สวัสดีค่า
ตามหัวข้อกระทู้เลย วันนี้เราจะมารีวิวการสอบติดรอบแรก (รอบPortfolio)
.. อ้อ แนะนำตัวก่อน ชื่อ มุก นะคะ ตอนนี้กำลังขึ้นชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
____
(มีความเป็นมายังไง ไหนเล่าสิ๊)
เริ่มต้นด้วย ตัวมุกเองเป็น #Dek61 เนอะ แล้วพึ่งมีระบบเข้ามหาลัย 5 รอบแบบนี้ครั้งแรก .. ตื่นเต้นสิคะ
รู้สึกเหมือนในชีวิตจะเป็นรุ่นทดลองอะไรอย่างนี้ตลอดเลย ฮือ TT ตั้งแต่ม.ปลายยันมหาลัย จะหาข้อมูล
อะไรจากปีที่แล้วก็ไม่มี !!! (มันเศร้าตรงนี้) .. แล้วพอเค้าประกาศระบบแบบนี้ออกมา เราก็นั่งศึกษาไปเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราเรียนพิเศษมาตั้งแต่ม.4แล้ว ก็ตั้งใจว่าเอ้อยังไงก็ต้องสอบ GAT PAT 9วิชาสามัญ จนมาสะดุด
ใจที่การรับรอบ1 แบบPortfolio ซึ่งตอนนั้นรีบศึกษาใหญ่เลย เพราะเอาจริงๆแอบกลัวการสอบพวกนั้นอ่า
กลัวยาก กลัวทำไม่ได้ กลัวไม่ติด กลัวไปหม๊ด !!!
_____
(แล้วจากนั้นเตรียมตัวรอบพอร์ตยังไง)
จากนั้นเราก็ดูว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง ซึ่งความฝันตั้งแต่ม.4เลยคือ อยากเป็น ทันตแพทย์ ก็หาข้อมูลรอบแรก
ซึ่งทันตะไม่ค่อยรับรอบแรก ถ้ารับก็เป็นพวกอินเตอร์ สอบBMATที่เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ ซึ่งสกิลอิ้งสำหรับเรา
เป็นอะไรที่ไม่ถนัดเลยมากๆ (แต่ปัจจุบันไม่รู้เป็นไงนะ) ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของอนาคตเลย นั่งดูเว็บรับสมัคร
รอบแรกกับแม่ เจอคณะนึงที่เกณฑ์พอได้อยู่ แต่คณะนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลย นั่นก็คือ วิศวะนั่นเอง ! แต่เป็นสาขา
ที่มีเรียนBiologyด้วยเลยแบบ เอ้อ ลองดู แล้วก็สมัครอีกที่นึงไว้ด้วย คือ แพทย์แผนจีน แต่ทั้งคู่เป็นภาคอินเตอร์ เอาแล้วไง
ตอนนั้นคิดในใจว่าแบบทำไงดีๆ สกิลอังกฤษเราก็มีแค่นี้ แต่ก็ฮึดสู้ ไปดูว่าใช้คะแนนภาษาอังกฤษอะไรก็ไปตามสอบมา
หลายสนาม หมดค่าสอบ+ค่าติว+ค่าหนังสือ ไปเยอะมากๆ ฮ่าๆ TT ..แล้วก็เริ่มทำพอร์ต
____
(แล้วทำพอร์ตยังไงหล่ะ)
บอกก่อนว่า สำหรับน้องๆที่กังวลว่า เหยย ผลงานหนูมีน้อยม๊าก จะได้หรอคะ? สำหรับพี่คือ ผลงานพี่ก็ไม่ได้มีเยอะเลย
ก็มีแข่งละครภาษาอังกฤษ โครงงานวิทย์ จิตอาสาบลาๆ แค่นั้นเอง ซึ่งความเกี่ยวข้องกับคณะที่พี่จะเข้ามีน้อยม๊าก
นั่นแหละ แต่ก็พยายามใส่ผลงานทางวิชาการ รวมทั้งกิจกรรมที่เราเคยทำไปให้ได้เยอะที่สุด (แต่เลือกๆที่ดีๆหน่อยนะ
