-- ในวิถีของชีวิต ที่พาเราหมุนวน
ในความทุกข์ ความกล้า
ศรัทธาและรัก ไปจนปลายเส้นทาง
กลับสู่ความเป็นนิรันดร์ หมุนย้อนเวียนไป
วิถีของชีวิต --
วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวและจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์แอนิเมชั่น The Lion King โดยคร่าวๆ อ่านเพลินๆกันไป (พอดีเขียนในเพจแล้วอยากมาแชร์ในพันทิปด้วย)
จุดเริ่มต้นคือในปี 1988 ระหว่างที่ดิสนี่ย์กำลังเดินสายโปรโมตแอนิเมชั่นเรื่อง Oliver & Company (เหมียวน้อยโอลิเวอร์กับเพื่อนเกลอ)
เกิดการสนทนาของบุคคล 3 คนสำคัญ คือ "เจฟฟรีย์ แคตเซนเบิร์ก" ซึ่งตอนนั้นเป็นประธานของบริษัทวอล์ท ดิสนี่ย์ , "รอย เอ็ดเวิร์ด ดิสนีย์" ลูกของพี่ชายของวอล์ท ดิสนี่ย์ ตอนนั้นก็เป็นประธานบริหาร และ "ปีเตอร์ ชไนเดอร์" ในระหว่างคุยกัน อยู่ดีๆก็มี topic เกี่ยวกับแอฟริกันเกืดขึ้น ทำให้ เจฟฟรีย์ รับไอเดียนั้นไป และนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาต่อให้กับ รองประธานฝ่ายงานสร้างสรรค์หรือครีเอทีฟของ Walt Disney ในตอนนั้นคือ ''ชาร์ลี ฟิงก์"
เจฟฟรี่ย์ นั้นเพิ่มเรื่องคอนเซปเกี่ยวกับการอยู่และการตาย การเวียนบรรจบของชีวิต ใส่เข้าไปอีกด้วย นั้นคือจุดเริ่มต้นของไอเดีย "Circle of Life" เลยก็ว่าได้ฮ่ะ
คนเขียนบทคนแรกคือ "โทมัส ดิช'' (คนเขียนนิยาย The Brave Little Toaster) ซึ่งชื่อแรกของหนังไม่ใช่ The Lion King แต่เป็น 'King of the Kalahari' และภายหลังเป็น ''ลินดา วูลเวอร์ตัน'' ใช้ชื่อ 'King of the Beasts' และอีกชื่อคือ 'King of the Jungle' ลินดาใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการเขียนบทที่เป็นฉบับร่าง
ซึ่งบทตอนแรกโคตรจะแตกต่างกับตัวหนังที่ออกมาเลยครับ
หนังเป็นเรื่องราวของการต่อสู้ของสิงโตกับลิงบาบูน โดย 'สการ์' รับบทเป็น ผู้นำลิงบาบูน , 'ราฟิกิ' รับบทเป็น เสือชีตาร์ , 'ทีโมนกับพุมบ้า' รับบทเป็นเพื่อนในวัยเด็กของซิมบ้า(เออยังมีส่วนที่เหมือนกับหนังจริงว่ะ)
โดยลักษณะตัวละครซิมบ้าในบทนั้นมีความเป็น coming of age คือขี้เกียจ สกปรก เลอะเทอะ คือเหมือนใส่ความเป็นวัยรุ่นให้ซิมบ้าไปเลยก็ว่าได้มั้ง
เต็งหนึ่งในการกำกับหนังเรื่องนี้คนแรกคือ "จอร์จ สคริปเนอร์" (ผู้กำกับ Oliver & Company) แต่ถัดมา ''โรเจอร์ อัลเลอรส์'' คนเขียนเรื่องราว Beauty and the Beast มาทำหน้าที่กำกับหนัง พร้อมกับ "เบรนด้า แชปแมน" คนเขียนบทหลัก
ในช่วงการเตรียมการสร้าง โรเจอร์ได้พาทีมงานและตัวเขาไปทัวร์ Hell's Gate National Park ที่ประเทศเคนย่า เพื่อศึกษาความเป็นแอฟริกันให้มากขึ้น
