หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปล่อยรีวิว Vivo Y12 ไปในช่วงอาทิตย์ที่เเล้ว ในอาทิตย์นี้เรามาอ่านกันกับรีวิวอีกหนึ่งรุ่นของทาง Vivo ที่พึ่งเปิดให้สั่งจองในช่วงนี้กับในรุ่น Vivo S1 ซึ่งเป็นมือถือรุ่นเเรกในตะกูล S – series ของทาง Vivo เเน่นอนครับว่าเป็นมือถือรุ่นเเรกของใน series ก็ต้องมีคำถามมากมายเข้ามาถามทางทีมงานว่า ได้เครื่องหรือยังใช้งานเป็นยังไง กล้องสวยไหม จอสวยหรือเปล่า เเตกต่างจาก series อื่นยังไงบ้าง เอาเป็นว่าในบทความนี้แอดมินจะมารีวิวถึงความรู้สึกหลังจากได้ใช้เจ้า Vivo S1 ให้ชาว Techhangout ได้อ่านกันดีกว่า เผื่อใครสนใจเจ้ารุ่นนี้อยู่จะได้ตัดสินใจซื้อเจ้ารุ่นนี้ได้ง่ายขึ้นเราไปเริ่มอ่านกันเลยทีดีกว่าครับ
VIVO S1 เปิดตัวในไทยมาในสเปค RAM 6 GB STORAGE 128 GB มาพร้อมกับ 2 สีหลักๆ มีสองสีให้เลือก Skyline Blue (ฟ้า) , Diamond Black (ดำ) เพียง 8,999 บาทเท่านั้น
Vivo S1 เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่จัดเต็มในทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ครับ ด้วยราคาจำหน่า 8,990 ทาง Vivo กล้าใส่ระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอมาให้ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เเละเป็นอะไรที่เเบรนด์มือถือค่ายอื่นไม่กล้าใส่มาอย่างแน่นอน
อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED แบบ Halo FullView DisPlay ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมกล้องหลังสามตัวแบบ AI Triple Camera ที่มีเลนส์มุมกว้าง กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , ชิปเซ็ต Helio P65 , RAM 6GB + ROM 128GB แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging 18W
กล่องใส่ Vivo S1 ยังคงมาพร้อมกับโทนสีขาวด้านหน้ามีอักษร S ขนาดใหญ่มีการเล่นสีตรงตัวอักษรดูเท่เเละลงตับสุดๆ มีคำว่า S1 เเละมี Logo Vivo อยู่ทางด้านซ้ายบน ส่วนขวามือด้านบน มาพร้อมกับคำว่า 6GB RAM & 128GB ROM ด้านล่างจะมี Logo ที่สื่อให้เห็นถึงว่าในรุ่นนี้มีสแกนนิ้วบนหน้าจอนะและพอเปิดออกมาจะเห็นคำว่า S ขนาดใหญ่
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO S1
- อะแดปเตอร์ 9V/2A
- สาย Micro USB 2.0
- เข็มจิ้มถาดซิม
- หูฟัง
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้เเล้ว
ตัวเคสที่เเถมในรุ่นนี้เป็นเคส TPU ใส่ที่เน้นโชว์ตัวเครื่อง ตัวเครื่องเวลาใส่ถือจับได้ถนัดมือเเละรู้สึกไม่ลื่นมาจนเกินไป สามารถที่จะป้องกันเลนส์กล้องได่ในระดับนึง เเต่เคสพวกนี้เวลาที่เราใช้นานๆอาจจะเหลืองได้ง่าย ส่วนฟิล์มกันรอยที่ติดตามให้โดยส่วนตัวถือว่าสามารถทัชใช้งานได้ปกติครับ
DESIGN
เรื่องของดีไซน์เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนเเปลงจากรุ่นอื่นพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของฝาหลังที่ทาง Vivo ออกเเบบมาให้เเตกต่างจากมือถือ series อื่น เพราะในรุ่นนี้ตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีได้โดดเด่นเเละไม่เหมือนใคร ต้องบอกเลยว่าครั้งเเรกที่ได้จับส่วนตัวรู้สึกชอบ สีที่ทางเราได้มาคือสี Diamond Black มีการไล่เฉดสีเเบบทูโทน สีดำตัดกับลายที่สะท้อนเเสงเป็นสีน้ำ เป็นเส้นต่างๆเหมือนกับเพรชอันล้ำค่า สวยงามเลยทีเดียวครับสำหรับสีนี้ มีการวางตำแหน่งกล้องเเนวตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ตรงเลนส์กล้องเเละโลโก้มีการตัดสีทองทำให้ตัวเครื่องด้านหลังดูหรูหรามากยิ่งขึ้น เเละเเน่นอนว่าด้านหลังตัวเครื่องเงาเหมือนกระจกต้องติดลายนิ้วมือง่ายอย่างเเน่นอน
