สละอินโด อันนี้ดี ติดใจ อร่อยจริงๆค่ะ หวานกรอบ โลละ 18,900 IDR. 

จ่ายตังค์เสร็จถึงเวลาออกเดินทางไป Ubud ระหว่างทางเจอรถขนถังแก๊สอันนี้ น่ารักดีเลยเก็บภาพมาฝาก 5555 ถังแก๊สบาหลีอย่างน่ารักค่ะ

สีเขียวๆอันน้อยๆ  เปิดใช้สองรอบน่าจะหมดแล้วหรือเปล่า ^___^

ประมาณ 4 โมงเย็น เราถึงที่พัก Check-in เรียบร้อยสำหรับคืนนี้ที่ Anulekha Resort and Villa ย่าน Ubud อากาศที่นี่ต่างกับ Seminyak และ Uluwatu ที่ไปมาเลย 4 โมงเย็นที่ Ubud อากาศอยู่ที่ 20 องศา ถือว่าเย็นเลยทีเดียว สระว่ายน้ำเหร๋อออ ไม่ลงจ้า แค่นี้ก็จะได้อาบน้ำหรือเปล่าเถ๊อะ 5555

เราได้ห้องพักชั้นล่าง บรรยากาศด้านหน้าดูดีทีเดียว

เปิดประตูเข้ามา เห็นภาพนี้เหมือนจะว้าววววววววนะ ..... แต่เอิ่มมมไม่ใช่ นี่แค่มุมเดียวของห้องพัก คือเด่นสุดของห้องมีแค่มุมนี้ ภายในห้องประมาณ 25 ตรม. แต่การจัดห้องของที่นี่ยังไม่ค่อยเป็นสัดส่วน บางมุมคือของเยอะจนแน่น บางมุมคือว่างไม่มีของว่างเลย ในห้องมีปลั๊กไฟให้จุดเดียวนะคะ 

ส่วน zone ห้องน้ำ เปิดมาตูมาก็ว้าววววกับอ่างน้ำขนาดใหญ่นี่ก่อนเลย ตั้งใจว่าคืนนี้จะแช่น้ำอุ่นซะหน่อย ถึงเวลาเอาเข้าจริง อ้าววว แช่ไม่ได้ ตัวปิดเปิดอ่างเสีย และคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นที่ ที่ทุกคนใช้ยืนอาบน้ำกันปกติ ไม่ใช่ส่วนเฉพาะการนอนแช่แต่อย่างใด 

อ้อออ..... และจะบอกว่า ที่พักนี้ไม่มีหัวแปลงให้นะคะ เป็นปลั๊กไฟบ้านเค้าเลยรูกลมๆ (นักท่องเที่ยวพกติดไปก็ดีนะ) แต่เราเองไม่ได้พกไป ทำไงละทีนี้.....!!!!!!!! ไปขอเลยจ้าาา พนักงานเค้าก็ไปหามาให้นะ รอดไป ทั้งกล้อง ทั้งมือถือ นักท่องเที่ยวเข้าใจกันอยู่แล้ว แบตกล้องหมดเหมือนนกปีกหัก 5555

หลังเข้าที่พักเก็บข้าวของเรียบร้อยทางรีสอร์ทมีบริการรถรับส่ง Ubud market ฟรีด้วยนะคะ มีเป็นรอบๆแล้วแต่เราจะเลือกไปกี่โมง กลับกี่โมง 

เอาหล่ะ ขอนั่งรถสบายๆ ไม่ต้องลุ้นแบบตอนขับเอง ไปเดินชิวส์ๆซะหน่อย

Point 3 : Ubud Market.

จากที่พักใช้เวลาเดินทาง 20 นาที ถึง Ubud market อารมณ์จะคล้ายๆถนนคนเดินวัวลาย เชียงใหม่บ้านเราซักหน่อย มีของขายและร้านอาหารตลอดทาง แสงสีตอนกลางคืนทำให้เมืองนี้ดูมีเสน่ห์มากทีเดียว แถมอากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ เดินได้เป็นกิโลๆ ไม่รู้สึกเมื่อยเลย 

สุดท้ายของคืนนี้เราก็ฝากท้องกันไว้ที่ Coco-Supermarket อีกแล้ววว ซึ่งเป็นที่รอรถของรีสอร์ทมารับด้วย ก็ได้เสบียงเครื่องดื่มไปตุนไว้อีกเช่นเคย

Day II

เช้านี้ตื่นมา เราอาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อยพร้อมทานอาหารเช้า จัดการ Check out เพื่อเดินทางไปอีกหลายที่ โดยจุดหมายที่แรกวันนี้ของเราคือน้ำตกจ้า ระหว่างการเดินทาง เราเก็บภาพถนนมาฝากนิดๆหน่อยๆ เผื่อใช้เป็นการตัดสินใจสำหรับใครหลายๆคนที่กำลังลังเลว่าจะเช่ารถขับเองดีไหม  อย่างในภาพถ้าเป็นเมืองไทยมันคือเลนเดียว แต่ Ubud มันคือเลนสวนจ้าา และคนท้องถิ่นเค้าขับกันไวเวอร์ เราต้องคอยหลบนะ ไม่งั้นเฉี่ยวชนจะเสียเวลากันไปทั้งวัน

Point 4 : Tibumana Waterfall.

