‘มือที่สาม’ ปีศาจร้ายทำลายชีวิตคู่ หรือจริงๆ แล้วชีวิตคู่ไม่จำเป็นต้องจบแบบเทพนิยายเสมอไป?



โดย คำ ผกา

16.11.2018

HIGHLIGHTS

ภาพงานแต่งงานของดารา เซเลบริตี้ คือภาพงานแต่งงานของเจ้าหญิงเจ้าชายในฝันของเหล่ามนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเรา อีกทั้งเป็นภาพต้นแบบว่า หากเราแต่งงาน ก็จะพยายามทำอะไรให้ดูคล้ายความเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายในฝันอันจุติมาจากเทพนิยายที่เคยอ่านสมัยยังเด็ก

บุคลิกของ แอฟ คือมงกุฎยอดเพชรของภาพผู้หญิงในอุดมคติ แล้วผู้หญิงที่ชื่อ แมท ก็ช่างจะสมศักดิ์ศรี ‘ตัวอิจฉา’ เพราะเป็นทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับกุลสตรีในอุดมคติ ดราม่าเรื่องนี้จึงเข้มข้นขึ้น และทำให้กองเชียร์นางแก้วช้ำใจยิ่งนัก เพราะนอกจากจะไม่มีซีน ‘ผู้ชายกลับใจ ขอคืนดี’ ดันมีการประกาศว่ากำลังคบหาดูใจกับผู้หญิงอีกคน

การที่เราแต่งงานกับใครสักคน มันไม่ได้แปลว่าเราต้องเป็นหนี้ชีวิตคนนั้นไปจนตายจนไม่อาจมีชีวิตของตนเองได้เลย การแต่งงานไม่ใช่การจดจับจองเป็นเจ้าของชีวิตของกันและกันโดยไร้เงื่อนไข การแต่งงานของคนสองคนควรจะเริ่มต้นจากการนั่งคุยกันให้เข้าใจว่า ชีวิตคู่ของเรานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นนิรันดร


สำหรับฉัน ถ้าเราไม่คิดว่าการแต่งงานหรือชีวิตคู่เท่ากับการจองจำใครสักคนไว้ในชีวิตเราตราบชั่วนิจนิรันดร์ ปรากฏการณ์ ‘มือที่สาม’ ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร

 

________________________________________

ความสนใจของ ‘มวลชน’ ที่ติดตามข่าวดาราคงไม่มีอะไรจะ ‘แซ่บ’ เท่ากับข่าว หย่าร้าง เตียงหัก รักสามเส้า เมียหลวง เมียน้อย ล่าสุดกรณีของ แอฟ สงกรานต์ และ แมท ภีรนีย์

 

ความเดิมจากตอนที่แล้วที่เรายังจำกันได้คือ ข่าวแยกบ้านกันอยู่ระหว่างแอฟกับสงกรานต์ แต่ยังไม่ลงทะเบียนหย่าร้างตามกฎหมาย และเช่นเดียวกัน การตามข่าวดาราก็เหมือนกับการติดตามซีรีส์ของเทพนิยาย อันเริ่มจากความรักของผู้ชายที่หล่อเหลา ฐานะดี กับหญิงสาวแสนดี แสนสวย

 

ภาพงานแต่งงานของดารา เซเลบริตี้ คือภาพงานแต่งงานของเจ้าหญิงเจ้าชายในฝันของเหล่ามนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเรา อีกทั้งเป็นภาพต้นแบบว่า หากเราแต่งงานก็จะพยายามทำอะไรให้ดูคล้ายความเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายในฝันอันจุติมาจากเทพนิยายที่เคยอ่านสมัยยังเด็ก

 

ชีวิตคู่ของคนทั้งคู่ก็ดำเนินตามพล็อตเทพนิยายด้วยการมีลูกที่น่ารัก เติมเต็มภาพ ครอบครัวสวยงามในอุดมคติ พ่อหล่อ แม่สวย ลูกก็บิวตี้ฟูล

 

บุคลิกของแอฟคือมงกุฎยอดเพชรของภาพผู้หญิงในอุดมคติ มีความงามอันหาที่ติไม่ได้ กิริยาวาจาเรียบร้อย งดงาม การศึกษาดี รสนิยมดี มารยาทดี ไม่เคยแต่งตัวโป๊ ไม่เคยลงรองพื้นผิดเบอร์ ไม่เคยพูดจาหยาบคาย (เห็นว่าคำหยาบที่สุดที่เคยพูดคือคำว่า เพ้อเจ้อ) เป็นแม่ที่ดี เป็นภรรยาที่เพียบพร้อม ดังนั้น ในการรับรู้ของ ‘มวลชน’ ที่ติดตามข่าวดารา นิยายเรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า สงกรานต์นั้นคือผู้ชายผู้โชคดีที่ได้นางแก้วไปครอง

 

เมื่อได้นางแก้วไปครองแล้ว สิ่งที่สังคมไทยไปคาดหวังกับ ‘ผัว’ ของนางแก้วคือ ควรทะนุถนอม รักษา เห็นคุณค่า ยกย่อง คำน้อยก็ไม่ควรให้นางแก้วที่ดีขนาดนี้ต้องบอบช้ำ มัวหมอง

 

แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น…

 

จะเกิดอะไรขึ้นเราก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าแอฟกลับไปอยู่บ้านตัวเอง และในความดีงาม เพียบพร้อม กุลสตรี ย่อมไม่ปริปากตำหนิใคร พูดจานิ่งๆ เรียบๆ ชี้แจงทุกอย่าง as a matter of fact ไม่มีดราม่า ไม่มีโวยวาย ไม่ได้เรียกร้องขอความสงสารเห็นใจจากใคร

