ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าสภาพสังคมใน กทม. และโดยทั่วๆไป ไม่เหมือนสังคมไทยในสมัยก่อน ที่ชาวไทยเราไปวัดไปวา ทุกๆวันพระ
และแหล่งอบายมุขต่างๆก็ไม่มีมากเท่าในปัจจุบัน เมื่อเทียบตามส่วนประชากรต่อจำนวนแหล่งอบายมุขในรูปแบบต่างๆในสังคมปัจจุบันนี้
ทั้งนี้เป็นผลมาจากที่ผู้คนในปัจจุบัน
ผู้ที่คิดว่าเขาใช้สติปัญญามากกว่าอารมณ์ และไม่สนใจเงื่อนไขทางศาสนาคือหลักปฏิบัติที่
ต้องห้าม5 ประการมาใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะในการครองเรือน วัยรุ่น หรือหนุ่มสาวจะมีการสัมพันธ์ทางเพศก่อนการสมรสมากขึ้น มีความรักต่างศาสนามากขึ้น โดยเฉพาะ
ระหว่างชายหญิงมุสลิม กับ พุทธศาสนิกชนชายหญิง ซึ่งเป็นเรื่องของอารมณ์ตามธรรมชาติ เกิดความรักกัน เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ุ หญิงชายอยู่
ใกล้กันจึงชอบพอกัน
เมื่อเกิดความรักต่างศาสนาเกิดขึ้นเช่นนี้ เราไม่อาจจะโทษว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเห็นแก่ตัว หรือ ไม่ใช้สติปัญญาในการ
ครองเรือนร่วมกัน แต่เป็นการใช้อารมณ์และเงื่อนไขทางศาสนา มาเป็นอุปสรรคต่อการครองเรือน
ส่วนมากแล้วการแต่งงานระหว่าง หญิงและชายที่ต่างศาสนานี้ ชายหญิงที่ไม่ใช่มุสลิมจะต้องเข้ารับศาสนาอิสลามด้วยความจำใจเพื่อความ
รักไม่ใช่ด้วยความศรัทธา แต่ชายหญิงมุสลิมส่วนมากไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า เกิดจากการรักษาวินัยทางศาสนา ที่บัง
คับให้มุสลิมต้องแต่งงานกับมุสลิมเท่านั้น และในครอบครัวของหญิงชาย ที่ไม่ใช่มุสลิมก็เช่นกัน มีไม่น้อยที่ ที่เขารักษาวินัยทางศาสนาของ
เขา ไม่ยอมหรือไม่ต้องการให้ลูกสาวหรือลูกชายเปลี่ยนเป็นมุสลิม เหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่า เขาไม่ใช้สติปัญญาปรับไปตามสังคมปัจจุบัน
(ที่หย่อนหลักศีลธรรมในการครองเรือน) แต่เป็นเพราะเขามีสติปัญญาไม่งมงายกับความรู้สึกว่าตัวเอง ฉลาดจนเห็นว่า ศาสนาเป็นเรื่องของคน
โบราณ
สติและปัญญาเป็นหลักสำคัญ ในทุกๆศาสนา: สติเป็นอารมณ์ที่รับผิดชอบการกระทำของเรา ปัญญาเป็นเหตุผลในการนึกคิดหลังจากที่เรา
เกิดสติ ทำให้การกระทำของเราจะแสดงออกมา ในการแก้ไขปัญาด้วยเหคุผลที่ถูกต้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในสังคมปัจจุบันไม่ว่าผู้คนจะเรียนรู้มีความฉลาดเฉลียวมากเท่าใดก็ตาม ไม่ว่าความฉลาดจะทำให้สังคมเจริญก้าวหน้ามากเท่าใดก็ตาม
เราจะต้องมีสติเสมอ อย่าให้ความฉลาด ของเรากลายเป็นความงมงาย จนมองเห็นหลักธรรมะเป็นเรื่องของความล้าหลัง และเป็น
เรื่องของคนโบราณ โดยที่เราไม่ใช้สตินึกคิดเปรียบเทียบว่าในปัจจุบันสังคมของเรามีความเจริญทางธรรมะมากน้อยเท่าใด