ไม่ต้องใส่ไปทั้งหมดขนาดนั้น) .. ส่วนตัวพี่ก็อยากให้พอร์ตพี่ออกมาดูดีที่สุด พี่ก็เลยไปขอให้รุ่นน้องที่โรงเรียนมาถ่ายรูป
ให้เพื่อเอาไปทำพอร์ต แต่จริงๆแล้วพอมองย้อนกลับไป พี่คิดว่า จะทำก็ได้แต่ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เรื่องการตกแต่งด้วย
แต่มันก็แล้วแต่คณะ อาจารย์และมหาวิทยาลัย อย่างเพื่อนพี่ตอนไปสัมภาษณ์ด้วยกัน เพื่อนพี่ทำพอร์ตมาแบบธรรมดามากๆ
เหมือนพิมใส่ข้อมูลและรูปไปในโปรแกรมWordเฉยๆ ซึ่งเพื่อนพี่ก็ติดที่นี่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น จงอย่าไปกังวลว่าทำพอร์ตมาไม่สวยเท่าเพื่อน จะไม่ติด อาจารย์จะไม่เลือกเรา **
____
(แล้วตอนไปสัมภาษณ์เป็นยังไง)
พี่ติดสองที่ พี่ก็ไปสัมภาษณ์ตามที่เขานัดมา (ดีนะที่นัดสัมคนละวัน) ทริคก็คือ เตรียมตัว เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เรา
ไปสัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องท่องชื่ออาจารย์ ชื่อตึก ชื่ออธิการนะคะ ตอนแรกพี่ก็ท่องๆตามคนอื่นไป แต่พอไปสัมจริงๆ
อาจารย์ไม่ถามเลยสักที่ แล้วเวลาสัมก็แสดงPassionที่เรามีออกไปให้ได้มากที่สุด เป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ก้าวร้าว บางที่จะมี
คำถามเชิงจิตวิทยา ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของเราล้วนๆจริงๆ
____
(หลังจากติดแล้ว เป็นยังไง)
มุกสมัครสองที่ก็ติดทั้งสองที่เลย เย้ๆ ดีใจมาก ยังจำตอนที่พี่ที่ดูแลโทรมาบอกว่าติด แทบกรี๊ด รีบลงมาบอกป๊ากับม๊า
โมเม้นนั้นคือป๊ากับแม่ร้องไห้เลย แต่เราไม่ร้องสักแอะ งงอยู่เหมือนกันตอนนั้น555 แล้วหลังจากนั้นชีวิตม.6ก็สบายขึ้นสุดๆ
ไม่ต้องเครียดอะไรแล้ว ก็เลยช่วยเพื่อนๆทำการบ้าน ทำงานบลาๆ แต่มันจะมีความกดดันอยู่นิดนึง ตอนที่ครูประกาศว่าเรา
ติดแล้ว เพื่อนก็จะแบบแสดงความยินดี แต่ก็แอบเครียดๆกัน เหมือนเราจะดีใจก็ดีใจไม่สุด เพราะตอนนั้นติดกันอยู่ไม่กี่คนในห้อง
ก็เลยดีใจแบบ ดีใจอยู่ในใจ55555 .. หลังจากนั้น ความดีงามมันอยู่ที่ !! ไม่ต้องไปสอบGAT PAT 9วิชาสามัญแล้วจ้า เหลือแต่
ไปสอบO-NETอย่างเดียว ความจริงสมัครไว้แล้วทั้งหมด แต่ติดหล้ะ ขี้เกียจไปสอบ (ซึ่งมันก็มีข้อเสียอยู่นะ) รวมๆแล้วก็คือ
ติดรอบแรก คือ ฟีลกู๊ดมากๆ ชีวิตแฮปปี้สุดๆ (หรอ)
**
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่มุกตั้งใจออกมาเขียนรีวิวครั้งนี้
ประเด็นสำคัญคือ เราจะมาพูดถึงข้อเสียให้น้องๆเอาไปคิด เอาไปพิจารณากันดูนะคะ !!
