:: ต ล า ด ล า ด ช ะ โ ด ::

ตลาด 100 ปี ลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

~ One day trip ~

16 July 2019

ต้องเกลิ่นก่อนเลยค่ะว่ามาที่นี้ครั้งแรก...อาจจะมีข้อมูลคลาดเคลื่อนไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

มาเริ่มเดินทางไปพร้อมกันเลยคร้า.... Let go.....

ออกจากบ้านประมาณ 6 โมงตรงค่ะ 

การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางไปกับ การรถไฟแห่งประเทศไปค่ะ โดยจะไปขึ้นรถไฟที่สถานีดอนเมือง

เย้ เย้ ถึงแว้ว....6:55 น.

แรกเลยเราตั้งใจจะออกเดินทาง เที่ยวเวลา 5:53 น.แต่มันเช้าไปขี้เกียจตื่น...เลยเลืองเที่ยวเวลา 7:39 น. ดีกว่าน่าจะกำลังดี😎

มาถึงก็ตรงไปซื้อตั๋วรอเวลาขึ้นรถกันเลยสิคะ จะช้าอยู่ไย เวลาเหลือจะได้หาอะไรรองท้องกันสักหน่อย 

พอได้ตั๋วก็มานั่งรอสวยๆ กินกล้วยรองท้องไปก่อน หึ...เหมือนไม่พอ..อดทนค่ะ ฮึบ!...เพราะตั้งใจจะหิ้วท้องไปหาอะไรกินที่ตลาดลาดลาดชะโดเลยทีเดียว

ขึ้นชื่อว่าตลาด ต้องมีของกินเพียบแน่ๆ (การหวังน้ำบ่อหน้า ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะคูน..)

และ Unseen ของวันนี้คือ เป็นวัน "อาสาฬหบูชา" ซึ่งจะมีขบวนเรือแห่เทียนพรรษาทางน้ำค่ะ ชักอยากเห็นแล้วสิ ตื่นเต้น....

วันนี้รถไฟเสียเวลานิดหน่อยค่ะ กว่ารถออกจากสถานีดอนเมืองก็เกือบ 8 โมงเลย...😅

เพราะคนที่ได้ตั๋วยืนก็ต้องยืนต่อไป ยืนมาจนถึงสถานีอยุธยาเลยทีเดียว

ในที่สุดข้าก็ถึง 555+ุ

พอลงจากรถไฟแล้วก็ตรงดิ่งข้ามถนนไปที่ท่าเรือกันเลยค่ะ

เราต้องขึ้นเรือข้ามฟากไปยังฝั่งตลาดเจ้าพรหมค่ะ ส่วนค่าบริการก็ตามป้ายเลยจร้า...

<img class="img-in-post in-tiny-editor">

เดินขึ้นจากท่าเรือก็จะเห็นร้านให้เช่าจักรยานเยอะแยะเลย 

เราต้องเดินไปขึ้นรถตู้ที่อยู่หลังตลาดนะคะ บอกเลยว่ามีเหนื่อยค่ะคูณขา...จากท่าเรือเดินตรงไปเรื่อยๆ เลยค่ะ 4 แยกแรกเป็นแยกหน้าตลาด ให้เดินตรงไปอีกจนถึงแยกที่ 2 แล้วจากนั้นเลี้ยวขวาค่ะ 

เลี้ยวขวามาแล้ว แอ๊ะ!..ไหนล่ะรถตู้....นั้นไงคะ ริบๆ โน้น....

 

ถึงแล้วก็แจ้งกับคนขายตั๋วด้วยเเสียงเหนื่อยหอบ  พี่ๆ ไปผักไห่ 1 ที่นั่งค่ะ ☺️

<img class="img-in-post in-tiny-editor">

รถตู้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-40 นาทีค่ะ ถึงแล้ว อ.ผักไห่ แต่ยังไม่ถึงที่หมายของเรา รถตู้จะสุดสายแค่ท่ารถผักไห่ เราต้องหารถต่อเข้าไปจร้า รถจะจอดให้เราลงตรงใต้สะพานลอย ตรงจุดจะมีรถกระป้อ(ศัพท์นอก อิอิ)ไว้คอยให้บริการอยู่ ค่าบริการ 50 บาท

