[SR] รีวิว Mi Mix 3 เรือธงเก่า กลางคืนถ่ายสวย รุ่นสุดท้ายที่มี OIS พร้อมฝาเซรามิค กับราคาเพียงหมื่นต้นๆ



สวัสดี Mi Fans และชาวมาบุญครองทุกท่านครับ

        วันนี้ผมมีมือถือตัวหนึ่งมารีวิว รุ่นนี้เปิดตัวไปนานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ 11พฤษจิกายน 2561 เป็นรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีสไลด์ที่ทาง Xiaomi ยืนยันมาว่ามีความทนทานมากๆ สไลด์ได้สูงถึง 300,000ครั้ง และก็เป็นที่น่าตกใจที่ในงานเปิดตัวของ Mi Mix 3นั้นมีการแข่งขัน ใครสไลด์ได้มากสุด รับเครื่องไปฟรีๆเลยนั่นก็เป็นการแสดงให้ทุกๆคนเห็นว่า การสไลด์แบบนี้ทนทานนะเป็นรุ่นหนึ่งที่ไม่ต้องห่วงเพราะเราสไลด์มือเองเลย ชิ้นส่วนน้อยและทนทาน

        Mi Mix 3 คือเรือธงตัวท๊อป ตัวปิดท้ายปี 2018 ของ Xiaomi ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้เล่นกันและด้วยความที่เป็นเรือธง ในปีที่แล้วทาง Xiaomi Thailand ได้เปิดตัวมาด้วยราคา 18,999 บาทแต่ตอนนี้เป็นหนึ่งในมือถือที่น่าใช้ที่สุดในราคาประมาณ 1 หมื่นกลางๆ ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่แต่ก็ยังได้กล้องหน้าอันดับต้นๆ ในโทรศัพท์มือถือ กล้องหลังที่มี OIS ชิปประมวลผลตัวท๊อป และวัสดุพรีเมียมอย่างเซรามิคที่ทนต่อแรงขีดข่วนถึงระดับ8 โดย Mi Mix 3 มี Spec ดังนี้

หน้าจอ : 6.39 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19.5:9 แบบไร้ขอบไร้ติ่ง
CPU : Qualcomm Snapdragon 845
GPU : Adreno 630
กล้องหน้า : Manual Pop-Up24 MP f/2.2 (Sony IMX576) + 2 MP Depth Sensor พร้อมไฟแฟลช
กล้องหลัง : 12 MP f/1.8(Sony IMX363) พร้อม OIS 4 แกน + 12MPf/2.4 Telephoto
Ram : 6 GB
ความจุภายใน : 128 GB
ระบบปฎิบัติการ : Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10.3
แบตเตอรี่ : 3,200 mAh ชาร์จด้วย USB-C18Watt (Quickcharge 4+)

- Body –


        จุดแรกที่ผมจะพูดถึงคงเป็นบอดี้ก็เพราะตัวบอดี้เป็นจุดเด่นของ MiMix 3 ด้วยการที่ฝาหลังเป็นเซรามิก และเครื่องที่ผมได้รับมาเป็นสี OnyxBlack ตัวบอดี้ทั้งฝาหลังของตัวเครื่องและรอบๆจะเงา วาว สะท้อนแสงเหมือนกระจกแต่ถ้าไม่เจอแสงตรงๆก็จะดำเข้มดุ และดูหรูดูแพงในเวลาเดียวกัน ฝาหลังที่เป็นเซรามิกนั้นสามารถทนรอยขีดข่วนได้ถึงระดับ8 ซึ่งเป็นรองเพียงแค่เพชร ดังนั้นก็หมดห่วงเรื่องฝาหลังเป็นรอยได้เลยแต่ก็ติดขัดนิดหน่อยตรงที่ตัวกล้องหลังคู่ 12MP+12MP มีความนูนออกมาพอสมควร ใส่เคสที่ให้มาในกล่องก็ยังคงนูนออกมา


        ด้านล่างของตัวเครื่อง Mi Mix มากับลำโพงด้านขวาเพียงด้านเดียวมีเสียงที่ดัง มีเบส มีเสียงที่ใส มีคุณภาพเสียงมากกว่ามาตรฐานเรือธงปกติ  ด้านซ้ายเป็นไมโครโฟนที่ซ่อนอยู่และตรงกลางจะเป็นพอร์ต USB 2.0 Type C จากการทดลองย้ายไฟล์ขนาด 2GB จะใช้เวลาประมาณ 1 นาที ซึ่งก็จะมีความเร็วประมาณ 278Mbps


        ในส่วนของด้านข้างด้านขวาจะมีทั้งปุ่มล็อคหน้าจอ เพิ่มเสียง และลดเสียง ในฝั่งเดียวกันตามสไตล์และด้านซ้ายจะเป็นปุ่มของ Google Assistant ที่สามารถตั้งเพื่อเปิดกล้องได้ มีถาดซิมอยู่สูงถัดขึ้นมา เป็นถาดซิมแบบ DualSlot รองรับการใช้ 4G ทั้งสองซิมไม่สามารถเพิ่ม Micro SD Card และด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 อยู่ทางซ้าย

