▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
นักท่องเที่ยว
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวเวียดนาม
โฮจิมินห์
บังเอิญต้องเข้า Ho chi minh อยู่ 11 ชม. ไม่มีแพลน
ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนเลยว่าเรากับเพื่อนเป็นนักศึกษาไทยที่ไปสหกิจประเทศกัมพูชาเป็นระยะเวลา 4 เดือน (หมายเหตุเราสามารถเข้ากัมพูชาได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแต่สามารถพำนักได้ 14 วัน) 2 เดือนแรกทำวีซ่าเป็นแบบนักเรียน/นักศึกษา 1 เดือนหลังทำเป็นนักท่องเที่ยว ทุกเดือนจะมีการต่อวีซ่าที่บริษัททัวร์ในพนมเปญเดือนละ 58USD ซึ่งเดือนที่ 4 เหลืออีกแค่ 10 วัน จะกลับไทย แล้ววีซ่าหมดพอดี จะต่อเดือนใหม่ ก็ตั้ง 58USD แล้วใช้เวลารอวีซ่า 15 วัน ซึ่งถ้าทำไม่ทันกลับไทยแน่นอน หรือถ้าเอาแบบเร่งด่วนราคาก็ชาร์ตสูงมาก 3 เท่า ตอนนั้นคิดสักพัก เลยตัดสินใจเร่งด่วนเดินทางออกประเทศกัมพูชาไปก่อน ประเทศทางเลือกคือ เวียดนาม (สาเหตุที่ทำไมไม่กลับไทยก็พอกระเทินอีกแหละและอีกอย่างเวียดนามกับพนมเปญก็ใช้เวลาเดินทางจริงๆ ก็ 6-7 ชม.) เป็นทางเลือกที่ดีเพราะตอนนั้นพยายามคิดประหยัดงบที่สุด และได้เที่ยวนิดนึงก็เอา ตัดสินใจเดินทางด้วยรถสบัส Giant Ibis Transport ในราคา 18 USD เวลาเดินทางของเรา คือ 08.10 น.
อ้าววเริ่ม😁
รถแบบนี้
ขึ้นไปคือทั้งบัสเป็นชาวต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่ 😭
บนบัสจะมีพนักงานบริการ มี wifi free และปลั๊กไฟ คอยให้บริการ ก่อนรถออกมีขนมและน้ำดื่มบริการด้วย
..... อะข้ามบนรถไป
เราถึงด่านพรมเเดนกัมพูชา-เวียดนาม (จำชื่อด่านไม่ได้) พนักงานบนรถก็จะให้เราลงไปเหมือนประทับตราเข้าออกประเทศปกติ (ไม่เสียเงิน😁🙏🏻) ก็ทำตามขั้นตอนของเขาไป แล้วก็แวะทานข้าวที่ Duty Free พยายามเลือกเมนูที่ง่ายที่สุด เพราะคนสั่งเยอะมากเพราะมีแค่ร้านเดียว แต่ลืมไปไก่ทอดมันง่าย แต่ใช้เวลาทอดโคตรนาน 555 สม 😁
ราคาประมาณจานละไม่เกิน 5 USD
อะอิ่มแล้วไปต่อ
ต่อไปคือด่านเวียดนาม-กัมพูชา อะลงทำตามขั้นตอนที่พนักงานบัสบอก #ย้ำไม่เสียค่าใช้จ่าย
โอเคต่อไปถึงเมือง Ho chi minh เวลา 15.00 น. บัสจะจอดแถวๆ พวกบริษัททัวร์ ไปแบบรีบไม่ได้ศึกษาอะไร เพราะหวังว่าได้เข้าออกประเทศก็บุญแล้ว ไม่ต้องทำวีซ่าใหม่ แต่พอถึง Ho chi minh เราไปเดินดูรอบเที่ยวเวลารถกลับ เวลา 00.10 น. โอเครอดมีรถกลับ ซื้อตั๋วรถ ซื้อซิมแถวนั้น เลือกซื้อคนเดียวพอเอาแค่พอติดต่อได้ เพราะอยู่ไม่นาน
พอดีตรงข้ามบริษัททัวร์มีสวนสาธารณะ ก็เลยไปนั่งพัก ลองค้นหาสถานที่น่าสนใจระหว่างค้นก็มีคนออกกำลังกาย เดินเล่น เล่นตะกร้อ ประมาณนี้