ตอนนั้นติดสองที่ พ่อแม่ ครู และเพื่อนๆก็เชียร์อีกที่นึง ซึ่งทั้งแม่และครูบอกว่าเลือกวิศวะน่าจะเหมาะกับเรามากกว่า
ซึ่งเราก็แบบ ว้อท วิศวะไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลยจริงๆ อาจะเป็นเพราะเราชอบวิชาBiology อย่างที่บอกไป และค่อนข้าง
ไม่สนุกกับการเรียนPhysicsด้วยซ้ำ แต่แรงเชียร์จากท่านแม่ก็ตัดสินใจเลือกคณะนั้นไป ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดด้วยว่า เราคงเรียนคณะ
อะไรก็ได้ เหมือนตอนนั้นยังไม่รู้จริงๆว่าชอบอะไรมากที่สุด ทุกวิชาก็เรียนได้ไปหมด แต่แค่ไม่สนุกกับการเรียนPhyเท่านั้นเอง
แล้วก็อยากติดรอบแรกให้มันจบๆไป ไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการสอบที่ยากมาก กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้
ซึ่ง !!!
เป็นความคิดที่ิอยากกลับไปแก้ไขมากที่สุด ถ้าเลือกได้อยากกลับไปลองสอบGAT PAT 9วิชาสมัญดู ไปปเผชิญหน้ากับความกลัว
ของเราตอนนั้น สู้ไปกับมัน ส่วนตัวก็ชอบคณะที่เรียนอยู่ แต่มันไม่สุดอ่ะทุกคน มันไม่ใช่ที่ของเรา การเรียนมหาลัยจะส่งผลกับ
การทำงานของเราในอนาคตค่อนข้างมาก ตอนนี้ก็เครียดๆอยู่เหมือนกันว่าเราจะสนุกกับมันในอนาคตหรือเปล่า
จนตอนนี้ซึ่งปิดเทอมของทางมหาลัยอยู่ มุกได้มีโอกาสไปเรียนเกี่ยวกับการออกแบบกราฟฟิคมา ซึ่งพึ่งค้นพบว่าสนุกกับมันมากๆ
ถึงเหนื่อยยังไงก็รู้สึกตัวเองมีแรงกายแรงใจอยากไปทำTT แต่ตอนม.ปลายก็สนใจพวกวิดิโอ กราฟฟิค รูปอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะมาชอบขนาดนี้ เราชอบเต้นด้วย คิดว่าถ้าไปอยู่คณะที่มีเรียนอะไรแบบนี้ คงสนุกกว่านี้แน่ๆ
แต่ก็พึ่งมารู้ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว เสียใจนะเนี่ย ตอนพิมอยู่ก็เสียใจ!!
โดเรม่อน ขอยืมไทม์แมชชีนนายหน่อย !!!!!
......
