เป็นซีรีส์อีกเรื่องนึงที่นักแสดงเล่นได้ยอดเยี่ยม เทคนิคถ่ายทำดี มีคอนเสปต์ที่น่าสนใจของเนื้อหาคือ

📍- ปัญหาชีวิตคู่และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกครอบครัว

📍- การแปรพักตร์และการวัดใจ (คล้าย The 100 แต่ 100 จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจล้วนๆ ว่าจะเลือกฝ่ายไหน จะทำหรือไม่ทำ)

📍- ทุกฝ่ายมีการละเมิดชีวิตคนบริสุทธิ์ทั้งนั้นเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ฝ่ายก่อการร้าย และฝ่ายรัฐบาลสหรัฐและ CIA สามารถฆ่าประชาชน ฆ่าตำรวจของชาติอื่น และกระทั่งฆ่าคนของตัวเองก็ได้เพื่อให้งานสำเร็จ

📍- บรรดาโคนขุนเอาแต่ใช้อำนาจสั่ง โดยไม่สนใจชีวิตของบรรดาเบี้ย ไม่สนใจว่าตัวเบี้ยจะเป็นหรือตาย หรือจะทำให้ตัวเบี้ยเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ตาม กระทั่งผลกระทบต่อลูกๆและครอบครัวของตัวเบี้ยทหารและตัวเบี้ย CIA จะเสียคนเดือดร้อนก็ไม่ถูกแยแส เต็มที่ก็แค่สร้างภาพต่อหน้าประชาชนยกย่องสรรเสริญทหารผ่านศึกที่รอดกลับมา แล้วก็ไว้อาลัยยกย่องทหารที่ตายไปแล้ว เป้าหมายก็เพื่อปลุกใจให้ประชาชนศรัทธาในชาติตนเอง แล้วก็จะได้มีคนมาสมัครเป็นทหารกันอีก

ทั้งฝ่ายก่อการร้าย ทั้งฝ่ายสหรัฐ มีการหลอกใช้บ้าง กล่อมให้คนทำตามแลกประโยชน์บ้าง ใช้การขู่บ้าง แบล็คเมล์บ้าง เพื่อให้ตัวเบี้ยยอมทำตามคำสั่ง

"นิค โบรดี้" ตัวเอกของเรื่องตัวนึงที่โชคร้ายไปโดนกลุ่มก่อการร้ายจับตัว แล้วก็ได้สัมผัสอุดมการณ์ของกลุ่มก่อการร้ายเลยไปติดแนวคิดมา แล้วชีวิตก็สุดโชคร้ายถึงแม้ถอนตัวจากอุดมการณ์ก่อการร้ายแล้วก็ตาม ยังถูกรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือ

ส่วนตัวเอกสุดที่แสดงที่ได้ดีมากก็คือ "แครี่ แมธิสัน" CIA หญิงที่มีโรคด้านจิตเวช หนักระดับนึงจนกระทบต่อชีวิตการงานและความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เป็นคนมุทะลุดันทุรัง บางงานก็สำเร็จ บางงานก็ล้มเหลวกับเป้าที่วางไว้


จุดอ่อนของเรื่องคือ

⭐- ซีซั่นแรกๆในเนื้อหาของโบรดี้ ก็ถือว่าน่าสนใจน่าติดตาม แต่พอหมดประเด็นนั้นไป ซีซั่นหลังๆเริ่มออกทะเล ไม่มีประเด็นเข้มข้น

⭐- มีบทพูดและเนื้อหาที่ยืดยาด ไม่ใช่สาระจำเป็นต่อเนื้อเรื่อง ปกติผมจะเป็นคนดูหนังแบบเก็บคำพูดทุกเม็ด สีหน้าแววตาที่สื่อออกมาทั้งหมด และฉากทุกฉากที่ปรากฏ เพราะกลัวว่าถ้าพลาดไปจะตกหล่นเนื้อหา แต่กลายเป็นว่าไอ้บทสนทนาและหลายๆซีนของเรื่องมันไม่ต้องมีก็ได้ คนดูสามารถกดเลื่อนข้ามไปก็ได้ ไม่ได้กระทบเนื้อหาอะไรเลย แล้วโดยเฉพาะตั้งแต่ซีซั่น 4 เรื่อยมานี่บทไร้สาระเยอะมาก

