หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
✡มาลาริน/ตายล่ะ !ไม่เห็นศีรษะประชาชน..พราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ!
กระทู้คำถาม
การเมือง
นักการเมือง
ธนาธร'ชี้เปรี้ยงไทยเป็นแบบนี้เพราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ!
22 ก.ค.62 - นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในการเสวนา “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ”ของ 7 พรรคฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ ว่าสำหรับตนแล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยในปัจจุบันเป็นวิกฤติที่หนักมาก สิ่งที่ตนรู้สึกเศร้าใจมากที่สุด คือเรากำลังจะส่งสังคมที่แย่กว่านี้ให้กับลูกหลานของเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรวันนี้ ลูกหลานของเราจะได้รับสังคมที่แย่กว่านี้ แน่นอนที่สุด หนึ่งในวิกฤติที่หนักที่สุดคือความเหลื่อมล้ำในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ GDP ของประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 15% แต่รายได้ภาคแรงงานเติบโตแค่ 5% รายได้ภาคเกษตรติดลบถึง 3% หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28% แต่คนรวยที่สุดในประเทศไทยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 68% ดังนั้นทุนผูกขาดกับความเหลื่อมล้ำจึงเป็นสองด้านบนเหรียญเดียวกันที่แยกจากกันไม่ได้
นายธนาธร กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการบริหารประเทศภายใต้นโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้ ม.44 เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มทุนจำนวนมาก ตัวอย่างเดียวที่ตนขอยกในวันนี้คือกรณีการยืดหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับกลุ่มทุนทีวีดิจิทัล ซึ่งถ้าคิดในทางกลับกัน ถ้าชาวนาไม่มีเงินจ่ายหนี้ ธกส. ชาวนาจะมีโอกาสได้รีไฟแนนซ์แบบนี้ไหม แบบที่ได้ยืดหนี้ออกไปและลดดอกเบี้ยให้ด้วย คำตอบคือชาวนาไม่เคยมีโอกาสได้รับสิทธิแบบนี้เลย แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าการปฏิบัติระหว่างกลุ่มทุนกับชาวบ้านไม่เท่ากัน
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากเราจะดูว่ารัฐบาลไหนมีวิธีการจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างไร เราต้องดูว่าเงินไปอยู่ที่ไหน อย่างเรื่องนโยบายการคมนาคม ที่ผ่านมารัฐบาล คสช. อนุมัติเงินไปที่โครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ซึ่งถามจริงๆ ว่าในชีวิตจริง จะมีกี่คนที่นั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่ดอนเมืองหรืออู่ตะเภา ถ้าจะลดความเหลื่อมล้ำทำไมไม่เอาเม็ดเงินก้อนนี้ไปทำการคมนาคมสาธารณะให้ต่างจังหวัด ทุกวันนี้จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆรถขนส่งสาธารณะเข้าเมืองยังแทบไม่มี ทำไมเราไม่เอาเงินไปทำระบบขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดเชื่อมระหว่างตลาด ชุมชน สถานที่ราชการ แต่กลับเอาเงินไปทำรถไฟเชื่อมสามสนามบินเพื่อเอื้อกับกลุ่มทุนใหญ่
เขา กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างที่ชัดเจน ว่าการพัฒนาที่ผ่านมาไม่ใช่การพัฒนาเพื่อประชาชน คำถามคือการดูว่าประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วเราต้องดูที่ไหน แน่นอนว่าไม่ใช่การดูที่รถเฟอรารี่วิ่งบนถนนกี่คัน ตนเห็นว่าเราไปดูแค่บนฟุตปาธนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็พอ การดูว่าประเทศไหนที่เจริญแล้วดูง่ายๆ เลย อย่างทุกวันนี้ประเทศไทยกำลังเป็นสังคมผู้สูงอายุ เราดูง่ายๆว่าคนแก่ที่นั่งวีลแชร์สามารถเดินทางออกจากบ้านไปตลาดด้วยตัวเองคนเดียวบนฟุตปาธได้หรือไม่ ประเทศที่เจริญแล้วต้องดูที่ตรงนี้
“ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ เมื่อไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่มีประชาชน การพัฒนาที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการพัฒนาที่มองไม่เห็นประชาชนอย่างที่ผ่านมา เพราะรัฐไทยไม่เคยมองเห็นประชาชน เรื่องนี้จึงตอบโจทย์ที่ว่าพรรคฝั่งที่อยู่กับประยุทธ์จะพูดเหมือนกันหมด ว่าประชาธิปไตยไม่ต้องสนใจ แก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน นี่คือการหลอกลวง เพราะระบบการเมืองที่ดีเท่านั้นถึงจะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีได้”
นายธนาธร กล่าวด้วยว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องมาทบทวนว่าระบบการเมืองที่ดีคืออะไร ระบบการเมืองที่ดีคือระบบที่คนเห็นต่างจะอยู่ร่วมกันได้สันติ และมีประชาชนอยู่ในประเทศ เป็นคนที่ต้องได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาที่แท้จริง นี่คือภารกิจของคนรุ่นเรา ที่เราจะต้องแก้ให้ได้เพื่อส่งสังคมที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานของเราให้ได้
https://www.thaipost.net/main/detail/41603
คะแนนเสียงที่รับร่างรัฐธรรมนูญมาท่วมท้น เป็นคะแนนจากไหนล่ะคะ....?
