ชีวิตช่วงมัธยมปลายของผมอาจจะไม่เหมือนเด็กทั่วไปในสมัยนั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับผมสายวิทย์คณิตซะด้วย เฮ้อ ถอนหายใจเล็กน้อย ผมไม่น่าจะได้มาเรียนห้องนี้ด้วยซ้ำแต่พ่อบังคับให้เลือก ก็ตามนั้นครับ ไม่อยากขัดใจพ่อชีวิตตอนนั้นก็เหลือแค่พ่อเท่านั้น ส่วนใหญ่เลิกเรียนเด็กห้องผมก็จะรีบกลับบ้านหรือไม่ก็นัดกันไปหาของกิน ไปเล่นเกมส์ตามร้านในตลาดไม่ค่อยมีคนชอบเล่นกีฬาแบบผมหรอก ของผมกีฬามันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว
ผมเริ่มจริงจังกับการเล่นกีฬามากขึ้นตอนนั้นผมไปคัดตัวทีมฟุตบอลจังหวัดรุ่นอายุ 15 ปี ที่สนามกีฬากลางจังหวัดมีนักเรียนจากทั่วจังหวัดมาคัดตัวจำนวนมาก ผลเป็นไปอย่างที่หวัง ดีใจมากผมติดทีมจังหวัดครั้งแรกทำให้ผมรู้จักเพื่อนโรงเรียนอื่นเพิ่มขึ้นเพื่อนที่โรงเรียนเดียวกับผมติดทีมไปด้วยอีกสองคน หลังเลิกเรียน ผมและเพื่อนจะต้องนั่งรถไปซ้อมฟุตบอลที่สนามกีฬากลางจังหวัดทุกเย็นระยะทางห่างจากโรงเรียนผมประมาณ 10 กิโลเมตร รถที่นั่งผมเรียกว่ารถหวานเย็นรถเมล์นี่เเหละครับ ช้าไปหน่อยแต่ถึงชัวร์ ผมเสียสละเวลาส่วนตัวที่จะต้องไปเล่นสนุก ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เพื่อหวังว่ากีฬานี้จะทำให้อนาคตของชีวิตผมดีขึ้นได้ เพราะต้นทุนชีวิตผมต่ำกว่าเพื่อนๆทุกคนในห้อง และฟุตบอลก็ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นจริงๆ ผมมีเงินใช้จากการได้เบี้ยเลี้ยงซ้อมฟุตบอลจังหวัดรายวันเงินจากการแข่งขันแต่ละนัด และเงินโบนัสจากการได้เข้ารอบลึกๆ รายการแรกเราแข่งกับทีมฟุตบอลระดับนักเรียนชั้นแนวหน้าของประเทศ ทีมจังหวัดผมได้อันดับที่ 3 ของรายการนั้น ผมได้โบนัสเป็นเงินก้อนมาหลักพัน ถือเป็นเงินที่ผมหาได้เอง ที่เยอะที่สุดที่ผมเคยได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนบางครั้งพ่อผมพูดขึ้นมาว่า “ลองไม่ให้เงินใช้ ดูสิจะขอไหม แต่ไม่เห็นขอ ไปเอาเงินมาจากไหน” ผมยิ้มแล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้พ่อสงสัย แต่คิดว่าพ่อคงรู้ ตอนนั้นมีโค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียนชั้นนำระดับต้นๆของประเทศมาติดต่อให้ผมย้ายไปเรียนที่นั้น จะให้เล่นฟุตบอล และให้เรียนฟรี แต่พ่อผมก็ปฎิเสธไม่ให้ไป พ่อบอกเรียนที่ไหนก็เล่นฟุตบอลได้ แต่จริงแล้วสมัยนั้นถ้าไปอยู่ทีมดังก็จะมีโอกาสจะพัฒนามากขึ้น แต่พ่อคงเป็นห่วงไม่อยากให้ผมไปอยู่ไกลหูไกลตา
ตอนผมเล่นฟุตบอลรุ่นอายุ16 ปีให้โรงเรียน ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ ม.4 ทีมโรงเรียนผมคว้าแชมป์จังหวัด ซึ่งเป็นครั้งแรกของผมผมเริ่มมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลระดับจังหวัด ผมติดทีมจังหวัดไปแข่งขันหลายรายการบางครั้งผมต้องไปเก็บตัวหลายวันเพื่อเตรียมแข่งขัน จนไม่มีเวลาเรียนเกรดเฉลี่ยผมก็ลดลงเหลือ 2.5 จนครูบ่นว่าเมื่อก่อนเธอเรียนดีนะ แต่เดี๋ยวนี้นี้เธอไม่ค่อยสนใจเรียนเลย (ครูไม่เข้าใจหนู) ผมเคยสอบตกวิชาฟิสิกส์ได้เกรดศูนย์ แต่ก็ไม่ได้เครียดนะ เพราะผมก็ไม่ได้เอาวิชาฟิสิกส์มาใช้ในวิถีชีวิตประจำวันนอกจากเรียนเพื่อสอบให้ผ่านในเวลานั้น สุดท้ายต้องไปสอบซ้อม (คนเราจะเก่งไปทุกอย่างมันก็ไม่ได้หรอกจริงมั้ยครับ) แต่ถึงการเรียนผมจะตกลง แต่ผมมีรายได้จากการเล่นฟุตบอลเพิ่มขึ้น ผมได้ใบประกาศนักกีฬาดีเด่นของโรงเรียนแทนการเรียนเด่น ผมได้วิ่งคบเพลิงในกีฬาสีโรงเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดอยากจะไปยืนตรงจุดนั้นสักครั้งในสมัยที่ผมอยู่มัธยมต้น ผมเห็นรุ่นพี่นักกีฬา ที่มีผลงานเด่นจริงๆปีละ 2 คน ที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน จะได้วิ่งคบเพลิงในงานกีฬาโรงเรียน เพื่อยกย่องชมเชย รุ่นพี่คนนั้นจะเป็นไอดอลของเด็กนักเรียนในโรงเรียนในเวลานั้นเลย ตอนนั้นผมเลยคิดว่าผมเลือกที่จะเด่นทางกีฬา อยากเก่งแบบรุ่นพี่บ้าง วัยรุ่นทุกคนก็ต้องการการยอมรับจากสังคม ตอนนั้นผมเริ่มดังในโรงเรียน ผมมีน้องๆพี่ๆในโรงเรียนมาชื่นชอบ บ้างก็มาขอถ่ายรูป เรียกว่าเป็นนักกีฬาที่ป๊อบปูล่าที่สุดในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เสียดาย 20 ปีที่แล้วยังไม่มีเฟสบุ๊คเหมือนสมัยนี้ ผมเริ่มรู้สึกว่าผมเลือกทางนี้มันน่าจะดีสำหรับผมนะ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ทิ้งการเรียนไปเลยนะครับ ผมประคองการเรียนให้ผ่านไปได้เสมอ ทุกครั้งที่ต้องไปแข่งขันฟุตบอลที่ต่างจังหวัด ผมจะกลับมาทำงานส่งทีหลังเพื่อน และจะตั้งใจอ่านหลังสือช่วงที่ใกล้สอบ เพื่อพยายามให้เรียนผ่านไปให้ได้ กีฬาเด่น แต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน ต้องทำควบคู่กันไป
ช่วงม.5 ผมจะมีรายการแข่งขันมากขึ้นให้ทีมจังหวัดบางครั้งทางจังหวัดขอให้ไปเก็บตัวเป็นสัปดาห์ไม่ได้เรียนหนังสือ จนครูแซวว่ายังเรียนหนังสืออยู่หรือป่าว ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย แต่ข้อดีคือมีเงินใช้จากการเล่นฟุตบอลอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งปี และยังได้ทุนการศึกษาของโรงเรียน ผมกลับมาจากการแข่งขันให้จังหวัด เพื่อนๆ ในห้องก็จะคอยช่วยผมเรื่องเรียน เวลาผมไปแข่งฟุตบอลกลับมา ผมไม่เข้าใจเพื่อนก็จะช่วยสอนการบ้านผม จนผมเรียนรอดไปได้ในแต่ละเทอม
พอขึ้นม.6 เหลือผมคนเดียวที่ต้องนั่งรถไปซ้อมฟุตบอลทุกวันหลังเลิกเรียน กว่าจะซ้อมเสร็จ กลับถึงบ้านก็สองทุ่ม อาบน้ำ ทำการบ้าน นอน ชีวติประจำวันผมจนวันอยู่แบบนี้ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเล่นหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆสักเท่าไหร่ เพื่อนที่เคยเล่นทีมจังหวัดด้วยกันก็ขี้เกียจไปซ้อมแล้ว จนบางครั้งเกิดความคิดขึ้นมาในหัวว่า ไปคนเดียวไม่มีเพื่อนบางทีก็เหงา อยากจะหันหลังกลับแล้วเลิกเล่นฟุตบอลเหมือนกัน แต่ก็ต้องอดทนเพราะเราต้นทุนทางบ้านต่ำกว่าใคร กีฬาฟุตบอลนี่แหละจะเป็นสิ่งที่สร้างอนาคตที่ดีในวันข้างหน้าให้เรา
