สวัสดีเพื่อนๆกันอีกเช่นเคยครับ หลังจากที่ผมได้ห่างหายกันไปนานจากการรีวิวบทความ วันนี้จะขอมาพูดถึงสมาร์ทโฟนจากค่าย Nokia ในรุ่น Nokia 3.2 สมาร์ทโฟน Android One ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเพรียวแอนดรอยด์ในระดับเริ่มต้น ที่มีราคาเพียง 3,990 บาทเท่านั้น แถมตัวกล่องนั้นก็ยังมีการแถม microSD SandDisk Ultra 16GB มาให้อีกด้วยเช่นกัน!!!

สำหรับภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง Nokia 3.2 , เข็มจิ้มซิม , คู่มือการใช้งาน , ข้อมูลผลิตภัณฑ์และความปลอดภัย , หูฟัง 3.5มม. , สายชาร์จ microUSB , ปลั๊กชาร์จ

DESIGN

ตัวเครื่องของ Nokia 3.2 นั้นจะใช้วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติกชิ้นเดียวในการประกอบตัวเครื่อง จึงทำให้ Nokia 3.2 นั้นดูมีความแน่นหนาทนทานมากกว่าสมาร์ทโฟนที่แยกเฟรมฝาหลังและขอบเครื่องออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด และยังมาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13MP f/2.2 พร้อม LED แฟลช ส่วนตรงกลางเครื่องจะมีโลโก้ Nokia เป็นแนวนอน ที่แหวกแนวจากค่ายอื่นที่วางโลโก้หรือชื่อตนเองเป็นแนวตั้ง

ด้านหน้าของเครื่องเราจะเห็นได้ว่า Nokia 3.2 นั้นมีขอบเครื่องที่หนาพอสมควรทั้ง 4 ด้าน จึงช่วยทำให้มีพื้นที่ในการวางนอ้วพักมือของขอบจอมากขึ้น รวมถึงยังเป็นจกแบบมีติ่งแบบหยดน้ำอยู่ด้านบน ในอัตราส่วน 19:9 จึงทำให้หน้าจอ TFT LCD ขนาด 6.26" ที่มีความละเอียดระดับ HD (720x1520px) ของ Nokia 3.2 นั้นมีขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนที่ใช้หน้าจอ 5.5" ในอัตราส่วน 16:9 หรือ 6" ในอัตราส่วน 18:9 กันเลยทีเดียว พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5MP f/2.2 อยู่ด้านบนตรงติ่งแบบหยดน้ำ

ด้านขวามือของตัวเครื่องนั้นจะประกอบไปด้วย ปุ่มเพิ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ โดยที่ปุ่มพาวเวอร์ของ Nokia 3.2 นั้นมาพร้อมกับไฟ LED แจ้งเตือนสีขาวสีเดียว เปลี่ยนสีเพิ่มเติมไม่ได้นะ

ด้านขวาของตัวเครื่องนั้นมีอีกหนึ่งปุ่มเพิ่มเข้า ซึ่งมีหน้าที่สำหรับการเรียกสั่งงาน Google Assistant แบบรวดเร็วซึ่งการตั้งค่าเดิมของเครื่องนั้นยังไม่สามารถแก้ไข ที่จะเปลี่ยนไปใช้ในการสั่งการอย่างอื่นได้

สำหรับช่องถาดใส่ซิมนั้นสามารถใส่ซิม 2ซิม ได้พร้อมกัน รวมถึงใส่ microSD ได้พร้อมกันในทีเดียวอีกด้วย

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อของ Nokia 3.2 นั้นยังคงใช้ที่ช่องชาร์จแบบ microUSB และด้านล่างนั้นจะมีลำโพงหนึ่งตัว และไมค์อีกหนึ่งตัว ส่วนของด้านบนนั้นจะมี ช่อง 3.5มม สำหรับสายฟังเพลงอีกหนึ่งช่อง และไมค์อีกหนึ่งตัว

SOFTWARE

Android One ที่นำมาใช้งานบน Nokia 3.2 ที่มีสเปคเพียงแค่ Snapdragon 429 RAM 2GB ก็ตามแต่กลับสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลในการใช้งานแอพทั่วไปในชีวิตประจำวันของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นแอพสังคมออนไลน์ต่างๆ หรือแอพดูหนังฟังเพลงก็สามารถใช้งานได้อย่างราบลื่นดี แต่มีข้อสังเกตุอยู่ตรงที่ช่วงการเปิดแอพใช้งานพร้อมกันต่อเนื่องนั้นสามารถทำงานพร้อมกันได้อยู่ประมาณ 3-4แอพ ที่จะไม่ทำให้แอพต้องมารอรีแอพเข้าใหม่

