[CR] "สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม ทริปง่ายๆใช้เวลาแค่ครึ่งวัน"

ทริปนี้เราจะออกเดินทางไม่ไกล ใช้เวลาท่องเที่ยวกันแค่ครึ่งวัน ก็ได้เที่ยวกันหลากหลายสถานที่แล้ว
และจังหวัดที่เราจะเดินทางไปในครั้งนี้ ก็คือ จ.สมุทรสาครและสมุทรสงคราม
เราออกเดินทางจากกทม.กันตอน 11โมงใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อเดินทางสู่สะพานสายรุ้ง ชายทะเลกาหลง
จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแรกของการเดินทางในครั้งนี้

สะพานสายรุ้ง ชายทะเลกาหลง อยู่ห่างจากมหาชัยไปไม่ไกล ทางเข้าชายทะเลกาหลงจะต้องผ่านหมู่บ้านกาหลงก่อนซึ่งหมู่บ้านนี้จะประกอบอาชีพทำนาเกลือเป็นหลัก ทำให้ระหว่างทางที่เข้าสู่ชายทะเลกาหลงจะเห็นนาเกลืออยู่เป็นระยะ แต่ทางเข้าสู่ชายทะเลกาหลงจะแคบเป็นบางช่วง ขับรถกันด้วยความระมัดระวังนะ สะพานกาหลงมี 2 สะพาน แต่ตั้งอยู่ใกล้กัน สามารถจอดรถแล้วเดินเชื่อมต่อกันได้
สะพานแรกที่เราจะไปกัน คือ สะพานชายทะเลกาหลง สะพานนี้จะเป็นสะพานปูน ทาสีสันไว้บริเวณขอบปูนทั้ง2ฝั่งสะพาน
บริเวณปลายสะพาน
สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายนกก็สามารถมาถ่ายที่นี่กันได้ มีนกอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ
บรรยากาศรอบๆสะพานกาหลงช่วงน้ำทะเลลง
ห่างจากสะพานกาหลงไปประมาณ 300 เมตร ก็จะเป็น สะพานสายรุ้ง
เดินข้ามสะพานอันนี้ไปเพื่อไปสะพานสายรุ้ง
ทางเดินไปสะพานสายรุ้งจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ด้านขวาของทางเดินจะเป็นป่าชายเลนประกอบด้วยต้นโกงกาง แสม ลำพู เป็นต้น ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ยังคงความเขียวขจีอยู่เป็นอย่างมาก ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นท้องทะเล
ระหว่างทางเดินเข้าสะพานสีรุ้ง มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง ร 9 ตลอดเส้นทาง
ความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนบ้านกาหลง มีทั้งปลาตีนและปูก้ามดาบโผล่มาให้เห็นเป็นระยะ ถือเป็นสีสันของการท่องเที่ยวป่าชายเลนอย่างนึง
เดินเข้าไปไม่ไกลก็จะเห็นสะพานสีรุ้งที่มีนักท่องเที่ยวสลับหมุนเวียนมาถ่ายรูปกันตลอด
สะพานสายรุ้ง สีสันสดใสทอดยาวลงสู่ท้องทะเล
สะพานสายรุ้ง ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.สมุทรสาครเลยก็ว่าได้