จนมาถึงฟุตบอลรายการเยาวชนแห่งชาติเป็นกีฬาระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ยอดทีมทุกจังหวัดเข้าร่วมชิงชัยกัน เพื่อเป็นสุดยอดทีมลูกหนังของประเทศไทย ครั้งนั้นที่ผมได้เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ในรอบสุดท้าย เพราะส่วนใหญ่จะตกรอบคัดเลือกตัวแทนเขตทุกปี ผมได้ลงตัวจริงทุดนัด แล้วทีมจังหวัดของผม แพ้รอบรองชนะเลิศ เลยอดเข้าไปชิงแชมป์ประเทศไทยอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ได้เหรียญทองแดงปลอบใจ ถือว่าเราเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทยในปีนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมผมเข้าไปคว้าเหรียญได้หลังจบรายการนั้น ผมได้ลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรก ได้อ่านข่าวทีมตนเองในหนังสือพิมพ์ดูข่าวทีมตนเองในทีวี เป็นรายการที่ทำให้ผมภูมิใจและสนุกมากครั้งหนึ่งเลยครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เลี้ยงขอบคุณนักฟุตบอลทีมจังหวัด ผมก็ได้เงินรางวัลเยอะเหมือนกันสมัยนั้น หลังจากนั้นผมก็เรียนจบ ม.6 พอดี ทีมชุดนี้ไม่มีเพื่อนนักเรียนจากโรงเรียนของผมเลย เพื่อนร่วมทีมผมบางคนก็มาจากโรงเรียนที่มีชื่องเสียงด้านฟุตบอลระดับต้นๆของประเทศ แต่มารวมตัวในนามจังหวัด อนาคตเขาก็ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทย ส่วนตัวผมได้โควต้าช้างเผือกเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ต้องไปสอบแบบเอ็นทรานส์ในสมัยนั้น และยังคงเล่นฟุตบอลต่อในระดับสโมสร "
นี่แหละข้อดีของกีฬาสร้างอนาคตของคน ให้คนไปสร้างชาติ " (รอติดตามตอนต่อไปนะครับ)
ใกล้จันทร์
รอแสงตะวันส่องมาที่ฉัน EP 16 "กีฬาสร้างอนาคต"
ผมเริ่มจริงจังกับการเล่นกีฬามากขึ้นตอนนั้นผมไปคัดตัวทีมฟุตบอลจังหวัดรุ่นอายุ 15 ปี ที่สนามกีฬากลางจังหวัดมีนักเรียนจากทั่วจังหวัดมาคัดตัวจำนวนมาก ผลเป็นไปอย่างที่หวัง ดีใจมากผมติดทีมจังหวัดครั้งแรกทำให้ผมรู้จักเพื่อนโรงเรียนอื่นเพิ่มขึ้นเพื่อนที่โรงเรียนเดียวกับผมติดทีมไปด้วยอีกสองคน หลังเลิกเรียน ผมและเพื่อนจะต้องนั่งรถไปซ้อมฟุตบอลที่สนามกีฬากลางจังหวัดทุกเย็นระยะทางห่างจากโรงเรียนผมประมาณ 10 กิโลเมตร รถที่นั่งผมเรียกว่ารถหวานเย็นรถเมล์นี่เเหละครับ ช้าไปหน่อยแต่ถึงชัวร์ ผมเสียสละเวลาส่วนตัวที่จะต้องไปเล่นสนุก ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เพื่อหวังว่ากีฬานี้จะทำให้อนาคตของชีวิตผมดีขึ้นได้ เพราะต้นทุนชีวิตผมต่ำกว่าเพื่อนๆทุกคนในห้อง และฟุตบอลก็ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นจริงๆ ผมมีเงินใช้จากการได้เบี้ยเลี้ยงซ้อมฟุตบอลจังหวัดรายวันเงินจากการแข่งขันแต่ละนัด และเงินโบนัสจากการได้เข้ารอบลึกๆ รายการแรกเราแข่งกับทีมฟุตบอลระดับนักเรียนชั้นแนวหน้าของประเทศ ทีมจังหวัดผมได้อันดับที่ 3 ของรายการนั้น ผมได้โบนัสเป็นเงินก้อนมาหลักพัน