แล้วส.ส.ที่ได้รับเลือกเข้ามานั่งในสภา เป็นคะแนนเสียงจากใคร..?
เฮ้อออ!! ไม่เห็นศีรษะประชาชนเสียแล้ว
ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ประเทศไทยมีประชากร 60 กว่าล้านคนเข้าไปแล้ว
ตั้งแต่ยุคสุโขทัยเป็นต้นมา ถึงต้นรัตนโกสินทร์ก็ไม่ได้เป็นระบอบประชาธิปไตย
ยุคไหนๆก็เห็นประชาชนเป็นพลเมืองของประเทศมาตลอด
สุโขทัย ให้ประชาชนมาสั่นกระดิ่งที่หน้าประตูเมืองได้ เพื่อความเป็นธรรม
อยุธยา ดูจากเรื่องบุพเพสันนิวาสเลยค่ะ บ้านเมืองมีการพัฒนา ประชาชนมีความสุข ในยามสงบจากสงครามก็มีวิถีชีวิตงดงาม
รัตนโกสินทร์ มีการเลิกทาส เพราะมองเห็นประชาชนได้รับการกดขี่ ทุกข์ยาก
แล้วนี่ยุคนี้ มีการเลือกตั้งแล้ว นาทอนกลับมองไม่เห็นประชาชน
เพราะแค่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นนายก โธ่ ! ประชาธิปไตยของนาทอน
หัวเราะจนน้ำตาไหลเลยค่ะ.....
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
นักการเมือง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
✡มาลาริน/ตายล่ะ !ไม่เห็นศีรษะประชาชน..พราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ!
22 ก.ค.62 - นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในการเสวนา “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ”ของ 7 พรรคฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ ว่าสำหรับตนแล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยในปัจจุบันเป็นวิกฤติที่หนักมาก สิ่งที่ตนรู้สึกเศร้าใจมากที่สุด คือเรากำลังจะส่งสังคมที่แย่กว่านี้ให้กับลูกหลานของเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรวันนี้ ลูกหลานของเราจะได้รับสังคมที่แย่กว่านี้ แน่นอนที่สุด หนึ่งในวิกฤติที่หนักที่สุดคือความเหลื่อมล้ำในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ GDP ของประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 15% แต่รายได้ภาคแรงงานเติบโตแค่ 5% รายได้ภาคเกษตรติดลบถึง 3% หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28% แต่คนรวยที่สุดในประเทศไทยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 68% ดังนั้นทุนผูกขาดกับความเหลื่อมล้ำจึงเป็นสองด้านบนเหรียญเดียวกันที่แยกจากกันไม่ได้
นายธนาธร กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการบริหารประเทศภายใต้นโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้ ม.44 เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มทุนจำนวนมาก ตัวอย่างเดียวที่ตนขอยกในวันนี้คือกรณีการยืดหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับกลุ่มทุนทีวีดิจิทัล ซึ่งถ้าคิดในทางกลับกัน ถ้าชาวนาไม่มีเงินจ่ายหนี้ ธกส. ชาวนาจะมีโอกาสได้รีไฟแนนซ์แบบนี้ไหม แบบที่ได้ยืดหนี้ออกไปและลดดอกเบี้ยให้ด้วย คำตอบคือชาวนาไม่เคยมีโอกาสได้รับสิทธิแบบนี้เลย แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าการปฏิบัติระหว่างกลุ่มทุนกับชาวบ้านไม่เท่ากัน
