เนื่องจากเป็นครั้งแรกในการแชร์ประสบการณ์ลง pantip
อาจจะพิมพ์ผิดบ้างถูกบ้างต้องขออภัยไว้ก่อน
จะพยายามเล่าให้สั้นๆ แต่ถ้าต้องการทราบรายละเอียดเพิ่ม สามารถสอบถามได้นะ
*เริ่มจากอาการที่พบ
ก่อนที่จะเป็นแบบปุปปั๊ป มีอาการที่เรารู้สึกผิดปกติไป คือทุกๆเช้าที่บริษัทจะมีการออกกำลังกายก่อนทำงาน แต่จะมีท่าที่ต้องก้มเอาปลายนิ้วมือสองข้างไปแตะปลายเท้า ซึ่งปกติเราสามารถทำได้ แต่ช่วงหลังๆเราก้มแล้วรู้สึกตรึง ก็จะก้มได้แค่ปลายนิ้วยังไม่ถึงหัวเข่าก็รู้สึกเจ็บที่หลัง ก็ไม่ได้เอ๊ะใจ
วันที่เป็นหนัก นั่งทำงานอยู่ที่เก้าอี้ อยู่ๆก็รู้สึกปวดหลังขึ้นมา แบบเจ็บมากจนรู้สึกว่าทนไม่ไหว นั่งก็เจ็บเดินก็เจ็บ ไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงต้องลางานกับหัวหน้าเพื่อไปหาหมอ หมอสอบถามอาการทั่วไป ให้ยามากิน เป็นพวกยาแก้ปวด กลับห้องมาก็นอนไม่หลับ เพราะเคลื่อนไหวร่างกายก็เจ็บที่หลังมาก
ตอนเช้า จึงกลับไปหาหมอให้ตรวจอีกครั้ง บอกหมอว่าปวดมากแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แค่เคลื่อนไหวก็เจ็บ รอบนี้หมอจึงให้ตรวจปัสาวะตรวจเลือด ผลออกมาปกติหมด หมอแนะนำให้ลองไปหาหมอกระดูกเฉพาะทาง จึงให้ที่บ้านพาไปหาหมอกระดูกที่คลินิคใกล้บ้าน
หมอกระดูก ให้นอนหงาย แล้วยกไปเท้าขึ้น ปรากฎว่ายก เท้าข้างซ้ายยกได้นิดเดียวแล้วเจ็บ แต่เท้าขวายกได้แต่ก็ไม่เจ็บหลังเท่าตอนยกเท้าซ้าย หมอให้ไปเอกซเรย์ หมอดูฟิล์มแล้วอธิบายว่า ระยะห่างกระดูกข้อที่ L4 กับ L5 มีช่องว่างน้อยกว่าช่องอื่นๆ หมอฉีดยาให้และให้ยากลับไปกิน กลับบ้านไปให้นอนพักห้ามเคลื่อนตัวประมาณ 2-3 วัน หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การก้มๆเงยๆ ห้ามนั่งนาน หมอบอกว่า เป็นหมอนรองกระดูกอักเสษทับเส้นประสาท
*สาเหตุที่เป็นไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
เพราะเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สำหรับตัวเราคิดว่าเราเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สะสมมา เนื่องจากการยกของหนัก นั่งทำงานนานๆ และชอบนั่งไขว่ห้างทำงาน
*รักษาโดยไปฉีดยากินยากลับหมอกระดูกประมาณ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่หาย
