เคยมั้ยที่รู้สึกเบื่อการเดินห้างในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไหนจะคนเยอะ ไหนจะเสียเวลาวนหาที่จอดรถ จะกินอาหารก็ต้องเข้าคิว
ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปหาความสงบให้ชีวิตกันหน่อยดีมั้ย ตามเราไปเปลี่ยนที่นอนกันที่ปากช่อง เขาใหญ่ ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เองงงงงงงงง

.........✍️✍️✍️............

พิกัด📌: โรงแรม Hotel Together อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันที่ไปใช้บริการ :เสาร์-อาทิตย์ที่ 22-23 มิถุนายน 2562

..........✍️✍️✍️............

สไลด์โทรศัพท์หาที่พักจนมาเจอที่นี่ ดูแล้วบรรยากาศดีแถมได้คะแนนดี ที่สำคัญราคาไม่แพง แบบนี้ตอบโจทย์สุดๆ จ้า

เช้าวันเสาร์รีบออกเดินทางแต่เช้า แวะเที่ยวและเติมพลังระหว่างทาง ได้เวลาพักผ่อนกันแล้ว งั้นไปเช็คอินเข้าที่พักกันดีกว่า เพียงแค่เลี้ยวรถเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความสงบ ร่มรื่น และความเป็นส่วนตัว ที่จอดรถเป็นสัดส่วนเลือกได้ตามสะดวก
มุมขวานั่นคือประตูทางเข้าไปยังตัวโรงแรม
ใครไปเที่ยวกลับมาดึกๆ หลัง 4 ทุ่มไปแล้ว ก็ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้ามานะจ๊ะ
เมื่อเข้ามาแล้ว มองไปทางขวาจะเจอกับเคานท์เตอร์เช็คอิน ที่นี่เช็คอินได้ตั้งแต่บ่าย 3 นะคะ
เราชอบการตกแต่งของที่นี่ ดูเรียบง่ายและเน้นความเป็นธรรมชาติ ทั้งวัสดุไม้ สนามหญ้า และต้นไม้เขียวๆ รอบๆ ตัวโรงแรม แถมมีวิวภูเขาอีกต่างหาก โอ๊ยยยยยย ฟินนนนนนนนนนนนนน

เผลอแป๊บเดียว คุณสาก็ไปนั่งอยู่ตรงนั้นซะแล้ว ปล่อยให้เราเช็คอินอยู่คนเดียว ฟินเขาล่ะ
 
ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อย ไปสำรวจห้องกันดีกว่าค่ะ เนื่องจากที่นี่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก (แอบถามพนักงานตอนเช็คอิน ทราบว่ามีทั้งหมด 21 ห้อง) และมีเพียง 3 ชั้น จึงไม่มีลิฟท์ ถือว่าช่วยกันลดการใช้พลังงาน แถมได้ออกกำลังขาไปในตัวจ้า
เราจองมาเป็นห้อง Superior Mountain View ห้องอยู่ชั้น 2 ค่ะ
เปิดประตูเข้าไปปุ๊บ รีบพุ่งไปที่หน้าต่างก่อนเลย เราชอบหน้าต่างบานใหญ่ๆ แบบนี้ มันทำให้ห้องดูโล่งและกว้าง ที่สำคัญเห็นวิวได้เต็มๆ ตาแบบนี้เลยจ้า แถมยังมองเห็นรถอีกต่างหาก คนรักรถแบบเราหายห่วงเลย
อีกมุมที่ชอบคือมุมนี้ มีเพียงเฟรมตกแต่งเก๋ๆ 1 ชิ้นบนผนัง เรียบๆ โล่งๆ คูลๆ ดี

ยังคงคอนเซปต์กรีนๆ แม้ในห้องพัก เพิ่มความน่ารักเข้าไปอีก

อ่านกฎกติกากันก่อนสักนิด

มาต่อกันที่ห้องน้ำ แยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยกระจกกั้นครึ่งบาน คนอาบน้ำดุเดือดแบบเรา เอาไม่อยู่จ้า เปียกสิคะ จะเหลือหรอออออ 555
มีสายชำระให้เรียบร้อย