- Highlights –

        ดีไซน์ของ Mi Mix 3 คือจุดเด่นของรุ่นนี้ ด้วยความที่เป็นหน้าจอขอบบางทุกด้านและคางที่ยังคงบางเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ทั้งๆที่เวลาผ่านมากว่า 9 เดือนแล้วกล้องหน้าของ Mi Mix 3 ทำการเบลอได้ดีมากๆถ้ามีแสงพอแค่หันแว๊บๆก็ถ่ายชัด เบลอให้เรียบร้อยเนียนๆและนอกจากนั้นยังเป็นรุ่นที่ถือกระชับมือเข้าอุ้งมือได้พอดี ไม่จำเป็นต้องใส่เคส และไม่ต้องกลัวเป็นรอยเพราะฝาหลังเป็นเซรามิกเหมาะกับคนที่ต้องการใช้แบบเรียบง่าย ไม่เพียงแค่นั้น ยังเป็นรุ่นสุดท้ายของเรือธงMi ที่มี OISทำให้การถ่ายภาพกลางคืนเป็นไปอย่างสบายๆ โดยจะมี AIช่วยควบคุมให้นิ่งมากขึ้นไปอีก

โดยหลังจากนี้จะเป็นส่วนของการใช้งานจริงแล้วโดยผมก็จะเรียงลำดับเป็นหัวข้อตามนี้เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านครับ
1. หน้าจอ, ความสว่าง, สีที่แสดงผล และการตอบสนองทัชสกรีน
2. ประสิทธิภาพ, การเล่นเกม และความร้อน
3. เสียงจากลำโพงและสายแปลงที่ให้มาในกล่อง                  
4. การใช้งานประจำวัน,GPS และ User Interface
5. กล้องหลังคู่ DualAI Camera
6. แบตเตอรี่ และการชาร์จ

หน้าจอ, ความสว่าง, สีที่แสดงผล และการตอบสนองทัชสกรีน –


        ในส่วนของด้านหน้าก็มากับหน้าจอขนาด 6.39 นิ้วแบบไร้ติ่ง เป็นพาแนลแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ตัวจอครอบด้วยกระจก 2.5D ที่เป็น Gorilla Glass 5 มีความคงทนและกันรอยขีดข่วนได้ดีโดยมีขอบบ้างทั้ง 4 ด้าน ไม่มีติ่งให้รำคาญสายตาโดยจะมีสีสันสวยงามตามฉบับของจอจาก Samsung  ฟีลลิ่งในการทัชกรีนก็ถือว่าดีตามปกติในระดับเรือธงไม่มีทัชหลุด ทัชเพี้ยน แต่ก็ยังพบอาการหน่วงนิดๆเพียงไม่กี่ครั้งที่เด่นคือหน้าจอมีความสว่างสูงถึง 700 nits มากกว่าที่รุ่นใหม่ๆโฆษณากันเสียอีกเมื่อนำไปใช้จริงแล้วสามารถสู้แดดได้สบายๆ ไม่มีปัญหาครับ

ประสิทธิภาพ, การเล่นเกมและความร้อน –

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

        เรื่องของประสิทธิภาพคงไม่ต้องพูดอะไรมากMi Mix 3 มากับ Snapdragon845 ชิปประมวลผลรุ่นท๊อปในปีที่แล้วสามารถเล่นปรับสุดได้ทุกเกมแบบลื่นๆ ยกเว้น PubGที่ต้องรอการอัพเดตให้เล่น HDR + Extreme แต่ในตอนนี้ก็สามารถเล่นได้แบบHDR + Ultra ก็เกินพอแล้ว นอกจากนั้น ยังสามารถเล่นROV แพทช์ใหม่ที่ปรับกราฟฟิคระดับ HDปรับความละเอียด HD เข้าโหมด 10-10และอัดหน้าจอไปด้วยพร้อมๆกัน เฟรมเรทจะเกาะนิ่งๆที่ 59-60ไม่เคยตกให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว
คะแนน Antutu ของ Mi Mix 3 ก็เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ โดยจะมีคะแนนสูงถึง 296,905 คะแนน ซึ่งนั่นก็เฉียดๆ 300,000 คะแนนเข้าไปแล้วโดย Stresstest 15 นาทีแล้วก็จะมีอาการ Throttle ตามปกติของ Snapdragon 845 อันร้อนแรง

-    เสียงจากลำโพง และสายแปลงที่ให้มาในกล่อง -


        ลำโพงของ Mi Mix 3 จะมีเพียงหนึ่งตัวด้านล่างขวาของตัวเครื่องเป็นลำโพงที่มีเสียงที่ดัง เสียงนุ่ม มีเบสที่ดีเนื้อเสียงที่ออกมานั้นฟังได้สบายหู ดีเกินมาตรฐานเรือธง หางหนูที่ให้มาในกล่องของ MiMix 3 พบอาการเสียงดรอปทุกๆด้านเพียงเล็กน้อย(นิดเดียวจริงๆ) จากไฟล์ HiRes และ Master ของ Tidalซึ่งทำให้ผมเห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อหางหนูที่มี DACในตัวในราคาไม่เกิน 1,000 บาทเลยเพราะนั่นอาจจะทำให้เสียงแย่ลงได้ ไปเน้นที่ตัวไฟล์จะดีกว่าครับ

-    การใช้งานประจำวัน,GPS และ User Interface –


        Mi Mix 3 มากับความจุภายในเริ่มต้นที่ 64GB การใช้งานปกติเรียกได้ว่าอยากโหลดอะไรก็โหลด MIUI 10 ใน Mi Mix 3 ที่มากับ Android 9.0 Pie นั้นพบว่ามี Bug น้อยมากๆ ผิดปกติของ MIUI ในส่วนของ DualGPS ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องทิศแต่สำหรับการนำทางที่อยู่บนรถที่ขับบนทางมีความเร็วแล้ว ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

ในส่วนของกล้องหลัง และข้อดี ข้อควรพิจารณา จะมาต่อด้านล่างนะครับ และถ้าชอบก็อย่าลืมกด Vote กระทู้ตรงด้านล่างนี้ครับ (อย่าเผลอโหวตคอมเมนต์ล่ะ)
ชื่อสินค้า:   Xiaomi Mi MIX 3
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่