สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ผมพึ่งเจอมาไม่นานเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน
5 วัน แต่มันเป็น 5 วันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยเกิดมาเลยก็ว่าได้ครับ มันเป็น 5 วันที่ผ่านไปโคตรช้า
และโคตรเร็ว ในเวลาเดียวกัน ใช่ครับตามหัวข้อเรื่องเลยครับผมคิดว่าผมติดเชื้อ HIV อยู่ 3 วัน
ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าปัจจุบันนี้การติดเชื้อ HIV จะมีการเยียวยาได้ดีมากถึงมากที่สุด
ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิต และมีอายุไขได้เทียบเท่า หรืออาจมากกว่าคนปกติทั่วไปด้วยซ้ำ
เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ดูแลและรักตัวเองมากขึ้น บวกกับรับประทานยาที่ปัจจุบันพัฒนามาได้ก้าวไกลกว่าแต่ก่อนมาก
จึงทำให้มีสุขภาพแข็งแรงกว่าคนบางจำพวกที่ไม่ได้ระวังการใช้ชีวิตซักเท่าไหร่...
หากเทียบกับโรคมะเร็งแล้วในทางด้านการรักษาและความทรมานของผู้ป่วย
นี่ไม่สามารถเทียบกันได้เลยครับ และใช่ครับผมรู้ทั้งรู้ว่าโรคนี้มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่วันที่ไปตรวจและประกาศผลก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนนะครับผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน หรือ เกย์ นั้นแหละครับ 555
พึ่งอายุครบ 30 มาได้ไม่นาน และเป็นรุกครับ ผมมีแฟนเป็นคนต่างชาติเราพึ่งคบกันมาได้ไม่นาน ประมาณ 5 – 6 เดือน
เราไม่ได้อาศัยอยุ่ด้วยกัน แต่เราจะบินไปมาหาสู่กันเรื่อยๆใน ช่วง 5-6 เดือนที่ ผ่านมา
ครับ และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่เค้ามาหาผมที่กรุงเทพครับ....
ปล.หากในการเล่าเรื่องผมให้ข้อมูลอะไรที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโรค การตรวจ หรือการรักษา ผมรบกวนผู้มีความรู้แก้ไขให้ด้วยครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า
วันพฤหัสบดีที่ 4/7 (วันที่1)
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่แฟนผมจะอยู่ที่ไทย โดยเค้ามาอยู่กับผม 2 อาทิตย์ ไฟลท์กลับของเค้า จะเป็นช่วงกลางคืนของวันนี้ โดยตอนแรกเรามีแพลนที่จะไป
ดูหนังกันรอบ 6 โมงเย็นและหลังจากหนังจบ ผมก็จะขับรถไปส่งเค้าที่สนามบิน ....... แต่ทว่าช่วงเวลาประมาณ
4 โมงเย็นเราดันมีอะไรกันก่อนกลับครับและไอตอนนี้แหละที่มันเป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่างในช่วงระยะเวลา
5 เดือนที่เราคบกันทุกครั้งที่มีอะไรกัน ผมจะใส่ถุงยางทุกครั้ง แต่วันนี้ความ
และความโง่เขลาชั่วขณะ มันบังเกิด..... ใช่ครับผมไม่ได้ใส่ถุงยางตอนที่มี
อะไรกันหลังจากที่เสร็จกิจแล้ว เค้าก็ไปอาบน้ำผมก็ถามเค้าว่าเค้าไม่ล้างเหรอเค้าบอกว่าว่าล้างอะไร ผมก็บอกว่าล้าง.... ไง
แฟนผมก็ตกใจแล้วถามผมว่าเมื่อกี้ไม่ได้ใส่ถุงยางเหรอ ผมจึงตอบไปว่าใช่ เค้าเลยว่าผมว่าทำไมไม่ใส่ว่าแล้วเชียวทำไมครั้งนี้รู้สึกไม่เหมือนครั้งก่อนๆ
ที่มีอะไรกัน