 

ความโชคดีคือได้เจอชาวบ้านลาดชะโด 3 คนแม่ลูกใจดีให้ติดรถมาพร้อมกันเลย ไหนๆ ก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว ส่วนค่ารถครั้งนี้น้าเขาเป็นคนออกให้ นี่แหละค่ะประสบการดีๆ ของการเดินทางครั้งนี้ ประทับใจชาวลาดชะโดมากๆ

ถึงแล้วค่ะที่หมายของเรา

เราก็มัวแต่ตื่นเต้นยืนดูขบวนเรือคุณน้าที่พามาก็หายไปไหนไม่รู้ซะแล้วยังไม่ได้ขอบคุณอีกครั้งเลย

งานนี้ยังมีคำขวัญว่า “สายน้ำแห่งสัทธา เกริกก้องฟ้าชาวลาดชะโด” คำขวัญของงานจะถูกเปลี่ยนไปทุกๆ ปีอีกด้วย ใครอยากรู้ว่าปีหน้าจะมีคำขวัญอะไร ลองมาเที่ยวกันดูนะคะ ขบวนเรือจะเริมออกเดินเรือแห่ลองทวนน้ำคลองลาดชะโดแล้วจะวนกลับมายังจุดกล่าวเปิดงานค่ะ ขบวนเรือก็พายตามกันไป ส่วนเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าฮะ ระหว่างทางมามีร้ายขายของกินเยอะแยะเลยล่ะคะ แต่ส่วนมากจะมีแต่ขนมหวานนะคะ

ประเดิมกันด้วยไอศกรีมกะทิในถ้วยไม้ไผ่กันเลยค่ะ หอมหวานชื่นจาย...

มีนิทัศการรูปภาพ เป็นภาพวิถีชีวิตชาวลาดชะโดบอกเล่าเรื่องราวของชาวบ้าน ได้มองดูแล้วก็ทำให้ยิ้ม

เดินมาเรื่อยๆ ก็มาหยุดอยู่ที่ร้านหอยทอด แต่ไม่กินค่ะ ยืนมองเฉยๆ แล้วหันมาสั่งก๋วยจั๊บร้านข้างๆ แทน

ช่วงเวลานี้พูดได้เลยว่า ของกินเต็มแขน แต่ขาดแคลนที่นั่งกินฮะ เดินไปกินไปก็ได้อรรถรสไปอีกแบบค่ะ

ตอนนี้ก็มาหยุดอยู่ที่ สถานที่ชื่อว่าอะไรก็จำไม่ได้นะคะ แต่จะอยู่หน้าทางเข้าตลาดเลย เดินเข้ามาจะอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ ซึ่งที่นี่ก็จะบอกถึงประหวัดความเป็นมาต่างๆ ของตลาด น่าสนใจทีเดียวค่ะ

ที่นี่ยังมีหน้าตาปลาท้องถิ่น และปลาอื่นๆ ให้ดูด้วยนะ

แอบกระซิบถามชาวบ้านมาว่าที่ตลาดเปิดทุกวันแล้วคนเยอะแบบนี้หรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ได้เปิดทุกวันนะคะ ถ้าเป็นวันธรรมดาร้านจะเปิดน้อยมากไม่ค่อยมีอะไร ครึกครื้นที่สุดก็จะเป็นวันเข้าพรรษาของทุกปี เทศการนี้จัดขึ้นมาปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้วววว โอ้ว...นานเหมือนกันแฮะ

เดินดูนั้นนี่อีกสักหน่อยก็เดินข้ามสะพานมาทางฝั่งโรงเรียน เดินลัดเลาะหลังโรงเรียนมาวัด ทำบุญไหว้พระขอพรเสร็จคงต้องกลับแล้ว ก่อนกลับก็เดินดูรอบวัดอีกจักน่อย

ขากลับเราก็ใช้บริการพี่วินค่ะ จุดที่วินมอเตอร์ไซจอดให้บริการก็จะอยู่บริเวณทางเข้าหน้าโรงเรียน ค่าบริการ 50 บาท