ถือเป็นเงินที่ผมหาได้เอง ที่เยอะที่สุดที่ผมเคยได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนบางครั้งพ่อผมพูดขึ้นมาว่า “ลองไม่ให้เงินใช้ ดูสิจะขอไหม แต่ไม่เห็นขอ ไปเอาเงินมาจากไหน” ผมยิ้มแล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้พ่อสงสัย แต่คิดว่าพ่อคงรู้ ตอนนั้นมีโค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียนชั้นนำระดับต้นๆของประเทศมาติดต่อให้ผมย้ายไปเรียนที่นั้น จะให้เล่นฟุตบอล และให้เรียนฟรี แต่พ่อผมก็ปฎิเสธไม่ให้ไป พ่อบอกเรียนที่ไหนก็เล่นฟุตบอลได้ แต่จริงแล้วสมัยนั้นถ้าไปอยู่ทีมดังก็จะมีโอกาสจะพัฒนามากขึ้น แต่พ่อคงเป็นห่วงไม่อยากให้ผมไปอยู่ไกลหูไกลตา
ตอนผมเล่นฟุตบอลรุ่นอายุ16 ปีให้โรงเรียน ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ ม.4 ทีมโรงเรียนผมคว้าแชมป์จังหวัด ซึ่งเป็นครั้งแรกของผมผมเริ่มมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลระดับจังหวัด ผมติดทีมจังหวัดไปแข่งขันหลายรายการบางครั้งผมต้องไปเก็บตัวหลายวันเพื่อเตรียมแข่งขัน จนไม่มีเวลาเรียนเกรดเฉลี่ยผมก็ลดลงเหลือ 2.5 จนครูบ่นว่าเมื่อก่อนเธอเรียนดีนะ แต่เดี๋ยวนี้นี้เธอไม่ค่อยสนใจเรียนเลย (ครูไม่เข้าใจหนู) ผมเคยสอบตกวิชาฟิสิกส์ได้เกรดศูนย์ แต่ก็ไม่ได้เครียดนะ เพราะผมก็ไม่ได้เอาวิชาฟิสิกส์มาใช้ในวิถีชีวิตประจำวันนอกจากเรียนเพื่อสอบให้ผ่านในเวลานั้น สุดท้ายต้องไปสอบซ้อม (คนเราจะเก่งไปทุกอย่างมันก็ไม่ได้หรอกจริงมั้ยครับ) แต่ถึงการเรียนผมจะตกลง แต่ผมมีรายได้จากการเล่นฟุตบอลเพิ่มขึ้น ผมได้ใบประกาศนักกีฬาดีเด่นของโรงเรียนแทนการเรียนเด่น ผมได้วิ่งคบเพลิงในกีฬาสีโรงเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดอยากจะไปยืนตรงจุดนั้นสักครั้งในสมัยที่ผมอยู่มัธยมต้น ผมเห็นรุ่นพี่นักกีฬา ที่มีผลงานเด่นจริงๆปีละ 2 คน ที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน จะได้วิ่งคบเพลิงในงานกีฬาโรงเรียน เพื่อยกย่องชมเชย รุ่นพี่คนนั้นจะเป็นไอดอลของเด็กนักเรียนในโรงเรียนในเวลานั้นเลย ตอนนั้นผมเลยคิดว่าผมเลือกที่จะเด่นทางกีฬา อยากเก่งแบบรุ่นพี่บ้าง วัยรุ่นทุกคนก็ต้องการการยอมรับจากสังคม ตอนนั้นผมเริ่มดังในโรงเรียน ผมมีน้องๆพี่ๆในโรงเรียนมาชื่นชอบ บ้างก็มาขอถ่ายรูป เรียกว่าเป็นนักกีฬาที่ป๊อบปูล่าที่สุดในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เสียดาย 20 ปีที่แล้วยังไม่มีเฟสบุ๊คเหมือนสมัยนี้ ผมเริ่มรู้สึกว่าผมเลือกทางนี้มันน่าจะดีสำหรับผมนะ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ทิ้งการเรียนไปเลยนะครับ ผมประคองการเรียนให้ผ่านไปได้เสมอ ทุกครั้งที่ต้องไปแข่งขันฟุตบอลที่ต่างจังหวัด ผมจะกลับมาทำงานส่งทีหลังเพื่อน และจะตั้งใจอ่านหลังสือช่วงที่ใกล้สอบ เพื่อพยายามให้เรียนผ่านไปให้ได้ กีฬาเด่น แต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน ต้องทำควบคู่กันไป
