ศาลตัดสินให้นำรถไปคืนหรือจ่ายค่าเสียหาย เรายอมจ่ายแต่ไฟแนนท์ไม่ยอม เลยปล่อยรถโดนยึดไป

เราไปศาลตามที่ศาลนัดเราไกล่เกลี่ยกับทนายฝั่งโจทย์แล้วทนายแจ้งว่าถ้าจ่ายคือต้องจ่ายเดือนละ 60000x5 เราบอกจ่ายไม่ไหว ทนายแนะนำบอกให้เรากลับบอกว่าถ้ากลับจะมีเวลาหาเงินมาปิดศาลอาจจะลดให้ แล้วมีคำตัดสินของศาลมาที่บ้าน

ศาลมีคำสั่งให้ ชดใช้แทนเป็นเงิน 170000 บาทและให้ชำระค่าขาดประโยชน์ 37700 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยล่ะ 7.5 ต่อปี
เรานัดธนาคารจะจ่ายเงินตามศาลตัดสินมา แต่ธนาคารไม่ยอมเรียกเพิ่มเป็น 280000 แต่ทางเราขอจ่ายตามศาลตัดสินคือ 170000+37700=207700บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าขาดประโยชน์ เดือนล่ะ 3000 นับจากวันที่ฟ้อง ตอนนั่นเราหาเงินได้ 220000 แต่ธนาคารบอกว่าจ่ายได้แต่โอนไม่ได้ เราก็เลยไปหาเงินเพื่มแต่เราโดนยึดรถไปก่อนที่จะนัดจ่ายกัน พอธนาคารได้รถไปเรียกเก็บเราเพิ่มเป็น310000บาท เราเลยตัดใจไม่เอาแต่ขอให้เขาโทรมาแจ้งวันที่ประมูลรถเพราะอยากรู้ราคาที่ประมูลได้ แล้วเขาก็ไม่ติดต่อมาเลยจนเรามารู้เองว่ารถโดนประมูลไปแล้วเราเลยติดต่อไปที่ธนาคารเพื่อถามว่ารถเราประมูลได้เท่าไหร่เขาแจ้งว่าได้280000 เราก็ดีใจว่าคงไม่ต้องจ่ายค่าอะไรเพิ่มแล้วเพราะราคาประมูลได้มากกว่าที่ศาลตัดสิน 

ผ่านมาปีกว่ามีเจ้าหน้าทีโทรมาแจ้งว่าเราต้องจ่ายค่าเสียค่าขาดประโยชน์อีก 37700 x 7.5 ต่อปี ค่าขาดประโยชน์ต่อเดือน 3000 x 6 = 18000
ค่าทนายความ3000 ค่าธรรมเนียมศาล 1000 รวมทั่งหมดที่เขาให้จ่ายเพิ่มอีกคือ 60000 บาท 
เราต้องจ่ายใช้ไหมคะ นึกว่าประมูลรถได้เยอะกว่าคำสั่งศาลแล้วจะไม่ต้องเพิ่มอีก 
ราคารถประมูลได้280000 เขาไม่เอามาลบกับค่าขาดประโบชน์เหรอคะ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้วงง เกิดอะไรขึ้น มีทั้งแบงค์และไฟแนนซ์เข้ามาเกี่ยว ทำผิดอะไรต้องชดใช้ค่าขาดประโยชน์ ลองเรียบเรียงและเล่าให้ฟังชัด ๆ ดีกว่าไหม เผื่อจะมีไอเดียอะไรช่วยกันได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่