ปลาตากแห้งของชาวบ้านบริเวณสะพานสายรุ้ง
ถ่ายรูปกันเสร็จ เรารีบออกเดินทางไปยังจ.สมุทรสงคราม กันเพื่อให้ทันเวลาที่รถไฟจะมาถึงยังตลาดร่มหุบกัน
ตลาดร่มหุบ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ ตี4 ถึง 5 โมงเย็น แต่ช่วงเวลาที่รถไฟจะมาถึงและร่มหุบนั่นมีอยู่ 7 เวลา ได้แก่ 08.30 น. 11.10 น. 14.30 น. (รถไฟมาถึงสถานีแม่กลอง) 06.20 น. 09.00 น. 11.30 น. 15.30 น. (รถไฟออกจากสถานีแม่กลอง)
บรรยากาศภายในตลาดร่มหุบ จะมีของวางขายอยู่บนพื้นริมทางรถไฟให้เห็นกันแบบนี้เลย
ราคาของในตลาดร่มหุบค่อนข้างจะถูก เช่นมะพร้าวลูกนี้ ราคาแค่ 15 บาท
เครื่องเทศต่างๆก็มีขายเป็นถุงกัน เช่นเครื่องต้มยำ น่าจะเน้นขายชาวต่างชาติ
สักรูปกับตลาดร่มหุบแห่งนี้
เดินทะลุตลาดร่มหุบมาก็จะเป็นสถานีรถไฟแม่กลอง ที่คนเยอะมากก
ภายในสถานีมีร้านอาหารหลายร้านเป็นร้านอาหารตามสั่ง มีสมูทตี้ขาย เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะโดยเฉพาะทัวร์จีน
คนแน่นขนาดนี้ เราเลยเดินออกมาหน้าสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายไปเดินเล่นรอเวลารถไฟมา
ไปเจอร้านนึงเห็นคนมุงกันอยู่เราก็เข้าไปดู พบว่าเป็นร้านขายกาลอจี๊
กาลอจี๊ คือขนมที่ใช้ในพิธีไหว้ในเทศกาลต่าง ๆ ของชาวจีน กาลอจี๊ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวกวนกับน้ำจนข้นเติมน้ำร้อน แล้วนำไปนึ่งให้สุก จากนั้นนำไปทอดน้ำมันน้อยให้เหลืองกรอบเมื่อจะรับประทานจึงตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุกด้วยงาและน้ำตาล
ชิมขนมกันแล้วก็ถึงเวลา 14.30น. รถไฟกำลังเข้าสู่ตลาดร่มหุบเพื่อไปยังสถานีแม่กลองแล้ว คนมารอดูร่มหุบกันเยอะมากๆ มาไกลๆนู้นแล้ว
คนเยอะและเบียดกันมาก ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเพราะรถไฟอยู่ใกล้มากๆ
เมื่อรถไฟผ่านตลาดร่มหุบเข้าสู่สถานีแม่กลองแล้ว ผู้คนต่างแยกย้ายกัน เราก็เดินทางไปสถานที่ต่อไปของเราเพื่อไปหากาแฟดื่มคลายร้อนกันที่
ร้านตาลพวา อำเภออัมพวา
ตาลพวา คาเฟ่ท่ามกลางสวนมะพร้าว เมนูอาหาร และเครื่องดื่มส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบจากในสวน รวมถึงมะพร้าวที่ทางร้านปลูกเอง
บรรยากาศภายในร้านนั่งห้อยขาที่สะพาน นอนเปลชิลๆท่ามกลางความร่มรื่นกันไป
กาแฟของทางร้านเป็นกาแฟโบราณที่ใช้น้ำตาลมะพร้าวจากสวนของร้านเอง
ออกจากร้านตาลพวา เราไปต่อกันเลยที่วัดบางกุ้ง วัดชื่อดังของจังหวัดสมุทรสงคราม
โบสถ์ปรกโพธิ์ ค่ายบางกุ้ง เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ อีกทั้งยังทำให้โบสถ์ดูขลังขึ้นด้วย
ภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี หรือหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นที่เคารพบูชา ของคนในท้องถิ่น ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านเลืองลือไกลไปทั่วสารทิศ ทำให้ผู้คน ต่างหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอพรท่านมากมาย
บรรยากาศรอบๆโบสถ์ดูงดงามและขลังมากๆ
ค่ายบางกุ้ง เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้งโดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นที่เคารพบูชาของทหารภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ ร้างไป จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีรวบ รวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่ายจึงมีชื่อเรียก อีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง"
ออกจากวัดบางกุ้งไปเพียง 2 กิโล ไปยัง
ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ อีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนที่มาเที่ยวอัมพวาไปเที่ยวกันเยอะๆ
.
.
.
รอสักครู่เดี๋ยวมาต่อกันที่คอมเม้นถัดไปนะ
ชื่อสินค้า:   สมุทรสาคร
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่