ถัดมาอีก จอร์จ สคริปเนอร์ ได้วางมือจากโปรเจกต์นี้ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการที่หนังจะทำเป็นมิวสิเคิล โดยมีการปะทะกันระหว่างจอร์จกับโรเจอร์รวมถึงโปรดิวเซอร์ของเรื่อง เพราะจอร์จเขาอยากจะทำแอนิเมชั่นที่ สมจริงเข้าถึงธรรมชาติของป่าให้มากที่สุดจริงๆ นั้นทำให้ชื่อของ "ร็อบ มินคอฟฟ์" ถูกนำเข้ามาแทนที่ของจอร์จ สคริปเนอร์
"ดอน ฮานน์" เข้ามาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์หลักของหนัง พอฮานน์เข้ามาแกก็จวกยับเรื่องบทเพราะเห็นว่าบทมีความเลื่อนลอยและไม่มีความชัดเจนในเรื่องราว และเขาก็ได้สร้าง concept หลักคือ ""leaving childhood and facing up to the realities of the world" หรือ "การหนีออกจากวัยเด็กและเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริง"
ทั้งสี่คน โรเจอร์ อัลเลอรส์ , ร็อบ มินคอฟฟ์ , เบรนด้า เเชปแมน และดอน ฮานน์ ทำการเขียนสคริปหรือบทใหม่ เปลี่ยนชื่อหนังจาก King of the Jungle เป็น "The Lion King" เพราะแบคกราวของเนื้อเรื่องมันไม่ได้อยู่ในป่า แต่เป็นทุ่งหญ้าสะวันนานั้นเอง แถมยังตัดสินใจให้สการ์กับมูฟาซาเป็นพี่น้องกันเพราะคนเขียนบทรู้สึกว่า การเล่นประเด็นนี้มันน่าสนใน ยิ่งเป็นคนในครอบครัวด้วยยิ่งน่าสนเข้าไปใหญ่
คนเขียนบทยังกล่าวอีกว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจ จากชีวิตของโจเซฟและโมเสสจากคัมภีร์ไบเบิลคริสเตียนและวิลเลี่ยม เชคสเปียร์
ในช่วงซัมเมอร์ปี 1992 ทีมงานยังได้ร่วมงานกับนักเขียนบทอีกสองคน คือ ''ไอรีน เมชิ'' และ ''โจนาธาน โรเบิร์ต'' ซึ่งสองคนนี้ก็มีส่วนสำคัญคือปรับแก้บทในส่วนของอารมณ์ในหนังที่ยังบกพร่อง รวมถึงเพิ่มคาแรกเตอร์ที่มาสร้างสีสันในหนังอย่าง พุมบ้า ทีโมน และพวกเหล่าไฮยีนา
คนแต่งเพลงของเรื่องคือ "ทิม ไรซ์" คนนี้ก็เป็นคนทำงานหนักอย่างมากให้กับหนังโดยเขานั้นต้องบินไปแคลิฟอเนียร์อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งเพื่อพูดคุยกับคนเขียนบทและทำให้งานของเขามีความต่อเนื่องอย่างมากที่สุด ซึ่งในที่สุดบทเพลงของไรซ์ก็ได้นำมาปรับปรุงและสมบูรณ์แบบในที่สุด
นี่คือที่มาคร่าวๆของ The Lion King ซึ่งเป็นช่วงเตรียมการสร้างของหนังเท่านั้น ถ้าว่างๆจะมาเขียนต่อในพาร์ทของการแคสนักแสดงที่มาพากย์บท เจาะลึกในเรื่องของการทำซาวด์และเพลงในหนัง รวมถึงกระแสตอบรับอันดีขาดและความโด่งดังของในหนังในครั้งต่อไปฮ่ะ
(source : wikipedia)
โพส : https://www.facebook.com/Dektitnung/posts/2438024562928231