อะค้นพบแล้วว่าจะไป The Cafe Apartment ตั้งอยู่ที่ Nguyen Hue Street (Ho Chi Minh Walking Street) เป็นอพาร์ทเมนท์เก่า 9 ชั้น ที่ถูกรีโนเวทใหม่ที่มีขายครบจบภายในที่เดียว
...ไปที่นี่เป็นที่ยอดนิยมใจกลางเมืองเลยทีเดียว
อะไปเฉยๆ เด้อ ไปดู ไปเห็น แต่ไม่ได้เข้าไปเพราะงบจำกัด แค่ถ่ายก็ถึงแล้ว
อะต่อไปติดต่อเพื่อนของเพื่อนได้แล้วซึ่งเป็นเพื่อนต่างคณะที่สหกิจใน Ho chi minh อะรอด มีคนพาเที่ยวนิดนึงก็เอาวะ โอเคง่ายสุดคือนั่ง grab ไปหาเพื่อน คือคิดว่าประหยัดสุดเพราะใช้ส่วนลด อะหักจากบัตรจ่าย 10 บาท
โอเค อะเริ่ดอยู่ รอดแล้ว เริ่มเดินทาง
แล้วก็ไปเจอเพื่อนที่นี่
เพื่อนก็เป็นคนดีพาชมเมืองแต่คือเดิน สรุปก็เดินวนอยู่ในเมือง Ho chi minh อะเดินทางเจอที่ลงบัส เดินมาเจอที่ขึ้น grab อ้าวใกล้ตรงนี้ นั่งรถทำไม ? 555
ของแบบนี้ผิดเป็นครู
ระหว่างเดินแล้วเราก็เห็นบรรยากาศเหล่านี้
แล้วพวกเราก็เดินมาถึงที่นี่ ถือเป็นสถานที่ยอดฮิต ที่ต้องมาให้ได้ในยามค่ำคืน สายดื่ม สายชิว มานี่เลย
พอเดินได้สักพัก โชคชั่งไม่เข้าข้างสรุปฝนตก ได้วิ่งหาร้านนั่ง โอเคหลบฝนแบบเอาวะ
แต่ฝนมันก็มีทั้งชุ่มช่ำ แต่แบบเฮ้อ ประเด็นทั้ง 3 คน โสดไง แต่ดูซิ ดู ดูเธอทำ 😭
ถ้าเปรียบเทียบอารมณ์ตอนนั้นคงเหมือนผู้หญิงคนนี้
อะช่างมัน อยู่กับเพื่อนเม้าส์มอยสนุกดี ด้วยฟิวชอบถ่ายรูปเลยให้เพื่อนเม้าส์ไปก่อน 2 คน เราออกมาดูนอกร้าน ท่ามกลางฝนที่ยังจกอยู่ เราก็ได้เห็นรูปแบบชีวิตที่ต้องดิ้นรน ทั้งพ่อค้า แม่ค้า บางร้านเป็นหาบเร่ บางคนปั่นจักรยาน บางคนใส่เสื้อกันฝนส่งอาหารตามสั่ง และมากกว่านั้นติดตามเรื่องราวในภาพจ้า 😁
แล้วก็ปิดท้ายภาพด้วยรอยยิ้มของคนที่ชอบถ่ายภาพเหมือนกัน
พอฝนซา เวลาประมาณ 22.30 พวกเราไปส่งเพื่อนในที่พัก และจากนั้นเดินทางมาที่จุดขึ้นบัส ฝนโปรยเบา เลยตัดสินใจหาร้านกาแฟใกล้ นักพักรอขึ้นบัส เราก็พบกับร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ L.Cafe
บรรยากาศร้านเงียบสงบเพราะมีเรากับเพื่อนสองคนที่เป็นลูกค้า 555 เฮ้ยมันฝนตกไงเลยเงียบ
แต่มีความโชคดีอยู่คือสั่งน้ำไปคนละแก้วแต่ได้มาฟรีอีก 1 แก้ว ตามโปรเลยฮ่ะ
ร้านปิดประมาณ 5 ทุ่ม ก็ต้องย้านไปนั่งรอที่บริษัททัวร์
สรุปได้ขึ้นรถตีสอง เป็นบัสนอนแบบนี้ ราคา 13 USD/คน
โอเคมีแก๊งค์ฝารังคี (ชาวต่างชาติ) อีกแล้วแต่ครั้งมีคู่รักน้อยลง อะสบายใจไป
เราก็นอนบนบัสนอนนี้แหละจนถึงพนมเป็น ก็ทำปั้มเข้าประเทศปกติ เดินทางถึงพนมเปญโดยสวัสดิภาพ
สรุปงบตกประมาณคนละ 60 USD
ขอบคุณที่อ่านจบจ้า
แต่เรื่องบัสนอนอะเคยได้ยินเรื่องเล่าไหมจ๊ะ
มันเปิดประสบการณ์ที่ดีจ๊ะแม่จ๋า ถ้ามีคนสนใจจะมีกระทู้ต่อไปจ๊ะ เฮ้ยยยนี่บัสนอนตุ๊บตั๊บ 😱👌🙏🏻