"จงอย่าเป็นคนฉลาดอย่างงมงายในเรื่องการเลือกคู่ครอง"
และแหล่งอบายมุขต่างๆก็ไม่มีมากเท่าในปัจจุบัน เมื่อเทียบตามส่วนประชากรต่อจำนวนแหล่งอบายมุขในรูปแบบต่างๆในสังคมปัจจุบันนี้
ทั้งนี้เป็นผลมาจากที่ผู้คนในปัจจุบัน ผู้ที่คิดว่าเขาใช้สติปัญญามากกว่าอารมณ์ และไม่สนใจเงื่อนไขทางศาสนาคือหลักปฏิบัติที่
ต้องห้าม5 ประการมาใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะในการครองเรือน วัยรุ่น หรือหนุ่มสาวจะมีการสัมพันธ์ทางเพศก่อนการสมรสมากขึ้น มีความรักต่างศาสนามากขึ้น โดยเฉพาะ
ระหว่างชายหญิงมุสลิม กับ พุทธศาสนิกชนชายหญิง ซึ่งเป็นเรื่องของอารมณ์ตามธรรมชาติ เกิดความรักกัน เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ุ หญิงชายอยู่
ใกล้กันจึงชอบพอกัน เมื่อเกิดความรักต่างศาสนาเกิดขึ้นเช่นนี้ เราไม่อาจจะโทษว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเห็นแก่ตัว หรือ ไม่ใช้สติปัญญาในการ
ครองเรือนร่วมกัน แต่เป็นการใช้อารมณ์และเงื่อนไขทางศาสนา มาเป็นอุปสรรคต่อการครองเรือน
ส่วนมากแล้วการแต่งงานระหว่าง หญิงและชายที่ต่างศาสนานี้ ชายหญิงที่ไม่ใช่มุสลิมจะต้องเข้ารับศาสนาอิสลามด้วยความจำใจเพื่อความ
รักไม่ใช่ด้วยความศรัทธา แต่ชายหญิงมุสลิมส่วนมากไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า เกิดจากการรักษาวินัยทางศาสนา ที่บัง
คับให้มุสลิมต้องแต่งงานกับมุสลิมเท่านั้น และในครอบครัวของหญิงชาย ที่ไม่ใช่มุสลิมก็เช่นกัน มีไม่น้อยที่ ที่เขารักษาวินัยทางศาสนาของ
เขา ไม่ยอมหรือไม่ต้องการให้ลูกสาวหรือลูกชายเปลี่ยนเป็นมุสลิม เหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่า เขาไม่ใช้สติปัญญาปรับไปตามสังคมปัจจุบัน
(ที่หย่อนหลักศีลธรรมในการครองเรือน) แต่เป็นเพราะเขามีสติปัญญาไม่งมงายกับความรู้สึกว่าตัวเอง ฉลาดจนเห็นว่า ศาสนาเป็นเรื่องของคน
โบราณ
สติและปัญญาเป็นหลักสำคัญ ในทุกๆศาสนา: สติเป็นอารมณ์ที่รับผิดชอบการกระทำของเรา ปัญญาเป็นเหตุผลในการนึกคิดหลังจากที่เรา
เกิดสติ ทำให้การกระทำของเราจะแสดงออกมา ในการแก้ไขปัญาด้วยเหคุผลที่ถูกต้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในสังคมปัจจุบันไม่ว่าผู้คนจะเรียนรู้มีความฉลาดเฉลียวมากเท่าใดก็ตาม ไม่ว่าความฉลาดจะทำให้สังคมเจริญก้าวหน้ามากเท่าใดก็ตาม
เราจะต้องมีสติเสมอ อย่าให้ความฉลาด ของเรากลายเป็นความงมงาย จนมองเห็นหลักธรรมะเป็นเรื่องของความล้าหลัง และเป็น
เรื่องของคนโบราณ โดยที่เราไม่ใช้สตินึกคิดเปรียบเทียบว่าในปัจจุบันสังคมของเรามีความเจริญทางธรรมะมากน้อยเท่าใด