สุดท้ายหมอให้เอาฟิล์มไปโรงพยาบาล และบอกว่าต้องผ่าตัด ตกใจมาก ว่าถึงกลับต้องผ่าตัดเลยหรอ จึงไปโรงพยาบาลพร้อมฟิล์มและได้ให้หมอในโรงพยาบาลดู หมอกระดูกเฉพาะทางบอกว่าถ้าจะผ่านก็ต้องตรวจโดย MRI เพื่อดูว่าหมอนรองกระดูกเราเป็นอย่างไร เราจึงขอตรวจ MRI วันนั้นเลย ผลออกมาหมอนรองระหว่างข้อที่ L4 กับ L5 มีลักษณะย้อนออกมากดทับเส้นประสาท หมอให้เราเลือกเองว่าจะผ่า หรือไม่ผ่า และมีให้ฉีดยา จำไม่ได้ว่ายาที่ต้องฉีดคือยาอะไร แต่มันต้องฉีดเรื่อยๆ มีผลต่อร่างกาย ก็คุยกับหมอถ้าผ่าแล้วจะหาย100%ไหม หมอก็บอกว่าไม่รับรอง เพราะบางคนผ่ารอบเดียวก็ไม่หาย ต้องผ่าซ้ำ จึงกลับไปคิด แต่ก็จองคิวผ่าไว้ ซึ่งคิวผ่าก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ผ่าเมื่อไหร่ เพราะเราใช้สิทธิประกันสังคม แต่ถ้ามีเงินก็สามารถขอผ่าได้เลย ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีเงินและไม่ได้ทำประกันสุขภาพเอาไว้เลย แต่หมอก็ให้เข้ามาทำกายภาพที่โรงพยาบาลเรื่อยๆ
*จะทำอย่างไรต่อ
จึงปรึกษากับเพื่อนที่ทำงานเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์ ได้กำลังใจจากเพื่อนมามากๆๆๆๆ เพื่อนบอกว่าไม่ต้องผ่า เพราะเพื่อนเคยเจอเคสที่เป็นจนเดินไม่ได้แล้วทำการรักษาโดยการทำกายภาพอาการดีขึ้นกลับมาเดินได้ ทำให้เรามีความหวัง หลังจากนั้นก็หาข้อมูลในเวปไซด์ต่างๆ พบอยู่เวปนึ่งเป็นภาพMRI ที่หมอนรองกระดูกย้อนไปทับเส้นประสาทเยอะแต่หายด้วยการไม่ต้องผ่าตัด ทำให้มีความหวังว่าเราต้องหาย นอกจากนั้นก็ดูคลิปในยูทูปวิธีการต่างๆที่พอจะเอามาทำกายภาพได้ด้วยตนเอง เพื่อนช่วยหาที่ทำกายภาพใกล้ๆให้ เราจึงไปทำกายภาพติดต่อกัน เป็นระยะเวลาหนึ่ง(ประมาณ2-3เดือน) อาการก็ดีขึ้น กายภาพที่ไปทำคือเค้าจะใช้เครื่องดึงหลัง นวดด้วยเครื่องอุตราซาว์ และกระตุ้นไฟฟ้า ในบริเวณที่ปวด แต่ทุกๆวัน เช้าและเย็นก็จะทำท่าทางกายภาพตามยูทูป แต่ก็ต้องคอยถามกับนักกายภาพด้วยว่าแต่ละท่าควรไม่ควร เพราะบางท่าที่ทำแล้วเจ็บ พี่เค้าจะไม่แนะนำให้ทำ พี่นักกายภาพแนะนำให้ว่ายน้ำก็ช่วยได้เพราะเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบๆเอวทำให้หลังเราแข็งแรงขึ้น
ปัจจุบันเราอาการดีขึ้นมากๆๆไม่ได้รู้สึกปวดหลังเหมือนแต่ก่อน แต่ยังมีการชาที่เท้าบ้างเวลาที่นั่งนานๆๆ แต่ไม่ได้เป็นบ่อยจะเป็นเฉพาะเวลานั่งนาน
ที่มาแชร์เพราะอยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่เป็นเหมือนเรา
***และอยากให้คนที่ยกของหนัก ยกของไม่ถูกท่า นั่งทำงานในท่าที่ผิด นั่งนานๆ ให้ระวัง ให้ปรับเปลี่ยนท่าที่เหมาะสมที่ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่เป็นแบบเรา
แชร์ประสบการณ์ หมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทช่วงเอว
