เดือนนี้เป็นเดือนแห่งปรากฎการณ์ที่บ้านผมมีการสั่งซื้อของ on line สนุกมากผมและภรรยาซื้อหมดไป2 หมื่นกว่าบาทเรียกว่าไม่ได้ไปห้างเลยยกเว้น top supermarket มีของชิ้นหนึ่งที่ผมสั่งซื้อ on line ราคา 39 บาทค่าส่ง 38 บาทในขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วผมไปแวะที่ห้างแห่งหนึ่งของชิ้นนี้ขายอยู่ที่150 บาทซึ่งผมต่อเหลือ 100 เค้าไม่ให้สาเหตุที่ต่อเพราะผมดูแล้วต้นทุนไม่น่าเกิน 25 บาทผมเลยลอง search ใน lazada ดูเจอครับเหมือนกันเป๊ะราคา39 บาท

ของชิ้นนี้ถ้าไปที่โบ๊เบ๊หรือสำเพ็งน่าจะขายไม่แพงอาจจะประมาณ 30~40 บาทแต่ต้องซื้อหลายชิ้นขับรถไปเจอรถติดเสียค่าน้ำมันและทางด่วนน่าจะมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 300 บาทแต่ไปแล้วถ้าซื้อ 2 ชิ้นจะราคาจะตกเท่าไหร่เมื่อหาร 2 น่าจะแพงกว่าซื้อที่ห้างใกล้บ้าน

ดังนั้นตามข่าวที่ออกมาผมเชื่อว่าตลาดสำเพ็งและตลาดอื่นๆหากไม่ปรับตัวอยู่รอดยากครับ

สัปดาห์ก่อนไปกินข้าวกับผู้บริหารห้างใหญ่ใจกลางเมืองแกบอกว่าห้างต้องปรับตัวเป็น total entertainment complex ในรูปแบบ Eat and Fun เพราะรายได้จากการขายของลดลงไปมากคนมาแวะดู และสั่งซื้อ on line กันทั้งนั้นหากใครไม่ปรับตัวน่าจะเหนื่อย

เมื่อพฤติกรรมคนเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวยกตัวอย่างเรื่อง 7/11 ถ้าหากเจ้าของร้านขายของชำไม่ปรับตัวเองมาเป็นเจ้าของ 7/11 หรือแบรนด์อะไรก็แล้วแต่ผมว่าเจ๊งแน่นอน จึงมีหลายท่านพ่ายแพ้เพราะไม่สามารถปรับตัวเองได้หรือหาทุนมาทำไม่ได้ ผมไม่ใช่ชื่นชอบสิ่งที่ 7/11 ทำหลายเรื่องแต่ต้องยอมรับว่าเมื่อปลาใหญ่อยากจะกินแบบนี้ ปลาเล็กหากไม่ปรับตัวเป็นเหาปลา ก็ต้องพ่ายแพ้เป็นเหยื่อปลาใหญ่ไป

เศรษฐกิจไม่ดีจริงหรือ ผมว่าใช่แต่ทำไม GDP ยังเป็น+ นั่นหมายถึงบาง sector ที่เจริญเติบโต ทางรอดของพวกเราคือต้องปรับตัวครับ 

เม่าอย่างผมก็ต้องปรับตัวลงทุนในสิ่งที่เติบโตไม่ดื้อ และต้องหมั่นหาข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจเข้าลงทุน ปอดน้อยๆ ผมเติบโตอย่างแข็งแกร่งนั่นคือผลจากการปรับตัวจากปีที่แล้ว และอดทนต่อสิ่งที่ก่อกวนทางจิตใจ นั่นคืออีกาพยายมกับระฆังฟั่ม แต่ก็จงอย่าประมาท

ขอมอบบทเพลงที่เป็นคติสอนใจผมมาตลอด 7-8 ปีนี้ให้พี่ๆเพื่อนๆเม่าทุกท่านครับ

- อย่าอยู่อย่างอยาก - 
Good night ครับ