ติดตามเราได้ที่แฟนเพจเด็กติดหนัง : https://www.facebook.com/Dektitnung
ทวิตเตอร์เด็กติดหนัง : https://twitter.com/dektitnang
ที่มาและจุดเริ่มต้นของ The Lion King
จุดเริ่มต้นคือในปี 1988 ระหว่างที่ดิสนี่ย์กำลังเดินสายโปรโมตแอนิเมชั่นเรื่อง Oliver & Company (เหมียวน้อยโอลิเวอร์กับเพื่อนเกลอ)
เกิดการสนทนาของบุคคล 3 คนสำคัญ คือ "เจฟฟรีย์ แคตเซนเบิร์ก" ซึ่งตอนนั้นเป็นประธานของบริษัทวอล์ท ดิสนี่ย์ , "รอย เอ็ดเวิร์ด ดิสนีย์" ลูกของพี่ชายของวอล์ท ดิสนี่ย์ ตอนนั้นก็เป็นประธานบริหาร และ "ปีเตอร์ ชไนเดอร์" ในระหว่างคุยกัน อยู่ดีๆก็มี topic เกี่ยวกับแอฟริกันเกืดขึ้น ทำให้ เจฟฟรีย์ รับไอเดียนั้นไป และนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาต่อให้กับ รองประธานฝ่ายงานสร้างสรรค์หรือครีเอทีฟของ Walt Disney ในตอนนั้นคือ ''ชาร์ลี ฟิงก์"
เจฟฟรี่ย์ นั้นเพิ่มเรื่องคอนเซปเกี่ยวกับการอยู่และการตาย การเวียนบรรจบของชีวิต ใส่เข้าไปอีกด้วย นั้นคือจุดเริ่มต้นของไอเดีย "Circle of Life" เลยก็ว่าได้ฮ่ะ
คนเขียนบทคนแรกคือ "โทมัส ดิช'' (คนเขียนนิยาย The Brave Little Toaster) ซึ่งชื่อแรกของหนังไม่ใช่ The Lion King แต่เป็น 'King of the Kalahari' และภายหลังเป็น ''ลินดา วูลเวอร์ตัน'' ใช้ชื่อ 'King of the Beasts' และอีกชื่อคือ 'King of the Jungle' ลินดาใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการเขียนบทที่เป็นฉบับร่าง
ซึ่งบทตอนแรกโคตรจะแตกต่างกับตัวหนังที่ออกมาเลยครับ
หนังเป็นเรื่องราวของการต่อสู้ของสิงโตกับลิงบาบูน โดย 'สการ์' รับบทเป็น ผู้นำลิงบาบูน , 'ราฟิกิ' รับบทเป็น เสือชีตาร์ , 'ทีโมนกับพุมบ้า' รับบทเป็นเพื่อนในวัยเด็กของซิมบ้า(เออยังมีส่วนที่เหมือนกับหนังจริงว่ะ)
โดยลักษณะตัวละครซิมบ้าในบทนั้นมีความเป็น coming of age คือขี้เกียจ สกปรก เลอะเทอะ คือเหมือนใส่ความเป็นวัยรุ่นให้ซิมบ้าไปเลยก็ว่าได้มั้ง
เต็งหนึ่งในการกำกับหนังเรื่องนี้คนแรกคือ "จอร์จ สคริปเนอร์" (ผู้กำกับ Oliver & Company) แต่ถัดมา ''โรเจอร์ อัลเลอรส์'' คนเขียนเรื่องราว Beauty and the Beast มาทำหน้าที่กำกับหนัง พร้อมกับ "เบรนด้า แชปแมน" คนเขียนบทหลัก
ในช่วงการเตรียมการสร้าง โรเจอร์ได้พาทีมงานและตัวเขาไปทัวร์ Hell's Gate National Park ที่ประเทศเคนย่า เพื่อศึกษาความเป็นแอฟริกันให้มากขึ้น