⭐- เข้าไม่ถึงวิถีและแนวคิดของชนชาติอื่น วัฒนธรรมและศาสนาอื่น แม้แต่ของที่มันมีอยู่ในสังคมประเทศตัวเอง ก็ทำการบ้านเรื่องนี้มาไม่ค่อยดี นอกจากมีภาษาอาหรับที่เตรียมมาให้นักแสดงพูด แต่เรื่องการเรียกชื่อยังมีผิดๆอยู่ เช่น Abu Nazir ต้องเรียกเต็มๆ เพราะแปลว่า "พ่อของ Nazir" จะเรียก Nazir เฉยๆไม่ได้ มันกลายเป็นชื่อลูก

บุคลิกของผู้ก่อการร้ายก็เป็นไปตามมโนเหมือนหนังฮอลลีวูด ทั้งที่เนื้อหาทั้งเรื่องพุ่งเป้าที่ผู้ก่อการร้าย แต่ไม่ทำการบ้านมาเท่าไหร่ ถ้าทีมสร้างแค่ลองเปิด google หรือดูคลิปที่มีการสู้รบกัน แล้วลองดูว่าพวกนี้แต่งตัวยังไง ทำผมแบบไหน ใช้รถอะไร มีรูปแบบท่าทางเวลายืนปืนยังไง เอาให้มันสมจริง หนังจะสนุกน่าดูกว่านี้

ส่วนนักแสดงทั้งหมดที่แสดงเป็นมุสลิม หรือแสดงเป็นอาหรับ เป็นผู้ก่อการร้ายก็ตาม มันไม่มีนักแสดงอาหรับจริงๆ ก็พอเห็นใจเพราะอเมริกาเองมีคนเชื้อสายอาหรับน้อยมาก มุสลิมในอเมริกาส่วนมากเป็นคนผิวสี ฉะนั้นทีมสร้างเลยต้องไปเอานักแสดงและตัวประกอบที่เป็นคนอินเดีย กับนักแสดงเชื้อสายอิหร่านมาแทน ซึ่งสำหรับผมมันขัดใจ หน้าไม่เหมือนบุคลิกไม่เหมือนแล้วดันไม่ยอมแต่งตัวให้เหมือนอีก


ก็จะมีตัวละครฟาร่า และจาวาดี ซึ่งคนเป็นเชื้อสายอิหร่าน แล้วได้แสดงตรงกับเชื้อชาติของตัวละครในเรื่อง นอกนั้นมันไม่ได้อารมณ์เหมือนที่เราดูข่าว หรือดูคลิปของกลุ่มก่อการร้ายจริงๆ


⭐- ขาดข้อมูลทางการเมืองระหว่างประเทศ และเข้าไม่ถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของโลกมุสลิม รวมถึงข้อมูลและแนวคิดของกลุ่มก่อการร้าย แต่สำหรับคนดูชาวอเมริกันคงไม่ติดใจ เพราะในมโนของคนอเมริกัน ตะวันออกกลางและโลกมุสลิมคือพวกเดียวกันหมด และในมโนคือเป็นบ้านเมืองที่น่ากลัวสำหรับชาวตะวันตก

แต่ผมรับรู้มาจากการสนิทสนมกับกลุ่มพ่อค้านักธุรกิจฝรั่งในซาอุ คูเวต เอมิเรตส์ และได้ติดตามข่าวสารตะวันออกกลางมา 20 กว่าปี