*****สิ่งที่ทำให้ผมกล้ามีอะไรกับเค้าแบบไม่ใส่ถุงยางเพราะผมมั่นใจในตัวผมระดับนึง
เพราะผมไม่มั่วและก่อนหน้าคบกับแฟนคนนี้ ผมมีเพศสัมพันแบบไม่ป้องกันกับแฟนเก่าผมเพียงคนเดียวเป็นเวลา
2 ปี (แต่แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแฟนเก่าผมไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร 555)*****
*****ผมค่อนข้างมั่นใจแฟนใหม่เหมือนกันเพราะเค้าพึ่งไปตรวจสุขภาพเพื่อมีลูกโดยการอุ้มบุญ
โดยการตรวจสุขภาพจะต้องตรวจ HIV ด้วย*****
หลังจากที่ผมและแฟนอาบน้ำเสร็จผมเลยบอกแฟนว่าเราไปตรวจ HIV กันเถอะ ไม่ต้องไปดูหนังแล้วแฟนผมเห็นด้วย
เพราะจิงๆแล้วเราเคยคุยกันไว้ก่อนหน้าว่าเราอยากจะไปตรวจพร้อมกันก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้ไปซักทีเราเลยตัดสินใจไปตรวจเย็นวันนั้นเลย
ที่ รพ ย่านทองหล่อเพราะคิดว่าตรวจเสร็จแล้วจะได้หาอะไรทานด้วยเลยพอถึง รพ เราก็ทำตามระบบระเบียบ
ระหว่างนั้นผมและแฟนไม่ได้มีความเครียดหรือความกลัวอะไรเลย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องรอประมาณ
45นาที เราก็คุยกันว่าเราจะรอผลเลย และไปหาอะไรกินกันทีเดียว ตอนนี้แหละครับที่เรื่องชักมีกลิ่นตุตุผ่านมาแล้ว
1.30 ชม ผลก็ยังไม่ออก จนประมาณ 1.40ชม พยาบาลเรียกผมเข้าไปก่อน แฟนผมก็จะตามเข้ามาแต่พยาบาลห้ามไว้ว่าไม่ได้ค่ะ
จะต้องฟังทีละคน ซึ่งแฟนผมไม่เข้าใจว่าทำไมและมีท่าทีกังวลและไม่พอใจ
โดยปกติแล้วผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แล้วยิ่งด้วยผลเลือดที่ผิดปกติเนี่ยเจ้าหน้าที่ยิ่งต้องรักษาความลับผู้ป่วยผมเข้าไปพบหมอ หมอบอกผม
ว่าขอโทษที่ทำให้รอนานแต่ที่นานเพราะว่าทางห้องปฏิบัติการต้องนำผลเลือดผมไปทำเทส 2 แบบ เนื่องจากผลครั้งแรกเป็น Positive
แต่พอเทสแบบที่สองเป็น Negative โดยคุณหมอแจ้งว่ากรณีนี้จะต้องทำเทสแบบ PCR ซึ่งจะต้องส่งโรงพยาบาลย่านเพชรบุรี
และจะต้องรอผลอีก 3 วัน โดย เทสนี้จะให้ผล 99.99999% เป็นเทสที่สภากาชาติใช้ตรวจเลือดรับบริจาค
โดยคุณหมอแจ้งว่าเหตุการณ์แบบนี้สามารถ เกิดขึ้นได้ไม่ต้องกังวล แต่ตอนนั้นผมก็อึ้งๆไปนิดๆ ใจเสียในระดับนึง
ผมบอกเค้าว่าผมไม่สามารถรอได้ ผมจะไปตรวจที่รพนั้นเลยอาจจะได้รับผลเร็วกว่า ในช่วงนั้นแฟนผมเปิดประตูเข้าห้องหมอมาพอดี
เค้าเป็นคนใจร้อนและโผงผางมาก555 เปิดเข้ามาแล้วถามว่าทำอะไร ทำไมนาน สีหน้าเค้าดูกังวลเนื่องจากยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฟังทีละคน
พอเค้าเข้ามาหมอก็แจ้งเค้าเลยว่าผลเลือดเค้าเป็นปกติพร้อมยื่นใบผลให้
ผมจึงเดินออกจากห้องมาผมจึงพูดกับเค้าว่า หมอได้แจ้งอะไรกับผมบ้างเนื่องจากผมไม่ได้รับเอกสารที่แจ้งผลเลือดแต่เค้าได้รับ
หลังจากที่ผมบอกเค้าแฟนผมก็อึ้งไปมาก เงียบไปไปพักใหญ่
ผมจึงเดินไปถามหมออีกครั้งเพื่อขอใบผลเลือดระหว่างรอแฟนผมก็เงียบและนอยด์มากระหว่างนี้
จนกระทั้งใบผลออกมา ผลที่ผมได้รับคือ Result เป็น Inconclusive / Reference เป็น Negative