ถัดมาอีก จอร์จ สคริปเนอร์ ได้วางมือจากโปรเจกต์นี้ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการที่หนังจะทำเป็นมิวสิเคิล โดยมีการปะทะกันระหว่างจอร์จกับโรเจอร์รวมถึงโปรดิวเซอร์ของเรื่อง เพราะจอร์จเขาอยากจะทำแอนิเมชั่นที่ สมจริงเข้าถึงธรรมชาติของป่าให้มากที่สุดจริงๆ นั้นทำให้ชื่อของ "ร็อบ มินคอฟฟ์" ถูกนำเข้ามาแทนที่ของจอร์จ สคริปเนอร์
"ดอน ฮานน์" เข้ามาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์หลักของหนัง พอฮานน์เข้ามาแกก็จวกยับเรื่องบทเพราะเห็นว่าบทมีความเลื่อนลอยและไม่มีความชัดเจนในเรื่องราว และเขาก็ได้สร้าง concept หลักคือ ""leaving childhood and facing up to the realities of the world" หรือ "การหนีออกจากวัยเด็กและเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริง"
ทั้งสี่คน โรเจอร์ อัลเลอรส์ , ร็อบ มินคอฟฟ์ , เบรนด้า เเชปแมน และดอน ฮานน์ ทำการเขียนสคริปหรือบทใหม่ เปลี่ยนชื่อหนังจาก King of the Jungle เป็น "The Lion King" เพราะแบคกราวของเนื้อเรื่องมันไม่ได้อยู่ในป่า แต่เป็นทุ่งหญ้าสะวันนานั้นเอง แถมยังตัดสินใจให้สการ์กับมูฟาซาเป็นพี่น้องกันเพราะคนเขียนบทรู้สึกว่า การเล่นประเด็นนี้มันน่าสนใน ยิ่งเป็นคนในครอบครัวด้วยยิ่งน่าสนเข้าไปใหญ่
คนเขียนบทยังกล่าวอีกว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจ จากชีวิตของโจเซฟและโมเสสจากคัมภีร์ไบเบิลคริสเตียนและวิลเลี่ยม เชคสเปียร์
ในช่วงซัมเมอร์ปี 1992 ทีมงานยังได้ร่วมงานกับนักเขียนบทอีกสองคน คือ ''ไอรีน เมชิ'' และ ''โจนาธาน โรเบิร์ต'' ซึ่งสองคนนี้ก็มีส่วนสำคัญคือปรับแก้บทในส่วนของอารมณ์ในหนังที่ยังบกพร่อง รวมถึงเพิ่มคาแรกเตอร์ที่มาสร้างสีสันในหนังอย่าง พุมบ้า ทีโมน และพวกเหล่าไฮยีนา
คนแต่งเพลงของเรื่องคือ "ทิม ไรซ์" คนนี้ก็เป็นคนทำงานหนักอย่างมากให้กับหนังโดยเขานั้นต้องบินไปแคลิฟอเนียร์อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งเพื่อพูดคุยกับคนเขียนบทและทำให้งานของเขามีความต่อเนื่องอย่างมากที่สุด ซึ่งในที่สุดบทเพลงของไรซ์ก็ได้นำมาปรับปรุงและสมบูรณ์แบบในที่สุด
นี่คือที่มาคร่าวๆของ The Lion King ซึ่งเป็นช่วงเตรียมการสร้างของหนังเท่านั้น ถ้าว่างๆจะมาเขียนต่อในพาร์ทของการแคสนักแสดงที่มาพากย์บท เจาะลึกในเรื่องของการทำซาวด์และเพลงในหนัง รวมถึงกระแสตอบรับอันดีขาดและความโด่งดังของในหนังในครั้งต่อไปฮ่ะ
(source : wikipedia)
โพส : https://www.facebook.com/Dektitnung/posts/2438024562928231
ติดตามเราได้ที่แฟนเพจเด็กติดหนัง : https://www.facebook.com/Dektitnung
ทวิตเตอร์เด็กติดหนัง : https://twitter.com/dektitnang