อาจจะพิมพ์ผิดบ้างถูกบ้างต้องขออภัยไว้ก่อน
จะพยายามเล่าให้สั้นๆ แต่ถ้าต้องการทราบรายละเอียดเพิ่ม สามารถสอบถามได้นะ
*เริ่มจากอาการที่พบ
ก่อนที่จะเป็นแบบปุปปั๊ป มีอาการที่เรารู้สึกผิดปกติไป คือทุกๆเช้าที่บริษัทจะมีการออกกำลังกายก่อนทำงาน แต่จะมีท่าที่ต้องก้มเอาปลายนิ้วมือสองข้างไปแตะปลายเท้า ซึ่งปกติเราสามารถทำได้ แต่ช่วงหลังๆเราก้มแล้วรู้สึกตรึง ก็จะก้มได้แค่ปลายนิ้วยังไม่ถึงหัวเข่าก็รู้สึกเจ็บที่หลัง ก็ไม่ได้เอ๊ะใจ
วันที่เป็นหนัก นั่งทำงานอยู่ที่เก้าอี้ อยู่ๆก็รู้สึกปวดหลังขึ้นมา แบบเจ็บมากจนรู้สึกว่าทนไม่ไหว นั่งก็เจ็บเดินก็เจ็บ ไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงต้องลางานกับหัวหน้าเพื่อไปหาหมอ หมอสอบถามอาการทั่วไป ให้ยามากิน เป็นพวกยาแก้ปวด กลับห้องมาก็นอนไม่หลับ เพราะเคลื่อนไหวร่างกายก็เจ็บที่หลังมาก
ตอนเช้า จึงกลับไปหาหมอให้ตรวจอีกครั้ง บอกหมอว่าปวดมากแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แค่เคลื่อนไหวก็เจ็บ รอบนี้หมอจึงให้ตรวจปัสาวะตรวจเลือด ผลออกมาปกติหมด หมอแนะนำให้ลองไปหาหมอกระดูกเฉพาะทาง จึงให้ที่บ้านพาไปหาหมอกระดูกที่คลินิคใกล้บ้าน
หมอกระดูก ให้นอนหงาย แล้วยกไปเท้าขึ้น ปรากฎว่ายก เท้าข้างซ้ายยกได้นิดเดียวแล้วเจ็บ แต่เท้าขวายกได้แต่ก็ไม่เจ็บหลังเท่าตอนยกเท้าซ้าย หมอให้ไปเอกซเรย์ หมอดูฟิล์มแล้วอธิบายว่า ระยะห่างกระดูกข้อที่ L4 กับ L5 มีช่องว่างน้อยกว่าช่องอื่นๆ หมอฉีดยาให้และให้ยากลับไปกิน กลับบ้านไปให้นอนพักห้ามเคลื่อนตัวประมาณ 2-3 วัน หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การก้มๆเงยๆ ห้ามนั่งนาน หมอบอกว่า เป็นหมอนรองกระดูกอักเสษทับเส้นประสาท
*สาเหตุที่เป็นไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
เพราะเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สำหรับตัวเราคิดว่าเราเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สะสมมา เนื่องจากการยกของหนัก นั่งทำงานนานๆ และชอบนั่งไขว่ห้างทำงาน
*รักษาโดยไปฉีดยากินยากลับหมอกระดูกประมาณ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่หาย