หลังจากที่เห็นใบนี้แฟนผมก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย กลายเป็นเค้ามาปลอบผมแทนเพราะจริงๆแล้วผมนอยด์มากแต่ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าแฟนตอนแรก
มากเพราะกลัวเค้าคิดว่าผมติดเชื้อแล้วจริงๆ พึ่งคบกันด้วย กลัวโดนทิ้ง
โดยผมบอกเค้าว่าไม่ต้องกลัวผมจะไปตรวจอีกครั้งวันพรุ่งนี้หากผมติดเชื้อจริงๆ เค้าจะได้กินยาต้านฉุกเฉินทัน
เพราะยาต้อนฉุกเฉินจะต้องทานใน 72 ชม. หลังจากนั้นเราก็ทานข้าวกันและผมก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน
คืนนั้นผมยังพอโอเคอยู่ ในใจก็นึกทบทวนย้อนหลังกลับไปว่าเรามีความเป็นไปได้ที่จะรับเชื้อมาจากไหนบ้าง
ซึ่งนึกออกอย่างเดียวหากผมติดเชื้อจริงๆ คือแฟนเก่าต้องนอกใจผม เพราะผมกับแฟนเก่าก็ตรวจเชื้อด้วยกันก่อนจะมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงยาง
คืนนั้นก็คิดวนไปครับ กับเสริชหาข้อมูลใน Internet โดยเน้นหนักไปที่ “ผลตรวจ HIV ผิดพลาด” เพื่อหาข้อมูลปลอบใจตัวเอง
ซึ่งก็ไม่เจอข้อมูลอะไรมากนัก ไม่มากพอที่จะทำให้ผมสบายใจได้ว่าเราจะไม่เป็นอะไร
โดยส่วนใหญ่เจอข้อมูลผลเลือดที่ผิดพลาดจะเกิดขึ้นในคนท้อง
กรณีที่ร่างกายและฮอร์โมนไม่ปกติ มาเสริชหาแม้กระทั้งใน พันทิป เผื่อจะมีคนเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันแล้วมาไพสต์ไว้
แต่ก็ไม่มีคืนนั้นก็นอนกลับไปแบบยังไม่คิดอะไรมากคิดแต่ว่าวันรุ่งขึ้นจะไปตรวจซ้ำหลังเลิกงาน เพื่อแจ้งผลแฟนให้เค้าสบายใจ
อยากแชร์ประสบการณ์ คิดว่าตัวเองติดเชื้อ HIV อยู่ 3 วัน
5 วัน แต่มันเป็น 5 วันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยเกิดมาเลยก็ว่าได้ครับ มันเป็น 5 วันที่ผ่านไปโคตรช้า
และโคตรเร็ว ในเวลาเดียวกัน ใช่ครับตามหัวข้อเรื่องเลยครับผมคิดว่าผมติดเชื้อ HIV อยู่ 3 วัน
ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าปัจจุบันนี้การติดเชื้อ HIV จะมีการเยียวยาได้ดีมากถึงมากที่สุด
ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิต และมีอายุไขได้เทียบเท่า หรืออาจมากกว่าคนปกติทั่วไปด้วยซ้ำ
เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ดูแลและรักตัวเองมากขึ้น บวกกับรับประทานยาที่ปัจจุบันพัฒนามาได้ก้าวไกลกว่าแต่ก่อนมาก
จึงทำให้มีสุขภาพแข็งแรงกว่าคนบางจำพวกที่ไม่ได้ระวังการใช้ชีวิตซักเท่าไหร่...
หากเทียบกับโรคมะเร็งแล้วในทางด้านการรักษาและความทรมานของผู้ป่วย
นี่ไม่สามารถเทียบกันได้เลยครับ และใช่ครับผมรู้ทั้งรู้ว่าโรคนี้มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่วันที่ไปตรวจและประกาศผลก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนนะครับผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน หรือ เกย์ นั้นแหละครับ 555
พึ่งอายุครบ 30 มาได้ไม่นาน และเป็นรุกครับ ผมมีแฟนเป็นคนต่างชาติเราพึ่งคบกันมาได้ไม่นาน ประมาณ 5 – 6 เดือน
เราไม่ได้อาศัยอยุ่ด้วยกัน แต่เราจะบินไปมาหาสู่กันเรื่อยๆใน ช่วง 5-6 เดือนที่ ผ่านมา
ครับ และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่เค้ามาหาผมที่กรุงเทพครับ....