ข้อเท็จจริงคือ

1. ประเทศในคาบสมุทรอาหรับทั้งหมดภักดีและฝักใฝ่อเมริกาอย่างมาก ถึงแม้จะเคร่งครัดศาสนาและอนุรักษ์วัฒนธรรม แต่ผู้คนส่วนมากฝักใฝ่ภักดีต่อตะวันตก เนื่องจากเขาเสพสื่อกันมาแบบนั้น เขากล่อมประชาชนว่าตะวันตกคือมิตรแท้ ส่วนอิหร่านคือศัตรู


2. รัฐบาลชาติอาหรับทั้งหมดหวงแหนสถาบันกษัตริย์อย่างมาก และต่อต้านก่อการร้ายอย่างรุนแรง เพราะกลุ่มก่อการร้ายมีแนวคิดล้มล้างราชวงศ์อาหรับ (ปี 2016 มีเหตุการณ์ ISIS ระเบิดเจ้าหน้าที่ในเมดินาห์) ฉะนั้นถ้าใครมีแนวคิดก่อการร้ายหรือแค่เพียงต่อต้านรัฐบาล โทษคือขังยาวหรือประหารชีวิต แม้แต่นักการศาสนาในกลุ่ม Muslim Brotherhood ที่ต่อต้านรัฐบาลในแบบสันติวิธี ก็ถูกประหารชีวิตและติดคุกหลายคน


3. อิหร่านเกลียดอัลกออิดะฮ์ และ ISIS โดยทั้งซาอุและอิหร่านต่างต่อต้านกลุ่มเหล่านี้ แล้วต่างก็เอามาเหน็บแนมกล่าวหากันไปกันมาว่าอีกฝ่ายหนุนก่อการร้าย ฉะนั้นไม่มีทางที่กลุ่มก่อการร้ายจะไปขอลี้ภัยในอิหร่าน จับได้โดนแขวนคอเหมือนกัน

อิหร่านไม่ได้ปกครองแบบกษัตริย์ แต่ปกครองด้วยระบอบศาสนา มีอิหม่ามเป็นประมุข มีนิกายความเชื่อคนละขั้วกับอาหรับ อาหรับเป็นซุนนี ส่วนอิหร่านเป็นชีอะห์ที่ต้องการโค่นล้มซาอุดิอาระเบีย ส่วนกลุ่มอัลกออิดะห์เป็นซุนนี และกลุ่มก่อการร้ายซุนนีทั้งหมดมีศัตรูคืออิหร่าน (2017 มีเหตุการณ์ ISIS โจมตีกรุงเตหะรานด้วย)


*กลุ่มก่อการร้ายซุนนีเหล่านี้ต่อต้านและเป็นภัยต่อรัฐบาลอาหรับ, อิหร่าน และตุรกี (ตุรกีเคยโดน ISIS โจมตีมาแล้ว และมีรบปะทะกันที่ซีเรียด้วย)*


อิหร่านเองก็มีกลุ่มก่อการร้ายของตนที่สร้างขึ้นมาคือ ฮิสบุลเลาะห์ในเลบานอน เป็นนิกายชีอะห์ (กลุ่มอิสบุลเลาะห์ ปัจจุบันกำลังช่วยเหลือรัฐบาลซีเรีย ปราบปรามฝ่ายกบฏ)

*อิหร่าน Iran (อิริยัน) มีรากศัพท์มาจาก "อารยะ" ชาวอิหร่านมีเชื้อสายมาจากชาว "อารยัน" เหมือนชาวอินเดียผิวขาวหรือชนชั้นปกครอง (เชื้อสายเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะ) เมื่อก่อนเรียกอาณาจักรเปอร์เซีย แต่ยุคหลังด้วยความชาตินิยม จึงตั้งชื่อประเทศอิหร่าน และเปลี่ยนจากศาสนาโซโรแอสเตอร์ มายึดถืออิสลามนิกายชีอะห์ซึ่งต่างจากชาวอาหรับและมุสลิมชาติอื่นๆทั่วโลก*