สุดท้ายหมอให้เอาฟิล์มไปโรงพยาบาล และบอกว่าต้องผ่าตัด ตกใจมาก ว่าถึงกลับต้องผ่าตัดเลยหรอ จึงไปโรงพยาบาลพร้อมฟิล์มและได้ให้หมอในโรงพยาบาลดู หมอกระดูกเฉพาะทางบอกว่าถ้าจะผ่านก็ต้องตรวจโดย MRI เพื่อดูว่าหมอนรองกระดูกเราเป็นอย่างไร เราจึงขอตรวจ MRI วันนั้นเลย ผลออกมาหมอนรองระหว่างข้อที่ L4 กับ L5 มีลักษณะย้อนออกมากดทับเส้นประสาท หมอให้เราเลือกเองว่าจะผ่า หรือไม่ผ่า และมีให้ฉีดยา จำไม่ได้ว่ายาที่ต้องฉีดคือยาอะไร แต่มันต้องฉีดเรื่อยๆ มีผลต่อร่างกาย ก็คุยกับหมอถ้าผ่าแล้วจะหาย100%ไหม หมอก็บอกว่าไม่รับรอง เพราะบางคนผ่ารอบเดียวก็ไม่หาย ต้องผ่าซ้ำ จึงกลับไปคิด แต่ก็จองคิวผ่าไว้ ซึ่งคิวผ่าก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ผ่าเมื่อไหร่ เพราะเราใช้สิทธิประกันสังคม แต่ถ้ามีเงินก็สามารถขอผ่าได้เลย ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีเงินและไม่ได้ทำประกันสุขภาพเอาไว้เลย แต่หมอก็ให้เข้ามาทำกายภาพที่โรงพยาบาลเรื่อยๆ
*จะทำอย่างไรต่อ
จึงปรึกษากับเพื่อนที่ทำงานเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์ ได้กำลังใจจากเพื่อนมามากๆๆๆๆ เพื่อนบอกว่าไม่ต้องผ่า เพราะเพื่อนเคยเจอเคสที่เป็นจนเดินไม่ได้แล้วทำการรักษาโดยการทำกายภาพอาการดีขึ้นกลับมาเดินได้ ทำให้เรามีความหวัง หลังจากนั้นก็หาข้อมูลในเวปไซด์ต่างๆ พบอยู่เวปนึ่งเป็นภาพMRI ที่หมอนรองกระดูกย้อนไปทับเส้นประสาทเยอะแต่หายด้วยการไม่ต้องผ่าตัด ทำให้มีความหวังว่าเราต้องหาย นอกจากนั้นก็ดูคลิปในยูทูปวิธีการต่างๆที่พอจะเอามาทำกายภาพได้ด้วยตนเอง เพื่อนช่วยหาที่ทำกายภาพใกล้ๆให้ เราจึงไปทำกายภาพติดต่อกัน เป็นระยะเวลาหนึ่ง(ประมาณ2-3เดือน) อาการก็ดีขึ้น กายภาพที่ไปทำคือเค้าจะใช้เครื่องดึงหลัง นวดด้วยเครื่องอุตราซาว์ และกระตุ้นไฟฟ้า ในบริเวณที่ปวด แต่ทุกๆวัน เช้าและเย็นก็จะทำท่าทางกายภาพตามยูทูป แต่ก็ต้องคอยถามกับนักกายภาพด้วยว่าแต่ละท่าควรไม่ควร เพราะบางท่าที่ทำแล้วเจ็บ พี่เค้าจะไม่แนะนำให้ทำ พี่นักกายภาพแนะนำให้ว่ายน้ำก็ช่วยได้เพราะเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบๆเอวทำให้หลังเราแข็งแรงขึ้น
ปัจจุบันเราอาการดีขึ้นมากๆๆไม่ได้รู้สึกปวดหลังเหมือนแต่ก่อน แต่ยังมีการชาที่เท้าบ้างเวลาที่นั่งนานๆๆ แต่ไม่ได้เป็นบ่อยจะเป็นเฉพาะเวลานั่งนาน
ที่มาแชร์เพราะอยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่เป็นเหมือนเรา
***และอยากให้คนที่ยกของหนัก ยกของไม่ถูกท่า นั่งทำงานในท่าที่ผิด นั่งนานๆ ให้ระวัง ให้ปรับเปลี่ยนท่าที่เหมาะสมที่ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่เป็นแบบเรา