ลองแต่งกลอนเกี้ยวสาว ขอคำชี้แนะจากผู้มีความรู้ครับ

กระทู้คำถาม
...ยอดเอยยอดดวงจิต
คู่ชีวิต ของพี่ ศรีสมร
พี่ต้องมนต์ กลใด ของบังอร
ดั่งไฟฟอน ร้อนรุ่ม เข้าสุมกาย
เจ้าลงเลข เสกยันต์ บทไหนนั้น
จึงผูกพันธ์ ครั่นคราง ไม่ห่างหาย
อีกมนต์ดำ ทำเล่ห์ เสน่ห์พราย
จงมลาย คลายพิษ หมดฤทธา
คงเป็นกรรม นำพา จึงมาพบ
ให้ประสบ ร่วมรัก แน่นักหนา
หรือแสร้งหลอก หยอกพี่ นี้กานดา
นัยนา จงแจ้ง แถลงใจ...
...เขอ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คำสุดท้ายเราว่าใช้คำว่า แถลงไข จะดีกว่า แถลงใจ เพราะต้องการทิ้งบทนี้ไว้เพื่อต้องการคำตอบ ใช้เสียงจัตวาในความฉงนสงสัยจะดีกว่าเสียงสามัญค่ะ

          บทที่สองถ้าจะให้ดี ควรจะขยายวรรคสุดท้ายของบทแรก "ดั่งไฟฟอน ร้อนรุ่ม เข้าสุมกาย" ให้ชัดเจนขึ้น คือเราเร่าเร่ากระสันเขาขนาดไหน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ฟูมฟายกระวนกระวายเฉกโดนทำเสน่ห์ก็มิปาน บทที่สองต้องบอกให้เห็นภาพความร้อนรุ่มกว่านี้ ถ้าจบบทแบบ "จงมลาย คลายพิษ หมดฤทธา" มันดูเหมือนเราหมดความรู้สึกกับเขาแล้วมากกว่า ทำให้ขาดน้ำหนักไปค่ะตรงนี้

          กลบท "มธุรสวาที" ดูจะเป็นลูกเล่นที่ถูกใช้มากที่สุดในกลอนชุดนี้ ยกตัวอย่างเช่นท่อนว่า

"...จึงผูกพันธ์ ครั่นคราง ไม่ห่างหาย
อีกมนต์ดำ ทำเล่(ห์) เสน่ห์พราย
จงมลาย คลายพิษ หมดฤทธา..."

          บางทีการใส่ลูกเล่นมันก็ทำให้กลอนเพราะขึ้นจริงอยู่ แต่ก็ต้องระวังในกรณีที่ทำให้ความหมายไม่ชัดเจน เช่น "ครั่นคราง" ที่อาจจะหมายความว่า ครั่น(เนื้อครั่นตัว)และ(โหยหวนครวญ)คราง ก็เป็นได้ แต่อ่านแล้วก็สะดุดนิดนึงกับคำนี้

           โดยรวมแล้วถือว่ายอดเยี่ยมค่ะ รับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มกระวนกระวายใจอยู่ในที ความรักบางทีก็หอมหวน บางทีก็อบอุ่น เป็นลมพัดเย็นสบาย แต่ไม่ใช่ในคราวที่ความรักต้องห่างกัน ความรักจุดนี้มันร้อนเป็นฟอนไฟ เป็นบ้าราวกับโดนมนตราอะไรบางอย่าง แต่จะให้ดีขึ้นถ้าถ่ายทอดให้เห็นความร้อนมากยิ่ง ๆ ขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่