หน้าจอรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.38 นิ้ว Super Amoled ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ทั้งยังมีพื้นที่หน้าจอแสดงผลถึง 89.98%
ด้านขอบบนหน้าจอจะมีรอยบากแบบหยดน้ำ พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 มีตำแหน่งเซนเซอร์วัดแสง ถัดขึ้นไปจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา
ส่วนด้านล่างบนหน้าจอก็จะมีตำแหน่งของปุ่มนำทางการใช้งาน 3 ปุ่ม เเละ สามารถตั้งค่าซ่อนได้เพื่อใช้งานแบบเต็มจอ
ถัดมาชมตัวเครื่องด้านบนนั้นจะไม่มีตำแหน่งอะไรจะเห็นได้ชัดว่าตัวเครื่องนั้นจะเป็นวัสดุเดียวกันทั้งหมดครับ
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะตำแหน่งของปุ่ม Power เเละข้างๆกันจะมีตำแหน่งของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง
ขอบเครื่องด้านซ้ายจะมีช่องใส่ซิม เป็นแบบ Tripleslots แยก 3 ช่องชัดเจน รองรับ 2 ซิม + 1 microSD Card สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ nano-SIM ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน Dual 4G LTE เป็นแบบ Standby / Dual VoLTE เเละมีปุ่มเอาไว้สำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant
ขอบด้านล่างเครื่อง ส่วนนี้จะเป็นที่อยู่ของช่อง Micro-USB และ รูไมค์ รวมถึง ลำโพงหลัก มีรูเสียงหูฟังแบบ 3.5 มม
ด้านหลังเครื่องกันบ้าง ด้านหลังตัวเครื่องจะมาพร้อมกับดีไซน์แบบพลาสติกเคลือบผิวมีการไล่เฉดสีสวยเมื่อมีแสงกระทบที่ตัวเครื่องจะดูสวยงามเหมือนเช่นเคย
ด้านหลังจะประกอบไปด้วย ตำแหน่งของกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด ( Triple Camera ) ความละเอียด 16 + 8 + 2 ล้านพิกเซลรูรับแสง f/1.78 มาพร้อมกับ AI, กล้องมุมกว้าง Super Wide-Angle 120 องศา , Depth Sensor สำหรับเอาไว้ถ่ายภาพเเนวหน้าชัดหลังเบลอ เเละมาพร้อมไฟแฟลชเเบบ LED หนึ่งดวง
SPEC
- ระบบ Android 9 ครอบด้วย Funtouch OS 9
- หน้าจอ Super Amoled แบบ Halo FullView Display ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
- CPU Mediatek Helio P65 Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
- GPU Mali-G52 MC2
- RAM 6 GB STORAGE 128 GB UPTO 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 16 MP ( f/1.7 ) + Ultra-Wide 8MP ( f/2.2 ) + Depth Sensor 2MP ( f/2.4 )
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP f/2.0
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ (Wifi 2.4Ghz/ 5Ghz )
- Bluetooth 5.0
- รองรับ OTG
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging 18W
- มาพร้อม 2 สี Skyline Blue (ฟ้า) , Diamond Black (ดำ)
- ขนาด 160.1 มม.75.35 มม. 8.54 มม. 180 กรัม
PERFORMANCE
ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นมาพร้อมกับ CPU Mediatek Helio P65 และ ใช้ RAM 6 GB ร่วมกับ Storage 128 GB EMMC 5.1 ในส่วนของคะแนนนั้น Antutu ทำคะแนนไปได้อยู่ที่ 145893 คะแนน และส่วนของ GeekBench นั้นทำไปได้ คะแนน 1846 และ 5999 และ แต่เรื่องความปลอดภัย ยังเป็น DRM L3 ไม่รองรับ การดูหนัง NETFLIX HD และก็มีเซนเซอร์มาให้ครบ รองรับ Wifi 5Ghz ปกติครับ
ทางด้านระบบ Software VIVO S1 จะมาพร้อมกับ Android 9.0 ตัวล่าสุดที่ครอบทับด้วย Funtouch 9 หน้าตา UI ยังคงรูปแบบเหมือนเดิมเหมือนกับในมือถือรุ่นอื่นๆของทาง Vivo ส่วนหน้าตาการใช้งานอื่นๆก็คล้ายเดิม แจ้งเตือนเด้งดี มีตัวเลขให้ครับ และไม่มี Appdrawer ส่วนหน้าตานั้นดูเรียบง่ายขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับดูทันสมัยขึ้น
เมื่อเราปัดจากขอบล่างหน้าจอขึ้นไปจะเป็นตั้งค่า QuickSetting ส่วนการแยกแอพก็สามารถทำงานได้ปกติ เลื่อนจากด้านบนลงมาจะเป็น แจ้งเตือน
ในด้านของคีย์บอร์ดตัวนี้หน้าตาเรียบง่ายใช้ Gboard แล้วนะ ส่วน RAM 6GB ใช้งานไปครึ่งๆ เหลือประมาณ 4.23 GB ครับ และในเรื่องความจุ 128 GB เหลือให้ใช้ประมาณ 110 GB
JOVI ตัวช่วย อัจฉริยะที่สามารถตั้งค่าต่างๆได้ทั้งในการถ่ายภาพ รูปภาพต่างๆ หรือปรับตั้งค่าตามสถานที่ ส่วนโหมดเกมก็ยังคงมีอยู่ สามารถตั้งค่าบล็อคการเเจ้งเตือนต่างๆได้ ส่วนตัวปุ่มนำทางก็สามารถใช้งานได้ปรับตำแหน่งปุ่มได้ ซ่อนปุ่มรวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอก็สามารถใช้งานได้
Gesture ต่างๆนั้นก็สามารถใช้ได้เช่นการเคาะหน้าจอ ยกให้ติด หรือ เคาะ2ครั้งเพื่อปิดหน้าจอครับ และ การใช้งานอื่นๆทั้งการวาดตัวอักษร ต่างๆขณะที่หน้าจอกับก็สามารถสั่งงานเข้าแอพได้ครับ และ การรับสายต่างๆก็มีมาให้ครบ การโคลนแอปหรือใช้งานหน้าต่าง 2 หน้าต่างก็รองรับปกติครับสำหรับทาง Vivo
THEME
การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ เปลี่ยนได้อาจจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แต่ก็ปรับแต่งได้นิดหน่อยสำหรับใครที่เบื่อๆหน้าตาเดิมๆครับ
เเละยังมี Always on display สวยๆมาให้เราได้เลือกเปลี่ยนกันอีกด้วยครับ บอกเลยว่าเยอะมากมาย
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ Super Amoled ขนาดกว้าง 6.38 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด FHD+ (2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19:3:9 ให้สีสันหน้าจอมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ บอกเลยว่าสีจอมีความสดพอสมควรเลย เเต่อาจจะดีในอันดับต้นๆของมือถือในเรทราคาที่ขายใกล้ๆกันด้วยเลยก็ว่าได้ หน้าจอเเสงสว่างสู้แสงได้ระดับนึงใช้งานกลางเเจ้งได้สบายๆเลยครับสำหรับในรุ่นนี้ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นจะยังคงไม่สามารถปิดติ่งได้ อาจจะมีบดบังเล็กน้อย เเต่ถ้าเข้าใช้งานแอพก็สามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการจะปิดหรือใช้งานเต็มจอ ส่วนการสัมผัสถือว่าค่อนข้างลื่นติดนิ้วเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับ Y17 เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงความรู้สึกว่าพอๆกับพวก Vivo V15 เลย
[SR] รีวิว VIVO S1 ซีรี่ส์ใหม่มาเเรง จัดเต็มด้วยสเปค และ กล้องหลัง AI TRIPLE CAMERA !
หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปล่อยรีวิว Vivo Y12 ไปในช่วงอาทิตย์ที่เเล้ว ในอาทิตย์นี้เรามาอ่านกันกับรีวิวอีกหนึ่งรุ่นของทาง Vivo ที่พึ่งเปิดให้สั่งจองในช่วงนี้กับในรุ่น Vivo S1 ซึ่งเป็นมือถือรุ่นเเรกในตะกูล S – series ของทาง Vivo เเน่นอนครับว่าเป็นมือถือรุ่นเเรกของใน series ก็ต้องมีคำถามมากมายเข้ามาถามทางทีมงานว่า ได้เครื่องหรือยังใช้งานเป็นยังไง กล้องสวยไหม จอสวยหรือเปล่า เเตกต่างจาก series อื่นยังไงบ้าง เอาเป็นว่าในบทความนี้แอดมินจะมารีวิวถึงความรู้สึกหลังจากได้ใช้เจ้า Vivo S1 ให้ชาว Techhangout ได้อ่านกันดีกว่า เผื่อใครสนใจเจ้ารุ่นนี้อยู่จะได้ตัดสินใจซื้อเจ้ารุ่นนี้ได้ง่ายขึ้นเราไปเริ่มอ่านกันเลยทีดีกว่าครับ
VIVO S1 เปิดตัวในไทยมาในสเปค RAM 6 GB STORAGE 128 GB มาพร้อมกับ 2 สีหลักๆ มีสองสีให้เลือก Skyline Blue (ฟ้า) , Diamond Black (ดำ) เพียง 8,999 บาทเท่านั้น
Vivo S1 เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่จัดเต็มในทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ครับ ด้วยราคาจำหน่า 8,990 ทาง Vivo กล้าใส่ระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอมาให้ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เเละเป็นอะไรที่เเบรนด์มือถือค่ายอื่นไม่กล้าใส่มาอย่างแน่นอน
อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED แบบ Halo FullView DisPlay ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมกล้องหลังสามตัวแบบ AI Triple Camera ที่มีเลนส์มุมกว้าง กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , ชิปเซ็ต Helio P65 , RAM 6GB + ROM 128GB แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging 18W
กล่องใส่ Vivo S1 ยังคงมาพร้อมกับโทนสีขาวด้านหน้ามีอักษร S ขนาดใหญ่มีการเล่นสีตรงตัวอักษรดูเท่เเละลงตับสุดๆ มีคำว่า S1 เเละมี Logo Vivo อยู่ทางด้านซ้ายบน ส่วนขวามือด้านบน มาพร้อมกับคำว่า 6GB RAM & 128GB ROM ด้านล่างจะมี Logo ที่สื่อให้เห็นถึงว่าในรุ่นนี้มีสแกนนิ้วบนหน้าจอนะและพอเปิดออกมาจะเห็นคำว่า S ขนาดใหญ่
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO S1
- อะแดปเตอร์ 9V/2A
- สาย Micro USB 2.0
- เข็มจิ้มถาดซิม
- หูฟัง
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้เเล้ว
ตัวเคสที่เเถมในรุ่นนี้เป็นเคส TPU ใส่ที่เน้นโชว์ตัวเครื่อง ตัวเครื่องเวลาใส่ถือจับได้ถนัดมือเเละรู้สึกไม่ลื่นมาจนเกินไป สามารถที่จะป้องกันเลนส์กล้องได่ในระดับนึง เเต่เคสพวกนี้เวลาที่เราใช้นานๆอาจจะเหลืองได้ง่าย ส่วนฟิล์มกันรอยที่ติดตามให้โดยส่วนตัวถือว่าสามารถทัชใช้งานได้ปกติครับ
DESIGN
เรื่องของดีไซน์เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนเเปลงจากรุ่นอื่นพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของฝาหลังที่ทาง Vivo ออกเเบบมาให้เเตกต่างจากมือถือ series อื่น เพราะในรุ่นนี้ตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีได้โดดเด่นเเละไม่เหมือนใคร ต้องบอกเลยว่าครั้งเเรกที่ได้จับส่วนตัวรู้สึกชอบ สีที่ทางเราได้มาคือสี Diamond Black มีการไล่เฉดสีเเบบทูโทน สีดำตัดกับลายที่สะท้อนเเสงเป็นสีน้ำ เป็นเส้นต่างๆเหมือนกับเพรชอันล้ำค่า สวยงามเลยทีเดียวครับสำหรับสีนี้ มีการวางตำแหน่งกล้องเเนวตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ตรงเลนส์กล้องเเละโลโก้มีการตัดสีทองทำให้ตัวเครื่องด้านหลังดูหรูหรามากยิ่งขึ้น เเละเเน่นอนว่าด้านหลังตัวเครื่องเงาเหมือนกระจกต้องติดลายนิ้วมือง่ายอย่างเเน่นอน
