ส่วนตัวเลยคบกับแฟนมาได้ ปีกว่าเกือบสองปีแล้วครับแยกประเด็นดังนี้ครับ
1. แค่รู้สึกว่าความหวานมันน้อยลง คือผมไม่ได้ต้องการให้หวานมากแต่มันควรเติมให้กันทุกวัน บางทีคุยกันเขาก็ดูเหมือนไม่สนใจหรือข้ามในสิ่งที่ผมพูดหรือ
ถามอยู่ การถามคำถามกลับไปว่า เธออ่านที่ส่งไปไหม สนใจไหมที่พูดไปไหม คำตอบที่ได้มักลงเอยด้วยการที่ผมต้องบอกว่าโอเคเพราะผมเอง ผิดเอง
คิดมากเอง ทั้งๆที่บางทีผมอยากให้เขาใส่ใจ (พอบอกแบบนี้ก็บอกว่าเต็มที่แล้ว) เอาอกเอาใจดูแลบ้าง มากกว่าที่จะบอกว่า อะเธอไปกินข้าวไหนดี ไปเดิน
ไหนกันดี วันครบรอบเรายเดือน รายปียังไม่มีอะไรเลยแค่ส่งติ๊กเกอร์มา
ผมก็เคยบอกเขานะว่า เอออะไรก็แล้วแต่วันที่แบบพิเศษจริงๆก็
อยากให้มันมีโมเม้นบ้าง กลายเป็นให้เขาอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งทุกอย่างเกิดจากคำที่ว่า ไม่ว่าง ไม่มีเวลา ซึ่งผมเข้าใจนะแต่ในขนาดที่ผมก็ยุ่งแต่ผมทุกทางเพื่อที่
จะทำให้เขา คือมันไม่ได้รู้สึกเหนื่อยนะครับแต่บางทีมันน้อยใจ พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมากลายเป็นเขาโกรธ แล้วจะคิดมากไปหลายวันจนเป็นผมเองตรงปรับอารมณ์
ไปง้อเขาแทน
หลังๆมาผมก็พยายามคิดอีกมุมนึงให้อย่าน้อยใจหรือคิดมาก บางทีเคยน้ำตาซึมด้วยอารมณ์แบบ ทำไมไม่เห็นหวานเหมือน
เขาบ้างเลยเจอกันหอมแก้มผมบ้าง เซอร์ไพรส์บ้างทำกับข้าวให้บ้าง นู้นนี้นั้น ไม่มีเลยมีแต่ผมที่ทำให้หมด แต่รักไหมรักครับ เลยอยากถามว่าบางทีผม
ต้องการมากไปหรือเปล่าครับ แล้วจัดการความคิดตรงนี้ยังไง
2. การกระทำทุกอย่างผมรู้ว่าเขาซื่อสัตย์กับผม มีผมคนเดียว แต่บางทีเป็นแฟนกันการบอกรักหรือการแสดงออกว่า เออเรารักนะบ้างมันน่าจะดีมั้ย ไม่ใช่ส่งแต่
ติ๊กเกอร์หรือผมต้องถามก่อนว่ารักไหม คถ ไหมแค่อยากได้ยินบ้าง คือเชื่อไหมครับแค่เขาบอกว่า คถ สั้นๆ วันนั้นผมฟินทั้งวันมีความสุข เคยถามเหมือนกันว่า
พูดบ้างก็ได้ว่ารัก คถ เขาก็บอกแสดงออกไม่เป็น แต่ลึกๆก็รู้แหละว่ารัก แต่ปากแข็งเหลือเกิน ผมควรทำไงดีกับความคิดนี้ครับ
คุณคิดว่าผู้ชายเขาอยากได้ความหวาน อ้อน หรือทำให้เขิลบ้างไหม?