สวัสดีสมาชิกที่น่ารักทุกท่าน เชื่อกันว่าหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสมัยเด็ก หรือสมัยผู้ใหญ่ที่อยากพาลูกๆ ไปเที่ยวคือ"สวนสัตว์" ซึ่งมีมากมายหลายแห่งในประเทศไทยแต่มันจะมีที่ๆ นึงที่ผมเคยไปสมัยเด็ก แค่ครั้งเดียวเพราะสมัยนั้นเดินทางไปค่อนข้างยาก (เด็กบ้านนอกอยู่ไกลหล่ะครับ ฮ่าๆ) ด้วยความประทับใจของสวนสัตว์เปิดและการแสดงโชว์ต่างๆ ทำให้ผมตั้งใจเลยนะว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีก : Safari World ..,
~ สวนสัตว์เปิด ~
ถ้าให้ทุกคนนึกภาพสวนสัตว์ทั่วๆ ไปคือ เราเดินดูตามกรงไปเรื่อยๆ แต่สวนสัตว์เปิด(ซาฟารีปาร์ค)คือพอเข้ารั้วไปมีม้าลาย มีนกอะไรไม่รู้ตัวใหญ่ๆ บินว่อนเป็นฝูงจากด้านซ้ายไปด้านขวา มองลงมาเป็นกวางกำลังเดินหากิน โห้ว !! เหมือนผมอยู่ในเรื่อง The lion king เลยครับ นึกว่าวาร์ปมาซาฟารีจริงๆ ซึ่งที่ Safari world มันต่างจากที่อื่นตรงที่เราจะมีเวลากับสวนสัตว์เปิดเยอะมาก และมันมีอะไรให้เราได้ตื่นตาตื่นใจเสมอ
~ การแสดงสัตว์ ~
อีกหนึ่งความประทับใจที่รู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นคือโซนของการแสดง(มารีนปาร์ค) ที่ไม่ใช่แค่แทรกไประหว่างเส้นทางชมสัตว์ แต่เขาตั้งขึ้นมาเป็นโซนเลยแล้วมีแสดงทั้งวัน นอกจากแสดงสัตว์แล้วยังมี Stunman อีกด้วย (อันนี้อยากดูมาก แต่อด เพราะอะไรเดี๋ยวกล่าวไว้ท้ายกระทู้แล้วกัน)
~ Safari World อยู่ที่ไหน ~
ตามหัวข้อรีวิวเลยครับ ไม่ต้องไปไหนไกล แค่ในเมืองกรุงฯ ตามที่อยู่ด้านล่างนี้เลยครับ
ที่อยู่ : 99 ถนน ปัญญาอินทรา แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510
วันทำการ : ทุกวันเวลา 09.00-17.00 (วันเสาร์อาทิตย์ปิด 18.00)
เบอร์ติดต่อ : 02 914 4100
~ ไปเที่ยวกันดีกว่า ~
เกริ่นมาซะเยอะ พิมพ์จนเมื่อยมือ ได้เวลาพาไปเที่ยวฉบับของแบกกล้องไปท่องโลก ฮาแน่นอน
ผมซื้อบัตรผ่าน Application ชื่อดังแห่งหนึ่งที่ขึ้ยต้นด้วย "S" ลงท้ายด้วย "E" ถ้าใครไม่รู้จักไม่คุยด้วยละ ฮ่าๆ (อย่าลืมเช็คนะครับว่าสามารถเข้าชมได้ทั้งซาฟารีปาร์คและมารีนปาร์ค)
ส่วนแรกที่เข้าชมคือซาฟารีปาร์ค ถ้าไปกันหลายคนควรตกลงกันว่าใครจะเป็นคนขับ เพราะเข้าปาร์คไปแล้วไม่สามารถออกมาจากรถได้นะครับ พอแลกตั๋วเขาไปปั๊บยังไม่ทันทำอะไรก็ต้องจอดแล้ว จะเปลี่ยนคนขับอีกไม่ได้ละนะเออ !! ภาพแรกที่เห็นคือสัตว์เต็มไปหมด สัตว์อยู่ด้วยกัน นกตัวใหญ่ๆ บินว่อนเต็มท้องฟ้า อารมณ์เหมือนในฉากจบของ Jurassic park : The lost world เลยครับ (บอกอายุเลย)
ว่าแล้วก็ยกกล้องกดชัตเตอร์รัวๆ
กล้องมันหนักไปหน่อย บางทีก็ได้ภาพแบบนี้
พอดีพกเลนส์ Tele ไปหน่ะครับ หนักจริง ถ่ายยากหน่อย แต่ก็คุ้มกับภาพที่ไห้มาฝากเพื่อนๆ ครับ
ไปต่อไม่รอแล้วนะ
ขับไปอีกซักพักเราไปเจออูฐ ซึ่งคงอยู่กันสบายๆ เพราะอากาศนี่ร้อนจัด ถ้ามีแค่อูฐอย่างเดียวผมนึกว่าเรามาเที่ยวทะเลทราย ฮ่าๆ
เจออูฐแบบนี้ต้องยกมือไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคลเลยครับ อูฐสามหัว !!
ดูหน้าน้องสิ อูฐแบ๊วววว น่าร๊ากกกกกกกกกก
ไอ่ตัวที่บังน้องที่หันหน้ามา น่าจะกำลังทำสปาอูฐอยู่ พอกโคลนอาบแดด
เลยอูฐมานิดเดียวยังไม่ทันเหยีบคันเร่ง เจอนกกระจอกเทศ เอ้า !! พนมมือสิ รอไร !!
(อย่าเอาไปเล่นที่ไหนนะ)
อากาศมันร้อน ขอนอนแช่น้ำแป๊บ !!
