้งคนที่ซื้อบัตรเข้าชมภาพยนตร์ 1499
ถูกกันออกมาข้างนอกพื้นที่ ทางแฟนๆได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ JKN
ก็ได้รับคำยืนยันว่าเข้าไม่ได้ จนแฟน ๆ ไม่พอใจเริ่มโวยวาย
พนักงานของท่านจึงให้เข้าไปยืนข้าง ๆ ตรงที่ควบคุมเสียงได้เท่านั้น
4. การฉายหนังรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 18 ก.ค.
กำหนดการคือ....การเข้าชมภาพยนต์เรื่องเคจจลีและต่อด้วยมิวสิควิดีโอ I
wanna touch the sky และต่อด้วยกิจกรรม Q&A
กับนักแสดงและผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้
มีการประชาสัมพันธ์ให้แฟนๆอยู่ต่อหลังภาพยนต์จบเพื่อชมเพลง
และรอพูดคุยกับนักแสดงและผู้อำนวยการสร้างมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ก่อนภาพยนต์เข้าฉาย
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังภาพยนต์ฉายจบ นักแสดงและผู้อำนวยการสร้างคุณอาชิช
และอัจนา ถูกกันออกนอกโรงทันทีโดยได้รับแจ้งแค่ว่า
เวลาในการใช้โรงหมดแค่นั้น. และถูกกันออกไปเพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อของ JKN
ที่จัดเตรียมมา โดยไม่มีการแจ้งหรือประกาศใดๆจาก JKN
เลยสักนิดเดียวให้กับแฟนๆที่รออยู่ในโรง.
แม้แต่นักแสดงก็งงงวยเพราะสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในกำหนดการ.
นักแสดงเองก็รอเพื่อจะได้พูดคุยกับแฟนๆ
และท่ามกลางความช็อคของแฟนๆที่รอเพื่อที่จะพูดคุยกับนักแสดงอย่างเต็มที่
ไร้คำอธิบายใดๆทั้งสิ้น.
สร้างความงงงวยว่านี่คือวิธีการทำงานของบริษัทพันล้าน. ผู้ชมบัตรราคา 1499
บาท ได้อะไรจากการซื้อบัตรแพงขนาดนี้
และยังถูกปฎิบัติเหมือนไม่ใช่ลูกค้าบริษัท
นอกจากนั้น
ของขวัญที่เป็นซีดีและหนังสือที่ท่านแจ้งว่าจะแจกให้ผู้ซื้อตั๋วทุกท่าน
ก็ปรากฎว่า มีไม่ครบ. และพนักงานแจ้งว่าของหมด.
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่านี่คือการจัดการของบริษัทพันล้านต่อลูกค้าของท่าน
5. รอบการฉายหนัง.
เดิมมีการประกาศว่าหลังจากรอบพรีเมียร์จะมีการฉายเคจจลีด้วยราคาปกติ
ตั้งแต่วันที่ 19-31 ก.ค. แต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.
ปรากฎว่าเคจจลีถูกถอดออกจากโรงโดยไม่มีการแจ้งแฟนๆอีกเช่นกัน.
หนังอาจจะไม่ทำเงิน เพราะท่านไม่โปรโมทเลย. แต่ท่านก็ควรจะแจ้งแฟนๆบ้าง
เพราะมีแฟนๆอีกหลายคนตั้งใจจะไปดูกันอีกหลังจากมีการแนะนำปากต่อปากและเริ่มมีการรีวิวกันเองในกลุ่มแฟนๆ
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ บรรดาเราเหล่าแฟนคลับรู้สึกเศร้าใจ
ที่มาตรฐานของท่านด้อยลงไปมาก.
และภาพยนต์ที่ดีอย่างเคจจลีที่น่าจะได้รับการโปรโมทเหมือนหนังเรื่องอื่นๆกลับถูกดองและไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควร.
โปสเตอร์หนังที่โรงหนังก็ยังไม่ค่อยจะมี
ถ้าหาก JKN
ยังไม่เร่งแก้ไขในสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราเองก็คงเลิกซื้อตั๋วไปงาน JKN
เพราะความไม่แน่นอนในการจัดการอีเว้นต์ต่างๆของท่าน
ที่ทำให้เราแฟนคลับที่สนับสนุนท่านมาตลอดรู้สึกถูกเอาเปรียบมากเกินไปที่จะสนับสนุนท่านต่อ.
และคงกลับไปตามศิลปินที่เราชอบทางช่องอินเดียต่อเองเหมือนที่เคยทำมานานแล้ว.
เราหวังว่าขัอความของเราจะเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกความคิดของแฟนๆ.
ถ้าหากท่านอ่านจนจบ และลองนำไปวิเคราะห์ และปรับปรุง
คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย
ขอบคุณค่ะ