5 หนุ่ม NU’EST สร้างความทรงจำสุดประทับใจให้กับแฟนๆ ชาวไทยด้วยโชว์พิเศษที่มอบให้กันโดยเฉพาะ! ในคอนเสิร์ต 2019 NU’EST CONCERT Segno IN BANGKOK


ครั้งนี้เป็นการกลับมาของหนุ่มๆ NU’EST พร้อมคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของพวกเค้า ที่ได้เลือกมาเปิดตารางทัวร์ 2019 NU’EST TOUR ต่างประเทศที่แรกในประเทศไทย และยังจัดเต็มให้แฟนๆ เหล่าเลิฟชาวไทย (L.O.Λ.E : ชื่อเรียกแฟนคลับของ NU’EST) กันแบบจุใจ 2 วัน 2 รอบแสดงเลยทีเดียว ซึ่งคอนเสิร์ต ‘2019 NU’EST CONCERT Segno IN BANGKOK’ นี้ได้ผู้จัดไทยฝีมือดีอย่าง บริษัท เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) จับมือกับต้นสังกัดเกาหลี PLEDIS Entertainment เสริมทัพด้วยบริษัทด้านธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่ Live Nation Korea มาร่วมกันสร้างสรรค์คอนเสิร์ตนี้ให้นำเสนอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งแสงสีเสียง



เมื่อวันเสาร์ที่ 20 และวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี แฟนๆ เหล่าเลิฟมากมายเดินทางกันมาพร้อมหน้าพร้อมใจกันที่จะได้มาเจอกับหนุ่มๆ NU’EST ทั้ง 5 คน เจอาร์, อารอน, แบคโฮ, มินฮยอน และ เร็น

โดยในคอนเสิร์ต ‘2019 NU’EST CONCERT Segno IN BANGKOK’ นี้ อารอน ได้ขึ้นเวทีแสดงด้วย หลังจากเมื่อครั้งคอนเสิร์ต 2019 NU’EST CONCERT IN SEOUL เดือนเมษายน ณ ประเทศเกาหลี เค้าบาดเจ็บและไม่สามารถเข้าร่วมการแสดงได้ ที่นี่จึงเป็นเวทีแรกของพวกเค้าทั้งห้าคนอย่างแท้จริงตามที่ มินฮยอน ได้กล่าวไว้



นอกจากนั้นแล้วการแสดงในรอบวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดของสมาชิกคือ แบคโฮ อีกด้วย โอกาสพิเศษเช่นนี้เหล่าเลิฟจึงได้ร่วมฉลองให้กับเค้าไปพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ ด้วย



เปิดฉาก! ‘2019 NU’EST CONCERT Segno IN BANGKOK’ ท่ามกลางเสียงกรี้ดต้อนรับของแฟนๆ แบบดังสนั่น วีทีอาร์เริ่มต้นคอนเสิร์ตนี้ก็เปิดขึ้นกับเรื่องราวของนาฬิกาแห่งกาลเวลา ที่ห้าหนุ่มหวนคืนกลับมาพบกันพร้อมหน้าอีกครั้งในนาม “NU’EST” ที่จะสื่อว่า “เวลาของผมเดินย้อนกลับไปหาคุณอีกครั้ง” และก็ถึงเวลาที่ 5 หนุ่มปรากฎตัวขึ้น เจอาร์, อารอน, แบคโฮ, มินฮยอน และ เร็น เสียงกรี้ดที่ดังอยู่แล้วก็ยิ่งดังขึ้นไปอีก! พร้อมกับแท่งไฟที่อยู่ในมือก็เริ่มทำงานให้แสงสีชมพูสว่างไสวไปทั่วทั้งธันเดอร์โดม ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อส่งกำลังใจโดยตรงไปให้ถึงหนุ่มๆ ได้ทันที