ฝากถึงน้องๆรุ่นต่อไป .. ตัดสินใจดีๆ คิดจากตัวเราจริงๆว่าชอบอะไร เป็นไปได้มั้ยถ้าเราจะเรียนต่อในด้านนั้นๆ ปรึกษาและพูดคุย
กับพ่อแม่ดีๆ พยายามค้นหาตัวเองให้ได้มากที่สุด
หวังว่าประสบการณ์ของพี่จะแนะนำอะไรน้องๆได้ไม่มากก็น้อย
สู้ๆนะคะน้องๆ
การสอบเข้ามหาลัยถ้าตั้งใจ อะไรก็ไม่ยากอย่างที่คิดไว้จริงๆ
พี่เป็นกำลังใจให้
Review : สอบติดรอบแรก และแนะนำประสบการณ์ (รอบPortfolio + เป็นรุ่นแรกด้วย) #DEK61
ตามหัวข้อกระทู้เลย วันนี้เราจะมารีวิวการสอบติดรอบแรก (รอบPortfolio)
.. อ้อ แนะนำตัวก่อน ชื่อ มุก นะคะ ตอนนี้กำลังขึ้นชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
____
(มีความเป็นมายังไง ไหนเล่าสิ๊)
เริ่มต้นด้วย ตัวมุกเองเป็น #Dek61 เนอะ แล้วพึ่งมีระบบเข้ามหาลัย 5 รอบแบบนี้ครั้งแรก .. ตื่นเต้นสิคะ
รู้สึกเหมือนในชีวิตจะเป็นรุ่นทดลองอะไรอย่างนี้ตลอดเลย ฮือ TT ตั้งแต่ม.ปลายยันมหาลัย จะหาข้อมูล
อะไรจากปีที่แล้วก็ไม่มี !!! (มันเศร้าตรงนี้) .. แล้วพอเค้าประกาศระบบแบบนี้ออกมา เราก็นั่งศึกษาไปเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราเรียนพิเศษมาตั้งแต่ม.4แล้ว ก็ตั้งใจว่าเอ้อยังไงก็ต้องสอบ GAT PAT 9วิชาสามัญ จนมาสะดุด
ใจที่การรับรอบ1 แบบPortfolio ซึ่งตอนนั้นรีบศึกษาใหญ่เลย เพราะเอาจริงๆแอบกลัวการสอบพวกนั้นอ่า
กลัวยาก กลัวทำไม่ได้ กลัวไม่ติด กลัวไปหม๊ด !!!
_____
(แล้วจากนั้นเตรียมตัวรอบพอร์ตยังไง)
จากนั้นเราก็ดูว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง ซึ่งความฝันตั้งแต่ม.4เลยคือ อยากเป็น ทันตแพทย์ ก็หาข้อมูลรอบแรก
ซึ่งทันตะไม่ค่อยรับรอบแรก ถ้ารับก็เป็นพวกอินเตอร์ สอบBMATที่เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ ซึ่งสกิลอิ้งสำหรับเรา
เป็นอะไรที่ไม่ถนัดเลยมากๆ (แต่ปัจจุบันไม่รู้เป็นไงนะ) ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของอนาคตเลย นั่งดูเว็บรับสมัคร
รอบแรกกับแม่ เจอคณะนึงที่เกณฑ์พอได้อยู่ แต่คณะนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลย นั่นก็คือ วิศวะนั่นเอง ! แต่เป็นสาขา
ที่มีเรียนBiologyด้วยเลยแบบ เอ้อ ลองดู แล้วก็สมัครอีกที่นึงไว้ด้วย คือ แพทย์แผนจีน แต่ทั้งคู่เป็นภาคอินเตอร์ เอาแล้วไง
ตอนนั้นคิดในใจว่าแบบทำไงดีๆ สกิลอังกฤษเราก็มีแค่นี้ แต่ก็ฮึดสู้ ไปดูว่าใช้คะแนนภาษาอังกฤษอะไรก็ไปตามสอบมา
หลายสนาม หมดค่าสอบ+ค่าติว+ค่าหนังสือ ไปเยอะมากๆ ฮ่าๆ TT ..แล้วก็เริ่มทำพอร์ต
____
(แล้วทำพอร์ตยังไงหล่ะ)
บอกก่อนว่า สำหรับน้องๆที่กังวลว่า เหยย ผลงานหนูมีน้อยม๊าก จะได้หรอคะ? สำหรับพี่คือ ผลงานพี่ก็ไม่ได้มีเยอะเลย