ปล.หากในการเล่าเรื่องผมให้ข้อมูลอะไรที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโรค การตรวจ หรือการรักษา ผมรบกวนผู้มีความรู้แก้ไขให้ด้วยครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า
วันพฤหัสบดีที่ 4/7 (วันที่1)
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่แฟนผมจะอยู่ที่ไทย โดยเค้ามาอยู่กับผม 2 อาทิตย์ ไฟลท์กลับของเค้า จะเป็นช่วงกลางคืนของวันนี้ โดยตอนแรกเรามีแพลนที่จะไป
ดูหนังกันรอบ 6 โมงเย็นและหลังจากหนังจบ ผมก็จะขับรถไปส่งเค้าที่สนามบิน ....... แต่ทว่าช่วงเวลาประมาณ
4 โมงเย็นเราดันมีอะไรกันก่อนกลับครับและไอตอนนี้แหละที่มันเป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่างในช่วงระยะเวลา
5 เดือนที่เราคบกันทุกครั้งที่มีอะไรกัน ผมจะใส่ถุงยางทุกครั้ง แต่วันนี้ความและความโง่เขลาชั่วขณะ มันบังเกิด..... ใช่ครับผมไม่ได้ใส่ถุงยางตอนที่มี
อะไรกันหลังจากที่เสร็จกิจแล้ว เค้าก็ไปอาบน้ำผมก็ถามเค้าว่าเค้าไม่ล้างเหรอเค้าบอกว่าว่าล้างอะไร ผมก็บอกว่าล้าง.... ไง
แฟนผมก็ตกใจแล้วถามผมว่าเมื่อกี้ไม่ได้ใส่ถุงยางเหรอ ผมจึงตอบไปว่าใช่ เค้าเลยว่าผมว่าทำไมไม่ใส่ว่าแล้วเชียวทำไมครั้งนี้รู้สึกไม่เหมือนครั้งก่อนๆ
ที่มีอะไรกัน
*****สิ่งที่ทำให้ผมกล้ามีอะไรกับเค้าแบบไม่ใส่ถุงยางเพราะผมมั่นใจในตัวผมระดับนึง
เพราะผมไม่มั่วและก่อนหน้าคบกับแฟนคนนี้ ผมมีเพศสัมพันแบบไม่ป้องกันกับแฟนเก่าผมเพียงคนเดียวเป็นเวลา
2 ปี (แต่แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแฟนเก่าผมไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร 555)*****
*****ผมค่อนข้างมั่นใจแฟนใหม่เหมือนกันเพราะเค้าพึ่งไปตรวจสุขภาพเพื่อมีลูกโดยการอุ้มบุญ
โดยการตรวจสุขภาพจะต้องตรวจ HIV ด้วย*****
หลังจากที่ผมและแฟนอาบน้ำเสร็จผมเลยบอกแฟนว่าเราไปตรวจ HIV กันเถอะ ไม่ต้องไปดูหนังแล้วแฟนผมเห็นด้วย
เพราะจิงๆแล้วเราเคยคุยกันไว้ก่อนหน้าว่าเราอยากจะไปตรวจพร้อมกันก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้ไปซักทีเราเลยตัดสินใจไปตรวจเย็นวันนั้นเลย
ที่ รพ ย่านทองหล่อเพราะคิดว่าตรวจเสร็จแล้วจะได้หาอะไรทานด้วยเลยพอถึง รพ เราก็ทำตามระบบระเบียบ
ระหว่างนั้นผมและแฟนไม่ได้มีความเครียดหรือความกลัวอะไรเลย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องรอประมาณ
45นาที เราก็คุยกันว่าเราจะรอผลเลย และไปหาอะไรกินกันทีเดียว ตอนนี้แหละครับที่เรื่องชักมีกลิ่นตุตุผ่านมาแล้ว
1.30 ชม ผลก็ยังไม่ออก จนประมาณ 1.40ชม พยาบาลเรียกผมเข้าไปก่อน แฟนผมก็จะตามเข้ามาแต่พยาบาลห้ามไว้ว่าไม่ได้ค่ะ
จะต้องฟังทีละคน ซึ่งแฟนผมไม่เข้าใจว่าทำไมและมีท่าทีกังวลและไม่พอใจ
โดยปกติแล้วผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แล้วยิ่งด้วยผลเลือดที่ผิดปกติเนี่ยเจ้าหน้าที่ยิ่งต้องรักษาความลับผู้ป่วยผมเข้าไปพบหมอ หมอบอกผม