เพลงแรก 5 หนุ่ม NU’EST เริ่มต้นด้วย 여보세요 (HELLO) ที่เรียกเสียงกรี้ดจากแฟนๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ต่อด้วยเพลง LOVE PAINT และ 여왕의 기사 (OVERCOME) เท่านั้นยังไม่พอหนุ่มๆ จัดเพลง BET BET ผลงานเพลงล่าสุดของพวกเคา้มาให้ชมกันตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว ทั้งการแสดงและเสียงร้องที่ดีงามของทุกคน รวมกับเสียงแฟนชานต์ของแฟนๆ เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างส่งพลังให้ต่อกันและกันแบบไม่มีลดลงเลย



และก็ได้เวลาทักทายกับแฟนๆ อย่างเป็นทางการ หนุ่มๆ NU’EST แนะนำตัวพร้อมพูดอ้อนเป็นภาษาไทย “เลิฟชาวไทยคิดถึงนิวอีสต์ไหมครับ” “คิดถึงนะ รู้ยัง” “รักนะจุ๊บๆ” และยังมีคำไทยสุภาพน่ารักที่แฟนๆ หลายคนคาดไม่ถึงจากหนุ่มมินฮยอนอย่าง “ยินดีต้อนรับครับ” อีกด้วย

และ NU’EST ก็ได้เริ่มพูดถึงความรู้สึกของพวกเค้า และความหมายของชื่อคอนเสิร์ตในครั้งนี้

“ยินดีต้อนรับ ดีใจที่ได้เจอคุณ วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากเพราะในที่สุดเราก็มาแบบครบทั้งวงแล้วครับ นิวอีสต์กลับมาหาทุกคนแล้วนะครับ เรารู้ว่าทุกคนรอเรามานานมาก ขอบคุณมากๆ และรักทุกคนนะครับ รักนะจุ๊บๆ

เซ-นโย คือโน้ตเพลงที่มีความหมายว่าย้อนกลับไปเล่นใหม่ พวกเราเลยอยากบอกว่านี่เป็นคอนเสิร์ตที่เราตั้งใจเตรียมเพอร์ฟอร์แมนซ์ใหม่ๆ ด้วยใจที่เต็มเปี่ยมเหมือนในตอนเริ่มเดบิวต์ พวกเราเองก็มีความตื่นเต้นมากๆ และหวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ อยากให้ทุกคนสนุกเต็มที่ไปจนถึงเพลงสุดท้ายเลย!!”



จบช่วงทอล์กแรก หนุ่มๆ พาทุกคนเข้าสู่ช่วงต่อไปด้วยเพลงบีทหนักๆ และท่าเต้นที่คมชัดหนักแน่นอย่างเพลง LOOK และ R.L.T.L

ก่อนที่จะเข้าช่วงทอล์กที่สมาชิก NU’EST ต่างท้ทายกันให้ทำท่าหัวใจส่งให้แฟนๆ แบบชื่อเพลง ‘R.L.T.L’ (Real Love True Love) ในสไตล์ของแต่ละคนที่มีทั้งความน่ารักไปจนถึงเล่นใหญ่ไต่ระดับบรอดเวย์กันเลย

“ทุกคนได้รับหัวใจของพวกเราแล้วใช่ไหมครับ หวังว่าวันนี้ทุกคนจะได้สมหวังและดูโชว์ที่ทุกคนอยากดูกันให้เต็มที่เลยนะครับ”



ต่อด้วยเพลงช้าๆ I’M BAD ที่คราวนี้พวกเค้าเดินไปหาแฟนๆ กันอย่างทั่วถึงทุกมุมเวที และมีความสุขกันต่อเนื่องกับฟีลละมุนๆ ไปกับเพลงDAYBREAK ที่แสดงโดย เจอาร์ และ มินฮยอน ยูนิตสเตจที่มีความน่ารักอบอวลเต็มไปหมด



จากนี้ก็เข้าสู่ช่วงโซโล่สเตจ โดยเริ่มต้นที่วีทีอาร์ในคอนเซ็ปต์ลึกซึ้ง ซึ่งหยุดภาพไว้ให้คิดกันที่ข้อความว่า “เรื่องราวที่เก็บไว้กำลังเผยออกมาอีกครั้ง”