Amenities ครบ
ไดร์เป่าผมมีให้พร้อมค่ะ แรงใช้ได้เลยล่ะ

อ้อ มีน้ำเปล่าให้ 2 ขวดนะคะ แช่อยู่ในตู้เย็น (ขออภัยลืมถ่ายมาค่ะ) ส่วนมื้อเย็นเราออกไปทานใกล้ๆ แถวนั้น เนื่องจากที่โรงแรมไม่มีบริการค่ะ มีบริการมื้อเช้าเท่านั้น ขอตัดภาพมาที่มื้อเช้าเลยนะคะ เวลาเปิดบริการคือ 7.30 - 10.00 ค่ะ ด้วยความหิว เราลงไปตอนห้องอาหารเปิดพอดี ยังไม่มีแขกท่านอื่นลงมา เลยมีโอกาสเก็บภาพมาฝากค่ะ
ห้องอาหารโปร่งสบาย ตกแต่งน่ารักอีกเช่นเคย
หรือใครอยากนั่งรับลมด้านนอก ก็มีมุมสวนให้นั่งสบายๆ เช่นกัน

ไปดูไลน์อาหารกันจ้า
เริ่มจากของหนักกันเลย ในหม้อคือข้าวต้มทรงเครื่อง ใกล้กันคือเครื่องปรุงต่างๆ
ถัดมาเป็นไก่ชุบแป้งทอดค่ะ
ผัดผักรวมสำหรับสาย Healthy ข้างๆ กันคือผัดซีอิ๊วหมูค่ะ
ถัดมาเป็นข้าวผัดกุนเชียง พนักงานแจ้งว่าเป็นเมนู Signature ของที่นี่เลยค่ะ บอกมาขนาดนี้ต้องลองแล้วล่ะ
ผัดเปรี้ยวหวาน (อันนี้ไม่ได้ลองค่ะ) พร้อมข้าวสวยร้อนๆ
ที่ขาดไม่ได้ คือ ไส้กรอก ไข่ดาว และออมเล็ท
มาต่อกันที่อีกหนึ่งมุม มีทั้งเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ขนมปังปิ้ง และผลไม้ อย่างแตงโมและสับปะรดหวานฉ่ำ
ชอบที่ครอบคล้ายๆ มุ้งแบบนี้ ดูเก๋ดี มีนมข้นหวานให้ด้วยนะจ๊ะ ถูกใจเด็กๆ แน่นอน
อุ่นเครื่องเบาๆ ด้วยขนมปังปิ้งทาเนยกับกาแฟร้อนๆ พร้อมฉากหลังเขียวๆ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างดีทีเดียว

ได้เวลาจานหลัก ตักมาลองเกือบครบ และที่ขาดไม่ได้คือข้าวผัดกุนเชียง อร่อยสมกับเป็น Signature จริงๆ ค่ะ แนะนำให้ลองเลย

และอีกเมนูที่เราว่าเด็ดไม่แพ้กัน นั่นคือข้าวต้มทรงเครื่อง ปกติข้าวต้มที่เคยทานตามโรงแรม จะใส่แค่หมูอย่างเดียวหรือมีเห็ดหอมเพิ่มขึ้นมา แต่ที่นี่พิเศษไปกว่านั้นคือใส่เครื่องในมาแบบจัดเต็ม และไม่คาวเลยค่ะ คุณสาติดใจเบิ้ลถึง 2 ถ้วยเลยจ้า

อิ่มพุงกันถ้วนหน้า ได้เวลากลับห้องไปเก็บของและลงมาเช็คเอาท์ เราได้แม็กเน็ทมาเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ
2 วัน 1 คืนกับการเปลี่ยนที่นอนมาพักที่นี่ ถือเป็นการชาร์จพลังอย่างดี ได้พักผ่อนเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แถมราคาไม่แพง แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วจ้า
ฝากอีกหนึ่งช่องทางรับชมรีวิวของเราได้ที่
FB: เที่ยวลงพุง
https://www.facebook.com/tiewlongpoongg