ว่าขอโทษที่ทำให้รอนานแต่ที่นานเพราะว่าทางห้องปฏิบัติการต้องนำผลเลือดผมไปทำเทส 2 แบบ เนื่องจากผลครั้งแรกเป็น Positive
แต่พอเทสแบบที่สองเป็น Negative โดยคุณหมอแจ้งว่ากรณีนี้จะต้องทำเทสแบบ PCR ซึ่งจะต้องส่งโรงพยาบาลย่านเพชรบุรี
และจะต้องรอผลอีก 3 วัน โดย เทสนี้จะให้ผล 99.99999% เป็นเทสที่สภากาชาติใช้ตรวจเลือดรับบริจาค
โดยคุณหมอแจ้งว่าเหตุการณ์แบบนี้สามารถ เกิดขึ้นได้ไม่ต้องกังวล แต่ตอนนั้นผมก็อึ้งๆไปนิดๆ ใจเสียในระดับนึง
ผมบอกเค้าว่าผมไม่สามารถรอได้ ผมจะไปตรวจที่รพนั้นเลยอาจจะได้รับผลเร็วกว่า ในช่วงนั้นแฟนผมเปิดประตูเข้าห้องหมอมาพอดี
เค้าเป็นคนใจร้อนและโผงผางมาก555 เปิดเข้ามาแล้วถามว่าทำอะไร ทำไมนาน สีหน้าเค้าดูกังวลเนื่องจากยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฟังทีละคน
พอเค้าเข้ามาหมอก็แจ้งเค้าเลยว่าผลเลือดเค้าเป็นปกติพร้อมยื่นใบผลให้
ผมจึงเดินออกจากห้องมาผมจึงพูดกับเค้าว่า หมอได้แจ้งอะไรกับผมบ้างเนื่องจากผมไม่ได้รับเอกสารที่แจ้งผลเลือดแต่เค้าได้รับ
หลังจากที่ผมบอกเค้าแฟนผมก็อึ้งไปมาก เงียบไปไปพักใหญ่
ผมจึงเดินไปถามหมออีกครั้งเพื่อขอใบผลเลือดระหว่างรอแฟนผมก็เงียบและนอยด์มากระหว่างนี้
จนกระทั้งใบผลออกมา ผลที่ผมได้รับคือ Result เป็น Inconclusive / Reference เป็น Negative
หลังจากที่เห็นใบนี้แฟนผมก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย กลายเป็นเค้ามาปลอบผมแทนเพราะจริงๆแล้วผมนอยด์มากแต่ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าแฟนตอนแรก
มากเพราะกลัวเค้าคิดว่าผมติดเชื้อแล้วจริงๆ พึ่งคบกันด้วย กลัวโดนทิ้ง
โดยผมบอกเค้าว่าไม่ต้องกลัวผมจะไปตรวจอีกครั้งวันพรุ่งนี้หากผมติดเชื้อจริงๆ เค้าจะได้กินยาต้านฉุกเฉินทัน
เพราะยาต้อนฉุกเฉินจะต้องทานใน 72 ชม. หลังจากนั้นเราก็ทานข้าวกันและผมก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน
คืนนั้นผมยังพอโอเคอยู่ ในใจก็นึกทบทวนย้อนหลังกลับไปว่าเรามีความเป็นไปได้ที่จะรับเชื้อมาจากไหนบ้าง
ซึ่งนึกออกอย่างเดียวหากผมติดเชื้อจริงๆ คือแฟนเก่าต้องนอกใจผม เพราะผมกับแฟนเก่าก็ตรวจเชื้อด้วยกันก่อนจะมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงยาง
คืนนั้นก็คิดวนไปครับ กับเสริชหาข้อมูลใน Internet โดยเน้นหนักไปที่ “ผลตรวจ HIV ผิดพลาด” เพื่อหาข้อมูลปลอบใจตัวเอง
ซึ่งก็ไม่เจอข้อมูลอะไรมากนัก ไม่มากพอที่จะทำให้ผมสบายใจได้ว่าเราจะไม่เป็นอะไร
โดยส่วนใหญ่เจอข้อมูลผลเลือดที่ผิดพลาดจะเกิดขึ้นในคนท้อง
กรณีที่ร่างกายและฮอร์โมนไม่ปกติ มาเสริชหาแม้กระทั้งใน พันทิป เผื่อจะมีคนเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันแล้วมาไพสต์ไว้
แต่ก็ไม่มีคืนนั้นก็นอนกลับไปแบบยังไม่คิดอะไรมากคิดแต่ว่าวันรุ่งขึ้นจะไปตรวจซ้ำหลังเลิกงาน เพื่อแจ้งผลแฟนให้เค้าสบายใจ