4. การทรมานนักโทษไม่ใช่วิธีการของกลุ่มก่อการร้าย ต่างจากทหารอเมริกา ซึ่งในเรื่องก็ยอมรับและมีกล่าวถึงคุกกวนตานาโม และคุกอบูคาริบ ซึ่งมีข่าวจริง รัฐบาลยอมรับ มีภาพตามเน็ต แต่หนังไม่ทำซีนเหล่านั้นออกมา

ส่วนฝ่ายตรงข้าม เหตุการณ์จริงในสงครามที่อเมริกาถล่มอิรัก และอัฟกานิสถาน ไม่มีรายงานว่ากลุ่มก่อการร้ายจับเชลยไปทรมาน เพราะเขาไม่ต้องการข้อมูลหรืออะไร มันมีอยู่สองทางปฏิบัติคือ ฆ่าทิ้ง กับจับเป็นตัวประกันไว้ต่อรองหรือเรียกค่าไถ่

การต่อรองคือให้กองทัพที่เข้ามาถอนกำลังออกไป ซึ่งมีเหตุการณ์ที่จีนยอมถอนกำลังออกจากอิรัก ฝ่ายอัลกออิดะฮ์เลยปล่อยตัวประกันจีนกลับบ้าน ซึ่งยุคปัจจุบัน ISIS ก็ใช้วิธีนี้คือ ฆ่าเชลยทิ้ง หรือไม่ก็จับไว้ต่อรอง ถ้าชาติไหนไม่ถอนกำลังก็เชือดคอทิ้ง


สิ่งที่ชอบเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวคือ

ผมจะชอบแนวประเภทเหน็บแนมสังคม เหมือนเพลง "ประเทศกูมี" หรือ "This is America" คือให้ยอมรับความจริงบ้าง ถึงจะโม้นิดหน่อย แต่ก็ไม่ต้องถึงกับอวยชาติตัวเองอย่างเดียว ส่วนใครจะไม่ชอบแนวนี้ก็ไม่ว่ากัน อันนี้ถ้าหนังเรื่องไหนจิกๆชาติตัวเองบ้าง ผมจะชอบเป็นพิเศษ แบบ Spy game อะไรแบบนี้ แต่ถ้ามาอวยอย่างเดียว สไนเปอร์ก็เก่งที่สุด นาวิกเก่งที่สุด ไม่พอล่ะ ต้องแสนดีด้วย มีคุณธรรม เจ้าหน้าที่รัฐซื่อตรง ตำรวจดี กระบวนการยุติธรรมโปร่งใส ทหารไปรบที่ไหนคือฝ่ายถูก มีคุณธรรมมีเมตตา อะไรน้ำเน่าแบบนี้ มาจนจะปี 2020 แล้วก็ยังสร้างภาพแบบนี้อยู่ผมจะรับไม่ค่อยได้

มันก็มีหลายซีนที่สะท้อนสังคมว่า แนวคิดของคนในประเทศก็ค่อนข้างโหดและยอมรับการละเมิดชีวิตคนชาติอื่นได้

ส่วนสิ่งที่ผมรำคาญเป็นการส่วนตัวคือ

👉 - นอกจากจะสร้างมโนผิดๆเหยียดวัฒนธรรมอาหรับแล้ว ก็ยังเหยียดลาตินอเมริกาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะหนังกี่เรื่อง อเมริกาใต้ไม่พ้นต้องเกี่ยวกับแก๊งยาเสพติด บ้านเมืองที่ป่าเถื่อน ไม่รู้ทำไมคนอเมริกันชอบมโนกันแบบนั้น แต่จริงๆมันก็แค่ว่าคนลาตินอเมริกาเขาไม่ค่อยชอบอเมริกาเท่านั้นเอง ขัดแย้งทางการเมืองกับอเมริกามานาน แล้วยิ่งมีหนังออกมาเหยียดเขาอยู่เป็นประจำ เขาก็ยิ่งเกลียดเข้าไปอีก