หน้าจอรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.38 นิ้ว Super Amoled ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ทั้งยังมีพื้นที่หน้าจอแสดงผลถึง 89.98%
ด้านขอบบนหน้าจอจะมีรอยบากแบบหยดน้ำ พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 มีตำแหน่งเซนเซอร์วัดแสง ถัดขึ้นไปจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา
ส่วนด้านล่างบนหน้าจอก็จะมีตำแหน่งของปุ่มนำทางการใช้งาน 3 ปุ่ม เเละ สามารถตั้งค่าซ่อนได้เพื่อใช้งานแบบเต็มจอ
ถัดมาชมตัวเครื่องด้านบนนั้นจะไม่มีตำแหน่งอะไรจะเห็นได้ชัดว่าตัวเครื่องนั้นจะเป็นวัสดุเดียวกันทั้งหมดครับ
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะตำแหน่งของปุ่ม Power เเละข้างๆกันจะมีตำแหน่งของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง
ขอบเครื่องด้านซ้ายจะมีช่องใส่ซิม เป็นแบบ Tripleslots แยก 3 ช่องชัดเจน รองรับ 2 ซิม + 1 microSD Card สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ nano-SIM ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน Dual 4G LTE เป็นแบบ Standby / Dual VoLTE เเละมีปุ่มเอาไว้สำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant
ขอบด้านล่างเครื่อง ส่วนนี้จะเป็นที่อยู่ของช่อง Micro-USB และ รูไมค์ รวมถึง ลำโพงหลัก มีรูเสียงหูฟังแบบ 3.5 มม
ด้านหลังเครื่องกันบ้าง ด้านหลังตัวเครื่องจะมาพร้อมกับดีไซน์แบบพลาสติกเคลือบผิวมีการไล่เฉดสีสวยเมื่อมีแสงกระทบที่ตัวเครื่องจะดูสวยงามเหมือนเช่นเคย
ด้านหลังจะประกอบไปด้วย ตำแหน่งของกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด ( Triple Camera ) ความละเอียด 16 + 8 + 2 ล้านพิกเซลรูรับแสง f/1.78 มาพร้อมกับ AI, กล้องมุมกว้าง Super Wide-Angle 120 องศา , Depth Sensor สำหรับเอาไว้ถ่ายภาพเเนวหน้าชัดหลังเบลอ เเละมาพร้อมไฟแฟลชเเบบ LED หนึ่งดวง
SPEC
- ระบบ Android 9 ครอบด้วย Funtouch OS 9
- หน้าจอ Super Amoled แบบ Halo FullView Display ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
- CPU Mediatek Helio P65 Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
- GPU Mali-G52 MC2
- RAM 6 GB STORAGE 128 GB UPTO 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 16 MP ( f/1.7 ) + Ultra-Wide 8MP ( f/2.2 ) + Depth Sensor 2MP ( f/2.4 )
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP f/2.0
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ (Wifi 2.4Ghz/ 5Ghz )
- Bluetooth 5.0
- รองรับ OTG
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging 18W
- มาพร้อม 2 สี Skyline Blue (ฟ้า) , Diamond Black (ดำ)
- ขนาด 160.1 มม.75.35 มม. 8.54 มม. 180 กรัม
PERFORMANCE
ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นมาพร้อมกับ CPU Mediatek Helio P65 และ ใช้ RAM 6 GB ร่วมกับ Storage 128 GB EMMC 5.1 ในส่วนของคะแนนนั้น Antutu ทำคะแนนไปได้อยู่ที่ 145893 คะแนน และส่วนของ GeekBench นั้นทำไปได้ คะแนน 1846 และ 5999 และ แต่เรื่องความปลอดภัย ยังเป็น DRM L3 ไม่รองรับ การดูหนัง NETFLIX HD และก็มีเซนเซอร์มาให้ครบ รองรับ Wifi 5Ghz ปกติครับ
ทางด้านระบบ Software VIVO S1 จะมาพร้อมกับ Android 9.0 ตัวล่าสุดที่ครอบทับด้วย Funtouch 9 หน้าตา UI ยังคงรูปแบบเหมือนเดิมเหมือนกับในมือถือรุ่นอื่นๆของทาง Vivo ส่วนหน้าตาการใช้งานอื่นๆก็คล้ายเดิม แจ้งเตือนเด้งดี มีตัวเลขให้ครับ และไม่มี Appdrawer ส่วนหน้าตานั้นดูเรียบง่ายขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับดูทันสมัยขึ้น
เมื่อเราปัดจากขอบล่างหน้าจอขึ้นไปจะเป็นตั้งค่า QuickSetting ส่วนการแยกแอพก็สามารถทำงานได้ปกติ เลื่อนจากด้านบนลงมาจะเป็น แจ้งเตือน
ในด้านของคีย์บอร์ดตัวนี้หน้าตาเรียบง่ายใช้ Gboard แล้วนะ ส่วน RAM 6GB ใช้งานไปครึ่งๆ เหลือประมาณ 4.23 GB ครับ และในเรื่องความจุ 128 GB เหลือให้ใช้ประมาณ 110 GB
JOVI ตัวช่วย อัจฉริยะที่สามารถตั้งค่าต่างๆได้ทั้งในการถ่ายภาพ รูปภาพต่างๆ หรือปรับตั้งค่าตามสถานที่ ส่วนโหมดเกมก็ยังคงมีอยู่ สามารถตั้งค่าบล็อคการเเจ้งเตือนต่างๆได้ ส่วนตัวปุ่มนำทางก็สามารถใช้งานได้ปรับตำแหน่งปุ่มได้ ซ่อนปุ่มรวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอก็สามารถใช้งานได้
Gesture ต่างๆนั้นก็สามารถใช้ได้เช่นการเคาะหน้าจอ ยกให้ติด หรือ เคาะ2ครั้งเพื่อปิดหน้าจอครับ และ การใช้งานอื่นๆทั้งการวาดตัวอักษร ต่างๆขณะที่หน้าจอกับก็สามารถสั่งงานเข้าแอพได้ครับ และ การรับสายต่างๆก็มีมาให้ครบ การโคลนแอปหรือใช้งานหน้าต่าง 2 หน้าต่างก็รองรับปกติครับสำหรับทาง Vivo
THEME
การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ เปลี่ยนได้อาจจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แต่ก็ปรับแต่งได้นิดหน่อยสำหรับใครที่เบื่อๆหน้าตาเดิมๆครับ
เเละยังมี Always on display สวยๆมาให้เราได้เลือกเปลี่ยนกันอีกด้วยครับ บอกเลยว่าเยอะมากมาย
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ Super Amoled ขนาดกว้าง 6.38 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด FHD+ (2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19:3:9 ให้สีสันหน้าจอมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ บอกเลยว่าสีจอมีความสดพอสมควรเลย เเต่อาจจะดีในอันดับต้นๆของมือถือในเรทราคาที่ขายใกล้ๆกันด้วยเลยก็ว่าได้ หน้าจอเเสงสว่างสู้แสงได้ระดับนึงใช้งานกลางเเจ้งได้สบายๆเลยครับสำหรับในรุ่นนี้ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นจะยังคงไม่สามารถปิดติ่งได้ อาจจะมีบดบังเล็กน้อย เเต่ถ้าเข้าใช้งานแอพก็สามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการจะปิดหรือใช้งานเต็มจอ ส่วนการสัมผัสถือว่าค่อนข้างลื่นติดนิ้วเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับ Y17 เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงความรู้สึกว่าพอๆกับพวก Vivo V15 เลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้