ที่นี่เสียค่าเข้า 15,000 IDR ต่อคนนะคะ จอดรถและเดินเข้าไปอีกประมาณกิโลนึงจะถึงน้ำตก ช่วงที่เราไปถึงกันมันประมาณ 10 โมงกว่าได้แล้ว นักเท่องเที่ยวเลยเยอะ หามุมถ่ายไม่ให้ติดคนอื่นเลยจะลำบาก ถ้าอยากได้รูปสวยๆ อาร์ตๆ ก็มากันตั้งแต่ เจ็ดโมงเช้าเลยจ้า รับรองได้ภาพที่เป็นเจ้าของน้ำตกนี้แต่เพียงผู้เดียวจริงๆ และต้องบอกว่าของจริงกับรูปภาพมันเทียบกันไม่ได้เลย ของจริงคือดีงาม เย็นช่ำมากกก อีกหนึ่งสถานที่ประทับใจรองจาก Pandawa&Melasti Beach  ของพวกเรา

อ่าจ้าาาา อยากอยู่ในเฟรมด้วย ก็ถ่ายให้ติดมาด้วยเลยก็ได้ 5555 

 

เราใช้เวลาที่น้ำตกกันไม่นานเท่าไหร่เนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมากันเยอะ ยิ่งอยู่นานยิ่งได้ภาพถ่ายกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ 5555 แถม Point ต่อไปของเราคือ ไกลลลล เราเลยต้องออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปคือ Tegalalang Rice Terrace เราเปิด GPS จากน้ำตกไป GPS แนะนำทางได้น่าร้องไห้ม๊ากกก ขึ้นเขาลงเขา ถนนแคบ ทางชัน ถนนพัง รถสวนกัน เอิ่มมมม ตื่นเต้นกันไปทั้งคนขับและคนนั่ง สุดท้ายพอเข้าถนน main หลักได้แถมเจอร้านที่เค้ารีวิวกันเยอะ เราก็จอดรถเลยจ้าาา (ไม่มีในแพลน) แต่จะแวะ 555 ข้อนี้ก็ใช่ ที่เราไม่เลือกเช่ารถพร้อมคนขับ เราเกรงใจเค๊าาา

Point 5 : Teba Sari

รถจอดเยอะ แสดงว่าต้องมีอะไรดี เอ๊าาา...แวะๆๆๆ ไม่หิวหรอก แต่อยากแวะ ร้านสวย บรรยากาศดี สวยๆอย่างเราจะพลาด location ในการถ่ายรูปที่นี่ได้อย่างไร  ^___^  ไหนๆมาแล้วเราก็ต้องสั่งเมนูเค้าสักอย่าง สองอย่าง มีสเต็กปลา และชานม ที่เราเลือกไป รสชาติสเต็กถือว่าอร่อยนะ ส่วนชานมหรอ 5555 ก้ออร่อยมั้ง เราก็คิดว่าเค้าจะชงมาให้มันเข้ากันแล้ว ก็ดูดเลย ที่ไหนได้นมข้นหวานเพียวๆ เอิ่มมม เบาหวานกันไป  อิ่มแล้วถ่ายรูปเสร็จแล้ว จ่ายค่าเสียหาย จริงๆราคาอาหารคือไม่แพง แต่อย่างที่ว่า ถ้าเป็นร้านอาหารดีดีหน่อยในบาหลี ก็จะเจอกับ Service charge 20-22%

Point 5 : Tegalalang Rice Terrace.

นาข้าวขั้นบรรได สิ่งที่ดลใจให้เรามาไกลถึงบาหลี มันต้องเขียวขจี เหมือนป่าอเมซอนแน่ๆ จินตนาการไว้แบบนั้นเลย หลังจากหาที่จอดรถได้ เราซื้อตั๋วเข้าไปในราคา 10,000 IDR ต่อคน เดินไปจนถึงทางลง งง อยู่พักนึงไหนหรอ Bali Swing. จ้าาา มันมีเท่านี้ มันไม่ได้เหมือนป่าอเมซอน และเวลา ณ ตอนนั้นคือบ่ายสองโมงกว่า ร้อนมากกก ไม่มีคนเล่นเลย ไม่มีใครต่อคิว เอ๊าาา ถือว่าได้มาเห็นแล้วละกัน (เราอาจจะมาผิดฤดูท่องเที่ยวหรือเปล่าไม่รุ๊ 555)

เราใช้เวลาเดินวนหาสิ่งที่จินตนาการไว้ว่ามันต้องเขียวขจีเหมือนป่าอเมซอนจนบ่ายสามโมง สุดท้ายก็ไม่เจอ 5555 กลับก้อได้

เสร็จจากนี่เรามุ่งหน้าไปยังที่พักคืนสุดท้ายของทริปนี้ ซึ่งก็อยู่ Ubud เหมือนกัน  เป็นที่พักที่พีคคคคคคคคสุดในทริป  แทบจะเปลี่ยนชื่อทริปนี้เป็น Honeymoon trip เลยก็ว่าได้  ...........  อดใจอีกนิสสสส ขอไปเตรียมรูปก่อน แล้วจะมารีวิวต่อในกระทู้หน้าจ้าา ว่าคือที่ไหนแล้วมันพีคยังไง แต่บอกได้เลยว่าคนที่คิดจะมา Honeymoon ที่นี่ถือว่าเต็ม 10 ดาว