ครอบครัวผมเคยสัมผัสชีวิตลาตินอเมริกา บ้านเมืองมันไม่ได้ร่ำรวยเหมือนอเมริกาจริงอยู่ แต่มันไม่ใช่แหล่งอันธพาลมาเฟีย หรือแหล่งยาเสพติดอะไรอย่างที่หนังอเมริกาชอบสร้าง ทั้ง breaking bad หรือหนังอาชญากรแทบทุกเรื่องต้องสร้างภาพลาตินอเมริกาให้เถื่อนถ่อยไร้ขื่อไร้แป รองลงมาก็อาหรับกับรัสเซีย

เอาจริงๆคือสังคมมันสงบกว่าอเมริกาซะอีก แล้วก็ไม่มีอาชญากรเยอะปล้นฆ่ากันบ่อยๆแบบในไทยเรา เอาแบบโหดๆที่สุดแล้วก็คือแฟนบอลอเมริกาใต้ชอบตีกันในสนามเท่านั้นเอง จะตายกันก็ตรงนั้นหละ

👉 - การกลบเกลื่อนผลงานเลวร้ายของตนแบบเนียนๆ คือยกเหตุการณ์สมมุติว่าอเมริกาก็ไม่ดีนะ ไปถล่มคนบริสุทธิ์ด้วยโดรน ที่อิรักตาย 82 คน ส่วนที่ปากีไม่กี่คน แต่ข้อเท็จจริงคือ สงครามถล่มอัฟกานิสถาน ประชาชนตาย 3,000 และที่ถล่มอิรักปี 2003 เฉพาะประชาชนตาย 200,000 รวมๆแล้วถึงปี 2006 ทั้งทหารของทุกฝ่ายและพลเรือน ตายกว่า 600,000 แต่ในซีรีส์ไม่พูดถึงเลย ส่วนผลงานของกลุ่มก่อการร้ายที่ปรากฏในอเมริกาจริงๆมีเพียงครั้งเดียว คือเหตุการณ์ 9/11 มีคนตาย 3,000 นอกนั้นไม่ปรากฏ (แต่มันมีหนังแบบนี้มาตลอด แสดงว่าคนอเมริกันคงมีมโนว่าตนเองถูกก่อการร้ายโจมตีมาตลอดรึเปล่า)

👉 - เหยียดอ้อมๆว่าคนที่ต้านอเมริกาคือไม่มีการศึกษา ตัวอย่างตัวละคร "อายัน" ถึงแม้ครอบครัวจะตายเพราะโดรน แต่เป็นคนมีเหตุผลและไม่ต้านอเมริกาเพราะเป็นคนมีการศึกษาเรียนวิทยาลัย นี่แหละมันความคิดชาตินิยมน้ำเน่า ผมจะไม่ชอบความอวยชาติแบบเว่อร์เกิน ไม่ว่าจะคนไทยเราเองหรือชาติไหน ผมดูหนังอังกฤษ หนังฝรั่งเศส กระทั่งหนังรัสเซียแปลอังกฤษ มันไม่ค่อยมีแบบอวยชาติตัวเอง หนังไทยหนังเกาหลีก็ไม่มี เต็มที่ก็หนังประวัติศาสตร์อยุธยา รำถึงบรรพบุรุษอะไรแบบนี้ ผมเห็นด้วยนะ ผมชอบคือมันไม่เว่อร์ไป แต่หนังอเมริกาเขาอาการหนักมาก คือมีมาตลอดจน 2020 ยังไม่หยุดไม่หย่อน

*Stranger things 3 นี่โอ้โหเต็มๆเลย เป็นหนังสัตว์ประหลาดยังอุตส่าห์ไปขุดโซเวียต เอาคนรัสเซียมาเหยียดแบบเนียนๆ


...