ก็มีแข่งละครภาษาอังกฤษ โครงงานวิทย์ จิตอาสาบลาๆ แค่นั้นเอง ซึ่งความเกี่ยวข้องกับคณะที่พี่จะเข้ามีน้อยม๊าก
นั่นแหละ แต่ก็พยายามใส่ผลงานทางวิชาการ รวมทั้งกิจกรรมที่เราเคยทำไปให้ได้เยอะที่สุด (แต่เลือกๆที่ดีๆหน่อยนะ
ไม่ต้องใส่ไปทั้งหมดขนาดนั้น) .. ส่วนตัวพี่ก็อยากให้พอร์ตพี่ออกมาดูดีที่สุด พี่ก็เลยไปขอให้รุ่นน้องที่โรงเรียนมาถ่ายรูป
ให้เพื่อเอาไปทำพอร์ต แต่จริงๆแล้วพอมองย้อนกลับไป พี่คิดว่า จะทำก็ได้แต่ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เรื่องการตกแต่งด้วย
แต่มันก็แล้วแต่คณะ อาจารย์และมหาวิทยาลัย อย่างเพื่อนพี่ตอนไปสัมภาษณ์ด้วยกัน เพื่อนพี่ทำพอร์ตมาแบบธรรมดามากๆ
เหมือนพิมใส่ข้อมูลและรูปไปในโปรแกรมWordเฉยๆ ซึ่งเพื่อนพี่ก็ติดที่นี่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น จงอย่าไปกังวลว่าทำพอร์ตมาไม่สวยเท่าเพื่อน จะไม่ติด อาจารย์จะไม่เลือกเรา **
____
(แล้วตอนไปสัมภาษณ์เป็นยังไง)
พี่ติดสองที่ พี่ก็ไปสัมภาษณ์ตามที่เขานัดมา (ดีนะที่นัดสัมคนละวัน) ทริคก็คือ เตรียมตัว เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เรา
ไปสัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องท่องชื่ออาจารย์ ชื่อตึก ชื่ออธิการนะคะ ตอนแรกพี่ก็ท่องๆตามคนอื่นไป แต่พอไปสัมจริงๆ
อาจารย์ไม่ถามเลยสักที่ แล้วเวลาสัมก็แสดงPassionที่เรามีออกไปให้ได้มากที่สุด เป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ก้าวร้าว บางที่จะมี
คำถามเชิงจิตวิทยา ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของเราล้วนๆจริงๆ
____
(หลังจากติดแล้ว เป็นยังไง)
มุกสมัครสองที่ก็ติดทั้งสองที่เลย เย้ๆ ดีใจมาก ยังจำตอนที่พี่ที่ดูแลโทรมาบอกว่าติด แทบกรี๊ด รีบลงมาบอกป๊ากับม๊า
โมเม้นนั้นคือป๊ากับแม่ร้องไห้เลย แต่เราไม่ร้องสักแอะ งงอยู่เหมือนกันตอนนั้น555 แล้วหลังจากนั้นชีวิตม.6ก็สบายขึ้นสุดๆ
ไม่ต้องเครียดอะไรแล้ว ก็เลยช่วยเพื่อนๆทำการบ้าน ทำงานบลาๆ แต่มันจะมีความกดดันอยู่นิดนึง ตอนที่ครูประกาศว่าเรา
ติดแล้ว เพื่อนก็จะแบบแสดงความยินดี แต่ก็แอบเครียดๆกัน เหมือนเราจะดีใจก็ดีใจไม่สุด เพราะตอนนั้นติดกันอยู่ไม่กี่คนในห้อง
ก็เลยดีใจแบบ ดีใจอยู่ในใจ55555 .. หลังจากนั้น ความดีงามมันอยู่ที่ !! ไม่ต้องไปสอบGAT PAT 9วิชาสามัญแล้วจ้า เหลือแต่
ไปสอบO-NETอย่างเดียว ความจริงสมัครไว้แล้วทั้งหมด แต่ติดหล้ะ ขี้เกียจไปสอบ (ซึ่งมันก็มีข้อเสียอยู่นะ) รวมๆแล้วก็คือ
ติดรอบแรก คือ ฟีลกู๊ดมากๆ ชีวิตแฮปปี้สุดๆ (หรอ)
**
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่มุกตั้งใจออกมาเขียนรีวิวครั้งนี้
ประเด็นสำคัญคือ เราจะมาพูดถึงข้อเสียให้น้องๆเอาไปคิด เอาไปพิจารณากันดูนะคะ !!