และ แบคโฮ ก็เริ่มโชว์โซโลสเตจเป็นคนแรกด้วยเพลงบัลลาด 지금까지 행복했어요 (THANKSFUL FOR YOU) ที่ถ่ายทอดความหมายของเพลงผ่านเสียงร้องที่ทรงพลัง แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่สื่อสารออกมาได้อย่างจับใจ

จบการแสดงของเมนวอคอล ย้ายมาสู่เซ็นเตอร์สเตจพร้อมเสียงปล่อยผ้าสีขาวโปร่งแสงยาวจรดพื้นเวที เร็น เปิดตัวบนเตียงนอนสีขาวล้อมด้วยฉากม่านรอบตัว ท่ามกลางแสงไฟสีแดง เค้ามาในเพลง PARADISE พร้อมเสน่ห์การแสดงสุดเซ็กซี่



กลับสู่สเตจหลัก มินฮยอน ปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางฉากมึดที่มีแสงไฟส่องลงที่เค้าที่มาพร้อมกับโซโล่สเตจเพลง UNIVERSE จากนั้นฉากหลังก็เปลี่ยนเป็นจักรวาลกว้างใหญ่ที่เค้าพร้อมจะพาแฟนๆ เข้าไปสู่บทเพลงที่เค้ามอบให้ผ่านการร้อง และการเต้นที่น่าจดจำ

และไปที่เซ็นเตอร์สเตจอีกครั้ง อารอน ปรากฎตัวในชุดดำสุดเท่นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมไมค์บนขาตั้ง เค้ามาในเพลงความหมายดีๆ อย่าง GOOD LOVE ที่เพิ่มความพิเศษเข้าไปด้วยสไตล์แจ๊สที่ฟังเพลินตาเพลินใจมากจริงๆ



จบการแสดงของพี่ใหญ่ เข้าสู่การแสดงของลีดเดอร์ เจอาร์ ที่มาปลุกพลังในตัวทุกคนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับความร็อกด้วยเพลง I HATE YOU พร้อมการแสดงที่ดุดันท่ามกลางลำแสงเลเซอร์สีแดง ปิดท้ายการแสดงโซโล่สเตจของ 5 หนุ่มไปอย่างตื่นตาตื่นใจ



และ NU’EST ก็ได้เฉลยความหมายที่ซ่อนอยู่ในวีทีอาร์ “เรื่องราวที่เก็บไว้กำลังเผยออกมาอีกครั้ง” เป็นภาพ มินฮยอน เดินกลับมาสมทบทีมกับเพื่อนๆ อีก 4 คนที่นั่งรอต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันอีกครั้ง นำเข้าสู่เพลง 조금만 (A little bit more) ซึ่งรับหน้าที่โชว์ยูนิตสเตจโดย แบคโฮ อารอน และ เร็น

ต่อที่เพลงประสานเสียงสุดเพอร์เฟค ONE KIS2 ที่แฟนๆ ชาวไทยได้ทำความพิเศษให้ด้วยโปรเจคแบนเนอร์(ในรอบวันอาทิตย์)ด้วยประโยคภาษาเกาหลีที่แปลเป็นไทยว่า

“หากเหนื่อยล้าเมื่อใด ให้รู้ว่ามีเลิฟอยู่ข้างคุณเสมอ”

และต่อด้วย 나의 천국 (LOST & FOUND) จบเพลงหนุ่มๆ บอกว่าการที่ได้ร้องเพลงบนลิฟต์สลับกันเคลื่อนตัวขึ้นลงตามท่อนร้อง ทำให้คิดว่าเลิฟคือสวรรค์ของพวกเค้า เป็นความรู้สึกดีมากๆ ที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันแบบนี้ และบอกความในใจผ่านบทเพลงที่ดีนี้ด้วย