Split Screen หรือ Picture in Picture ยังคงสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี บนการเปิดใช้งานเพียงแอพ 2แอพค้างไว้หรือ 3แอพค้างไว้

และเรื่องที่เหล่าผู้ใช้งานแอนดรอยด์ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆคือ การอัพเดทหลังการขาย. ซึ่งทาง Nokia ที่เลือกใช้งาน Android One นั้นก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ของโลกเพียงไม่กี่แบรนด์ของแอนดรอยด์ที่จัดการเรื่องการอัพเดทของระบบปฎิบัติการณ์ และอัพเดทความปลอดภัยประจำเดือนได้อย่างรวดเร็ว เป็นรองเพียงแค่ Google Pixel และ Essential PH-1 เท่านั้น!!!

BATTERY

ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh บน Nokia 3.2 ที่ทำงานบน Android Pie และใช้งาน SoC ระดับเริ่มต้นเป็น Qualcomm Snapdragon 429 นั้นสามารถทำให้ Nokia 3.2 ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องจนน่าตกใจ ซึ่งจากที่ผมทดลองจาก 100% เหลือ 50% นั้นจะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้งานหน้าจอได้ยาวนานมากถึง 5 ชั่วโมง กับอีก 29นาทีกันเลยทีเดียว หรือประมาณ 5ชม. ครึ่ง แบตพึ่งลดไปเพียงแค่ 50% เท่านั้นเอง จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าการชาร์จในหนึ่งครั้ง สามารถใช้งานไปด้วยและแสตนบายพร้อมกันไปด้วยได้นานถึง 2 วัน

CAMERA

กล้องของ Nokia 3.2 นั้นมาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13MP f/2.2 ทั่วไปไม่ได้ดูโดดเด่นเหมือนสมาร์ทโฟนระดับกลางหรือระดับท็อป แต่พอได้ลองมาใช้งานจริง ผมกับตกใจในการทำงานของ HDR บน Nokia 3.2 เป็นอย่างมาก เพราะทั้งการถ่ายในที่แสงดีและแสงน้อยนั้นกลับทำได้ดีจนหน้าเหลือเชื่อ  ในส่วนของการถ่ายวิดีโอนั้นสามารถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD และ HD 30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเท่านั้น ในส่วนของกันสั่นนั้นไม่มีนะครับ จึงอยู่ที่ความนิ่งของมือที่ถือของแต่ละคน. สำหรับกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 5MP f/2.2 ที่มีโทนสีของภาพออกซีดๆหน่อยอาจจะไม่ถูกใจใครต่หลายคนนัก

โดยโหมดการถ่ายภาพและวิดีโอของ Nokia 3.2 นั้นมีโหมดที่เราส่วนใหญ่ต่างใช้งานกันไม่ว่าจะเป็น Auto Mode, VIdeo, Time Lapse, Panorama, Square, และ Google Lens อีกหนึ่งตัวช่วยในการค้นหาข้อมูลด้วยการใช้กล้องในการส่องหาข้อมูลที่ต้องการรู้จาก Google.

มาชมภาพถ่ายของ Nokia 3.2 กันดีกว่า

Rear Camera - Auto Mode

<img class="img-in-post in-tiny-editor">

REAR CAMERA - PANORAMA

FRONT CAMERA

VIDEO TEST

- ในคลิปอยู่ช่วงระหว่าง 0.55 - 2.16 นาที - 

ขอจบรีวิวกันเพียงเท่านี้และกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับข้อดีข้อเสียของ Nokia 3.2 ในตัวสินค้านั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่า
- กล้องหลังนั้นสามารถถ่ายรูปและวิดีโอออกมาได้ดีสมราคามากๆ แต่กล้องหน้ากลับมีสีที่ซีดจนน่าตกใจทั้งแสงในร่มและกลางแจ้ง  
- แบตเตอรี่ที่อึดจนน่าตกใจ ถึงแม้จะมีความจุดเพียงแค่ 4,000 mAh ก็ตามทีแต่ก็ยังสามารถพา Nokia 3.2 อยู่ได้ยาวนานกว่า 1 วัน
- ด้วยแรมที่มีมาให้เพียงแค่ 2GB นั้นอาจจะพอกับการใช้งานของคนที่ต้องการมือถือ Daily Use ที่ไม่เน้นการเล่นเกม แต่เน้นเล่นแอพสังคมออนไลน์ หรือดูหนังฟังเพลง อ่านบทความต่างๆ
- ไฟการแจ้งเตือนตรงปุ่มพาวเวอร์ มันดูสวยก็จริง แต่ในการใช้งาน มีใครหันข้างดูตัวเครื่องก่อน แล้วค่อยยกมือถือขึ้นมาบ้าง ?