ตอนนั้นติดสองที่ พ่อแม่ ครู และเพื่อนๆก็เชียร์อีกที่นึง ซึ่งทั้งแม่และครูบอกว่าเลือกวิศวะน่าจะเหมาะกับเรามากกว่า
ซึ่งเราก็แบบ ว้อท วิศวะไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลยจริงๆ อาจะเป็นเพราะเราชอบวิชาBiology อย่างที่บอกไป และค่อนข้าง
ไม่สนุกกับการเรียนPhysicsด้วยซ้ำ แต่แรงเชียร์จากท่านแม่ก็ตัดสินใจเลือกคณะนั้นไป ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดด้วยว่า เราคงเรียนคณะ
อะไรก็ได้ เหมือนตอนนั้นยังไม่รู้จริงๆว่าชอบอะไรมากที่สุด ทุกวิชาก็เรียนได้ไปหมด แต่แค่ไม่สนุกกับการเรียนPhyเท่านั้นเอง
แล้วก็อยากติดรอบแรกให้มันจบๆไป ไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการสอบที่ยากมาก กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้
ซึ่ง !!!
เป็นความคิดที่ิอยากกลับไปแก้ไขมากที่สุด ถ้าเลือกได้อยากกลับไปลองสอบGAT PAT 9วิชาสมัญดู ไปปเผชิญหน้ากับความกลัว
ของเราตอนนั้น สู้ไปกับมัน ส่วนตัวก็ชอบคณะที่เรียนอยู่ แต่มันไม่สุดอ่ะทุกคน มันไม่ใช่ที่ของเรา การเรียนมหาลัยจะส่งผลกับ
การทำงานของเราในอนาคตค่อนข้างมาก ตอนนี้ก็เครียดๆอยู่เหมือนกันว่าเราจะสนุกกับมันในอนาคตหรือเปล่า
จนตอนนี้ซึ่งปิดเทอมของทางมหาลัยอยู่ มุกได้มีโอกาสไปเรียนเกี่ยวกับการออกแบบกราฟฟิคมา ซึ่งพึ่งค้นพบว่าสนุกกับมันมากๆ
ถึงเหนื่อยยังไงก็รู้สึกตัวเองมีแรงกายแรงใจอยากไปทำTT แต่ตอนม.ปลายก็สนใจพวกวิดิโอ กราฟฟิค รูปอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะมาชอบขนาดนี้ เราชอบเต้นด้วย คิดว่าถ้าไปอยู่คณะที่มีเรียนอะไรแบบนี้ คงสนุกกว่านี้แน่ๆ
แต่ก็พึ่งมารู้ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว เสียใจนะเนี่ย ตอนพิมอยู่ก็เสียใจ!!
โดเรม่อน ขอยืมไทม์แมชชีนนายหน่อย !!!!!
......
ฝากถึงน้องๆรุ่นต่อไป .. ตัดสินใจดีๆ คิดจากตัวเราจริงๆว่าชอบอะไร เป็นไปได้มั้ยถ้าเราจะเรียนต่อในด้านนั้นๆ ปรึกษาและพูดคุย
กับพ่อแม่ดีๆ พยายามค้นหาตัวเองให้ได้มากที่สุด
หวังว่าประสบการณ์ของพี่จะแนะนำอะไรน้องๆได้ไม่มากก็น้อย
สู้ๆนะคะน้องๆ
การสอบเข้ามหาลัยถ้าตั้งใจ อะไรก็ไม่ยากอย่างที่คิดไว้จริงๆ
พี่เป็นกำลังใจให้