และมาถึงตอนนี้ในรอบวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ความพิเศษที่ทุกคนตั้งใจเตรียมกันก็คือช่วงเซอร์ไพรส์วันเกิด แบคโฮ นั่นเองซึ่งเพื่อนๆ จัดเต็มอำเจ้าของวันเกิดชนิดเล่นใหญ่ ทั้งคิวเพลง คิวไฟ คิวลิฟต์ค้าง และคิวเค้ก ลุ้นกันไปหมดทุกคน ก่อนที่จะฉลองวันเกิดสุดแฮปปี้ทั้งศิลปิน และแฟนๆ ชาวไทย ที่ได้ทำโปรเจคสุดพิเศษด้วยการแปรตัวอักษรเป็นคำว่า “HBD” และชูแบนเนอร์ภาษาเกาหลีที่แปลเป็นไทยได้ว่า

“สำหรับเลิฟ ของขวัญที่ดีที่สุด ก็คือแบคโฮ”

ซึ่ง แบคโฮ ก็ได้ตอบกลับประโยคนี้ว่า

“สำหรับผม ของขวัญที่ดีที่สุด ก็คือเลิฟทุกคน”



และอีกความพิเศษที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก ก็คือ ‘เพลงไทย’ ที่หนุ่มๆ NU’EST เตรียมมาให้เลิฟชาวไทยโดยเฉพาะก็คือเพลง ‘พี่สาวครับ’ (ต้นฉบับโดยคุณจรัล มโนเพ็ชร) ที่ แบคโฮ บอกว่า เร็น คือคนที่ตั้งใจอยากได้เพลงนี้มากๆ

“เพราะเนื้อเพลงมี Message ที่อยากบอกกับทุกคนจริงๆ”

และเจอาร์ก็บอกว่า “ได้ยินว่าเพลงนี้ได้รับความรักมาอย่างยาวนานมากๆ ใครที่รู้จักเพลงนี้อยากให้ร้องพร้อมๆ กันนะครับ” และมินฮยอนบอกว่า “อาจจะยังร้องไม่เก่งมาก แต่หวังว่าความรักของพวกเราจะสื่อไปถึงทุกคนเลยนะครับ” ซึ่งหนุ่มๆ ฝึกร้องฝึกอู้คำเมืองกันอย่างตั้งอกตั้งใจ และผลลัพธ์ก็งดงามมากจริงๆ ทั้งความชัดเจนในภาษา ทั้งความหมายของเพลงที่ส่งตรงมาถึงเลิฟชาวไทยก็ทำเอาเขินกันไปทุกท่อนตลอดเพลงกันเลย



จบเพลงไทยสุดพิเศษ ยังคงความหวานต่อไปกับพวกเค้าด้วยเพลงน่ารักๆ อีกสองเพลงคือ 사실말야 (VVITH) และ 예뻐 (Pretty)



ต่อกันด้วยเซตเพลงสุดฟินที่เป็นผลงานตั้งแต่สมัยเดบิวต์ และเริ่มต้นเส้นทางนี้ของพวกเค้าอย่างเพลงเดบิวต์ FACE ที่ทำให้ทุกคนรู้จักกับ NU’EST ต่อด้วย ACTION และ BEAUTIFUL GHOST เพลงแดนซ์พร้อมท่าเต้นสุดหนักแน่น



ก่อนที่พวกเค้าจะบอกว่า “ช่วงที่เรามีความสุข เวลามักจะผ่านไปเร็วมากเลย” พร้อมอำลาแฟนๆ ไปด้วยเพลง Segno ที่เป็นชื่อของคอนเสิร์ตครั้งนี้ และฝากความในใจซึ้งๆ ผ่านวีทีอาร์พิเศษเป็นของขวัญอีกหนึ่งชิ้น

แต่ทุกคนก็ส่งเสียงเรียกขออังกอร์ดังสนั่นไม่ขาดสาย หนุ่มๆ NU’EST กลับขึ้นสู่เวทีอีกครั้งพร้อมกับเพลง 노래 제목 (A Song for You) บทเพลงที่แต่งขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 7 ปี และแฟนๆ ชาวไทยได้เพิ่มความพิเศษลงในการแสดงเพลงนี้(ในรอบวันเสาร์)ไปอีกด้วยโปรเจคแบนเนอร์ภาษาเกาหลีที่แปลเป็นไทยว่า

“มือที่จับกันไว้แน