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากเราจะดูว่ารัฐบาลไหนมีวิธีการจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างไร เราต้องดูว่าเงินไปอยู่ที่ไหน อย่างเรื่องนโยบายการคมนาคม ที่ผ่านมารัฐบาล คสช. อนุมัติเงินไปที่โครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ซึ่งถามจริงๆ ว่าในชีวิตจริง จะมีกี่คนที่นั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่ดอนเมืองหรืออู่ตะเภา ถ้าจะลดความเหลื่อมล้ำทำไมไม่เอาเม็ดเงินก้อนนี้ไปทำการคมนาคมสาธารณะให้ต่างจังหวัด ทุกวันนี้จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆรถขนส่งสาธารณะเข้าเมืองยังแทบไม่มี ทำไมเราไม่เอาเงินไปทำระบบขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดเชื่อมระหว่างตลาด ชุมชน สถานที่ราชการ แต่กลับเอาเงินไปทำรถไฟเชื่อมสามสนามบินเพื่อเอื้อกับกลุ่มทุนใหญ่
เขา กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างที่ชัดเจน ว่าการพัฒนาที่ผ่านมาไม่ใช่การพัฒนาเพื่อประชาชน คำถามคือการดูว่าประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วเราต้องดูที่ไหน แน่นอนว่าไม่ใช่การดูที่รถเฟอรารี่วิ่งบนถนนกี่คัน ตนเห็นว่าเราไปดูแค่บนฟุตปาธนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็พอ การดูว่าประเทศไหนที่เจริญแล้วดูง่ายๆ เลย อย่างทุกวันนี้ประเทศไทยกำลังเป็นสังคมผู้สูงอายุ เราดูง่ายๆว่าคนแก่ที่นั่งวีลแชร์สามารถเดินทางออกจากบ้านไปตลาดด้วยตัวเองคนเดียวบนฟุตปาธได้หรือไม่ ประเทศที่เจริญแล้วต้องดูที่ตรงนี้
“ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ เมื่อไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่มีประชาชน การพัฒนาที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการพัฒนาที่มองไม่เห็นประชาชนอย่างที่ผ่านมา เพราะรัฐไทยไม่เคยมองเห็นประชาชน เรื่องนี้จึงตอบโจทย์ที่ว่าพรรคฝั่งที่อยู่กับประยุทธ์จะพูดเหมือนกันหมด ว่าประชาธิปไตยไม่ต้องสนใจ แก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน นี่คือการหลอกลวง เพราะระบบการเมืองที่ดีเท่านั้นถึงจะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีได้”
นายธนาธร กล่าวด้วยว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องมาทบทวนว่าระบบการเมืองที่ดีคืออะไร ระบบการเมืองที่ดีคือระบบที่คนเห็นต่างจะอยู่ร่วมกันได้สันติ และมีประชาชนอยู่ในประเทศ เป็นคนที่ต้องได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาที่แท้จริง นี่คือภารกิจของคนรุ่นเรา ที่เราจะต้องแก้ให้ได้เพื่อส่งสังคมที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานของเราให้ได้
https://www.thaipost.net/main/detail/41603
คะแนนเสียงที่รับร่างรัฐธรรมนูญมาท่วมท้น เป็นคะแนนจากไหนล่ะคะ....?
แล้วส.ส.ที่ได้รับเลือกเข้ามานั่งในสภา เป็นคะแนนเสียงจากใคร..?
เฮ้อออ!! ไม่เห็นศีรษะประชาชนเสียแล้ว
ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ประเทศไทยมีประชากร 60 กว่าล้านคนเข้าไปแล้ว
ตั้งแต่ยุคสุโขทัยเป็นต้นมา ถึงต้นรัตนโกสินทร์ก็ไม่ได้เป็นระบอบประชาธิปไตย
ยุคไหนๆก็เห็นประชาชนเป็นพลเมืองของประเทศมาตลอด
สุโขทัย ให้ประชาชนมาสั่นกระดิ่งที่หน้าประตูเมืองได้ เพื่อความเป็นธรรม
อยุธยา ดูจากเรื่องบุพเพสันนิวาสเลยค่ะ บ้านเมืองมีการพัฒนา ประชาชนมีความสุข ในยามสงบจากสงครามก็มีวิถีชีวิตงดงาม
รัตนโกสินทร์ มีการเลิกทาส เพราะมองเห็นประชาชนได้รับการกดขี่ ทุกข์ยาก
แล้วนี่ยุคนี้ มีการเลือกตั้งแล้ว นาทอนกลับมองไม่เห็นประชาชน
เพราะแค่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นนายก โธ่ ! ประชาธิปไตยของนาทอน
หัวเราะจนน้ำตาไหลเลยค่ะ.....