ตัวนี้คือนกกาบบัว ดูท่าทางน่าจะแก่ละ หน้าเหี่ยวหมดละ
เห้ยยย นั่นเพื่อนผมเองงง
อยู่กันหลายตัวเลย
มองไปไกลๆ มียีราฟยืนเป็นฝูงกำลังแย่งอาหารกันอยู่ น่าเสียดาย แต่ก่อนยีราฟจะมาเดินตรงที่เราขับรถผ่านด้วย ยิ่งเวลามันก้มลงมาดูเรานี่เหมือนอยู่ใน Jurassic park เลยครับ
ใครจะแย่งกันกินก็ช่าง ข้าไม่สน เสริมสวยแป๊บนะ
ข้างๆ ถนนจะมีป้ายเขียนไว้ชัดเจนว่า สัตว์มีสิทธิพิเศษบนถนน หมายความว่ามันจะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ เพราะนั่นคือบ้านของมัน เราเป็นแค่แขกมารับชม
สักพักก็มีน้องนกกาบบัวมาเดินๆ Slow life อยู่หน้ารถ เอาเลยเพื่อนนน ค่อยๆ เดิน
อันนี้เป็นรถ Jeep ของเจ้าหน้าที่ในบริเวณสวนสัตว์เปิด เท่ห์ยังกะรถใน Jurassic park !! (อ้างชื่อหนังเรื่องนี้อีกละ)
คือถ้าขับบนถนนธรรมดาโลกไม่จำ ฮ่าๆๆ จริงๆ แล้วรถมันทำมาให้ขับได้มากกว่าถนนหน่ะครับ บางทีต้องเข้าไปให้อาหาร ไรงี้ ~
นี่ๆ มนุษย์ ดูลูกเราสิ น่ารักป๊ะล่าาาา ??
แต่ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมลูกข้าสีผิวมันอมน้ำตาลๆ
ตัดภาพมาที่สีผิวคนข้างบ้าน
เฮ้ๆ พวกนาย เขาบอกว่าสัตว์มีสิทธิพิเศษบนถนน มาพวกเรา !! มากางปีกดักหน้ารถกัน
ผมเห็นครั้งแรกก็งงๆ ว่ามันทำอะไรกัน อยู่ๆ ก็ยืนกางปีกค้างไว้ ทำกันหลายตัวด้วย ผมเดาว่าเพราะอากาศที่ร้อนมันเลยกางปีกให้อากาศมันได้พอระบายบ้าง (เดาล้วนๆ ไม่หาข้อมูลด้วย ใครอยากรู้ไปหาเอาเอง ฮ่าๆ)
ไปชมสัตว์กันต่อดีกว่า ~
นี่หมีควาย น่าเสียดาย มันหลบอยู่ในร่ม ถ่ายไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
ตัวนี้นกอีมู มันทำให้ผมนึกถึง เวโรซีแร๊พเตอร์ ใน Jurassic park เลย
สักพัก ถึงทางออก เดี๋ยว !!!!! ที่จำได้คือมันมีเสือ มีสิงโตด้วยนะ เราขับไปดูได้เลย มันนอนอยู่ข้างๆ เลย แต่ทำไมมาครั้งนี้ยังไม่เห็น ???
ผมก็นั่งนึกย้อนกลับไปว่า เอ้.... เราพลาดไปตรงไหน เลยนึกขึ้นว่า มันจะมีแยกๆ นึง เขียนไว้ข้างทางว่าห้ามเข้า แต่มีถนน แล้วด้านหน้าเขียนว่า "ฮิปโป" ละอีกทางแยกมีประตูเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ผมคิดว่าทางนั้นน่าจะเป็นทางออกน๊าาาา เลยตัดสินใจไปดูฮิปโป้ดีกว่า เรายังไม่อยากออก พอออกมาก็นึกย้อนไปว่าตอนเด็กๆ ที่เคยมาเราต้องผ่านประตูนี้ถึงจะเจอสิงโต เศร้าาาา แต่ด้วยเวลาที่จำกัดและตั๋วที่ถูกฉีกไปแล้วเลยจำใจต้องไปโซน มารีนปาร์คต่อ (จริงๆ หลังประตูนั้นยังมีสิงโต มีอยู่รึเปล่าไม่แน่ใจนะ แต่คิดว่าใช่แหล่ะ)
ทีนี้ถ้าเราจะไปโซนของ มารีนปาร์ค เราต้องจอดรถที่ลานจอด โครตร้อน !!! ผมไปจอดตอนนั้นก็ประมาณเที่ยงๆ ละ อย่าลืมพกร่มไปด้วยนะครับ
เข้ามาถึงเห็นป้าย Safari word ขอถ่ายเก็บไว้หน่อย
ซึ่งบรรยากาศด้านในจะเป็นร้านค้า ตลอดทาง มีศูนย์อาหาร มีสัตว์ให้ดูตลอดทาง มีคาเฟ่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาาาาาก
นอกจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เราพบกันได้ทั่วไป ยังมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่เริ่มเข้ามาตีตลาดในไทย ก็เป็นสีสันไปอีกแบบ ผมชอบชุดเขานะ ดูมีอารยะดี สมกับมาจากประเทศที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม และเป็นแหล่งอารยธรรมของโลก เอาหล่ะครับสิ่งแรกที่เราตามหาคือ "ข้าวเที่ยง" อย่างหิว !! ซึ่งราคาก็แฟงเป็นปกติหล่ะครับ แต่มีไก่ย่างส้มตำด้วยนะ
[CR] แบกกล้องไปท่องสวนสัตว์เปิดที่ดีที่สุดในประเทศไทย ไม่ต้องไปไหนไกล แค่ในเมืองกรุงฯ ที่ Safari World ~
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้