ช่วงม.5 ผมจะมีรายการแข่งขันมากขึ้นให้ทีมจังหวัดบางครั้งทางจังหวัดขอให้ไปเก็บตัวเป็นสัปดาห์ไม่ได้เรียนหนังสือ จนครูแซวว่ายังเรียนหนังสืออยู่หรือป่าว ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย แต่ข้อดีคือมีเงินใช้จากการเล่นฟุตบอลอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งปี และยังได้ทุนการศึกษาของโรงเรียน ผมกลับมาจากการแข่งขันให้จังหวัด เพื่อนๆ ในห้องก็จะคอยช่วยผมเรื่องเรียน เวลาผมไปแข่งฟุตบอลกลับมา ผมไม่เข้าใจเพื่อนก็จะช่วยสอนการบ้านผม จนผมเรียนรอดไปได้ในแต่ละเทอม
พอขึ้นม.6 เหลือผมคนเดียวที่ต้องนั่งรถไปซ้อมฟุตบอลทุกวันหลังเลิกเรียน กว่าจะซ้อมเสร็จ กลับถึงบ้านก็สองทุ่ม อาบน้ำ ทำการบ้าน นอน ชีวติประจำวันผมจนวันอยู่แบบนี้ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเล่นหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆสักเท่าไหร่ เพื่อนที่เคยเล่นทีมจังหวัดด้วยกันก็ขี้เกียจไปซ้อมแล้ว จนบางครั้งเกิดความคิดขึ้นมาในหัวว่า ไปคนเดียวไม่มีเพื่อนบางทีก็เหงา อยากจะหันหลังกลับแล้วเลิกเล่นฟุตบอลเหมือนกัน แต่ก็ต้องอดทนเพราะเราต้นทุนทางบ้านต่ำกว่าใคร กีฬาฟุตบอลนี่แหละจะเป็นสิ่งที่สร้างอนาคตที่ดีในวันข้างหน้าให้เรา
จนมาถึงฟุตบอลรายการเยาวชนแห่งชาติเป็นกีฬาระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ยอดทีมทุกจังหวัดเข้าร่วมชิงชัยกัน เพื่อเป็นสุดยอดทีมลูกหนังของประเทศไทย ครั้งนั้นที่ผมได้เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ในรอบสุดท้าย เพราะส่วนใหญ่จะตกรอบคัดเลือกตัวแทนเขตทุกปี ผมได้ลงตัวจริงทุดนัด แล้วทีมจังหวัดของผม แพ้รอบรองชนะเลิศ เลยอดเข้าไปชิงแชมป์ประเทศไทยอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ได้เหรียญทองแดงปลอบใจ ถือว่าเราเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทยในปีนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมผมเข้าไปคว้าเหรียญได้หลังจบรายการนั้น ผมได้ลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรก ได้อ่านข่าวทีมตนเองในหนังสือพิมพ์ดูข่าวทีมตนเองในทีวี เป็นรายการที่ทำให้ผมภูมิใจและสนุกมากครั้งหนึ่งเลยครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เลี้ยงขอบคุณนักฟุตบอลทีมจังหวัด ผมก็ได้เงินรางวัลเยอะเหมือนกันสมัยนั้น หลังจากนั้นผมก็เรียนจบ ม.6 พอดี ทีมชุดนี้ไม่มีเพื่อนนักเรียนจากโรงเรียนของผมเลย เพื่อนร่วมทีมผมบางคนก็มาจากโรงเรียนที่มีชื่องเสียงด้านฟุตบอลระดับต้นๆของประเทศ แต่มารวมตัวในนามจังหวัด อนาคตเขาก็ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทย ส่วนตัวผมได้โควต้าช้างเผือกเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ต้องไปสอบแบบเอ็นทรานส์ในสมัยนั้น และยังคงเล่นฟุตบอลต่อในระดับสโมสร "นี่แหละข้อดีของกีฬาสร้างอนาคตของคน ให้คนไปสร้างชาติ " (รอติดตามตอนต่อไปนะครับ)
ใกล้จันทร์