 

กองเชียร์ทางบ้านก็ได้แต่ส่งกำลังใจ เทความเกลียดชังไปให้ฝ่ายชายเล็กๆ ว่า ไม่มีปัญญารักษานางแก้วเอาไว้ได้ แต่นางแก้วก็คือนางแก้ว ไม่มีใครพรากความสง่างามไปจากเธอได้

 

เธอคือต้นแบบของเรา เราอยากเป็นแบบเธอ เราอยากสวย อยากสง่า อยากนิ่งสงบ อยากเข้มแข็งเด็ดขาดให้ได้อย่างเธอ

 

บ้างก็ภาวนาให้สงกรานต์คิดได้ว่าสูญเสียอะไรไป แล้วอัญเชิญนางแก้วกลับไปเป็นที่เทิดทูนดังเดิม

 

แต่แล้วดราม่าเรื่องนี้ก็เข้มข้นขึ้น เมื่อตัวละครที่ต้องกลายเป็นนางอิจฉาปรากฏตัวขึ้น และมันทำให้กองเชียร์นางแก้วช้ำใจยิ่งนัก เพราะนอกจากจะไม่มีซีน ‘ผู้ชายกลับใจ ขอคืนดี’ ดันมีการประกาศว่ากำลังคบหาดูใจกับผู้หญิงอีกคนที่ชื่อ แมท

 

แล้วผู้หญิงที่ชื่อแมทก็ช่างจะสมศักดิ์ศรี ‘ตัวอิจฉา’ เพราะเป็นทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับ กุลสตรีในอุดมคติ นั่นคือมีความสวยแบบร้ายๆ สวยแบบแรงๆ พูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา เสียงดัง ไม่ระย่อต่อคำถามนักข่าว ไม่ตอบคำถามนักข่าวตามขนบ ไม่พยายามจะเป็น ‘คนดี’ ซึ่งก็ถูกทำให้คนออกมาด่าว่าไร้ยางอายอะไรไปนู่น

 

แมทไม่ออกมาร้องไห้ขอความเห็นใจ แถมยังตอกกลับทุกคนว่า ไม่ต้องห่วง จะเจ็บทีหลัง จะถูกหลอก หรืออะไร รอให้มันเจ็บจริง น้ำตาเช็ดหัวเข่าจริงค่อยว่ากัน ส่วนที่ใครๆ เตือนมาว่าผู้ชายนิสัยไม่ดี ก็ไม่สน เพราะเขาดีกับแมท จบนะ

 

น่าสนใจไปกว่านั้นคือประเด็นเรื่องมือที่สาม

 

เพราะด้านหนึ่งคนก็บอกว่า อ้าว ผัวเมียเขาเลิกกันแล้ว ทีนี้ใครจะไปคบใครใหม่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไปด่าเขาทำไม

 

ส่วนที่ยืนกรานจะด่าก็บอกว่า ถ้าคบหลังจากหย่าร้างก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่เป็นมือที่สาม ไปทำให้ผัวเมียเขาต้องบาดหมาง ถ้าไม่มีเธอคนนี้ผัวเมียเขาก็ไม่เลิกกัน หน้าด้าน รู้ว่าผู้ชายเขามีลูกมีเมียแล้วยังจะไปยุ่งกับเขาอีก

 

จะว่าฉันเป็นคนชั่วก็ได้ ตามชื่อคอลัมน์ว่า Bitch ฉันกลับเห็นว่า มือที่สามคือ Default Mode และไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร

 

บอกตามตรงว่าถ้าไม่มีคนใหม่ บางทีเราก็ไม่กล้าเลิกกับคนเก่าหรอก นึกออกไหม ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ คนจำนวนมาก ‘ทน’ อยู่กับคนที่คบกันอยู่ทั้งๆ ที่ไม่มีความสุข เพราะรู้สึกดีกว่าอยู่คนเดียว บ้างก็อยู่ไปเพราะความเคยชิน จนกระทั่งไปพบเจอกับ ‘บุคคลที่สาม’ หรือ ‘มือที่สาม’

 

ถ้ามือที่สามที่เราเจอมีคุณภาพที่ดีกว่าคนที่เราอยู่ด้วยในปัจจุบันในทุกทาง อยู่ด้วยแล้วมีความสุขกว่า อยู่ด้วยแล้วสบายใจกว่า อยู่ด้วยแล้วสบายกายกว่า อยู่ด้วยมัน ‘ใช่’ มากกว่า

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นมี 2 ทางคือ

มีความกล้าหาญพอที่จะไปบอกเลิกกับแฟนว่า ขอโทษนะ ฉันเจอคนที่ฉันอยากอยู่กับเขามากกว่าเธอ

เป็นคนขี้ขลาดแล้วคบซ้อนไปเรื่อยๆ จนแฟนตัวเองจับได้ แล้วเป็นฝ่ายขอเลิกไปเอง

 

การเข้ามาของมือที่สามยังอาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกทางหนึ่งได้เหมือนกันนั่นคือ พบว่าไม่ได้อยากใช้ชีวิตกับมือที่สาม ไม่ได้อยากคบต่อ แต่การที่มีมือที่สามเข้ามาทำให้เราตระหนักว่า ชีวิตคู่ของเรากับแฟนยังไงก็ไม่รอด ดังนั้นหลังจากลังเลมานาน ก็ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าเลิกกันดีกว่า

 

มือที่สามทำให้เราเลิกกับแฟน แต่เราก็ไม่คบกับมือที่สามต่อ และอาจไปใช้ชีวิตโสดเล่นๆ เย็นๆ ใจจนกว่าจะเจอคนที่รู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตด้วยจริงๆ

 
CREDIT :[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่