รีวิว
Xiaomi Mi 9 SE
น้อง Mi 9 ที่เราช๊อบชอบบบ

หลังจากที่เราได้แกะกล่องไปก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้ก็ได้เวล่ำเวลารีวิวกันสักทีหลังจากใช้มานานแล้ว ตั้งแต่เครื่องมาถึงมือจนมีการอัพเดทมาเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก่อนที่จะเปิดตัว จนเปิดตัวใน Lazada แบบเงียบ ๆ ก็ได้เวลาเรารีวิวจริงจัง ไปอ่านกันเลยจร้า
(ทุกอย่างผมสรุปหลังจากใช้งาน ผมใช้งานเป็นแบบไหนก็จะบอกแบบนั้น ไม่ต้องกลัวอวย เพราะยืมเครื่องมารีวิว ไม่ได้รับเงินจากการีวิวจร้า แฮร่)

วีดีโอรีวิวสำหรับคนไม่ชอบอ่านจร้า แต่อยากให้อ่านด้วยนะ

มาให้ดูรูปทรงกันอีกสักหน่อย เผื่อใครอาจจะไม่ได้ดูคลิปแกะกล่อง หรือถ้าอยากดูไปที่ (Youtube: RESdevCH) ได้เลย สำหรับเครื่องนี้ก็เป็นเครื่องเล็ก ๆ จับถนัดมือมาก พอดีทั้งมือผู้ชายและผู้หญิง ผมว่าน่าจะเป็นรุ่น Pocket อีกรุ่นนึงที่เหมาะแก่การพกพาอย่างมาก สำหรับคนที่ไม่ชอบเครื่องใหญ่มาก ๆ 
วัสดุก็ดูหรูหราเวลาจับ ด้านหลังเป็นกระจกระดับสะท้อนหน้าได้เลย (สามารถใช้กล้องหลังถ่ายตัวเองได้เลย ไม่ต้องมีจอที่ 2 ฮ่า ๆ แต่ต้องถอดเคสนะ) กระจกโค้งมนไม่บาดมือแน่นอน
ตัวนี้ยังมีติ่งนะครับเป็นหยดน้ำสวยงามดีจัง แต่มีข้อดีคือขอบล่างบางลงแล้ว คือมองแล้วเต็มตาดีสำหรับจอตัวนี้

พอ ๆ มาสรุปรายเรื่องเลยดีกว่า
ว่าดีตรงไหน ไม่ดีอย่างไร

การถ่ายภาพ
กล้องหน้า
ความละเอียด 20 MP ถามว่าดีไหม ผมก็จะตอบว่าตามราคาของยี่ห้อนี้ (เกินราคา) และบอกเลยว่าตอนซื้อเครื่องมาควรปิดโหมด Beauty หรือปรับเป็น 1 พอนะครับ ไม่งั้นหน้าคุณ ๆ จะฟุ้งงง นวลแบบไร้ธรรมชาติสิ้นดี (หรือผมไม่ชอบหว่า 5555) กล้องหน้าโหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี ตัดขอบได้โอเค (สำหรับถ่ายรูปตัวแบบที่อยู่ห่างจากฉากหลังพอสมควร)
กล้องหลัง
ความละเอียด 48MP + 13 + 8MP มีเลนส์ Ultra wide มาให้ด้วยนะครับ สำหรับกล้องของตัวนี้ ความรู้สึกว่าผมมันดีมากครับ ถ้าเทียบกับ Mi 8 Pro ผมชอบ 9 SE มากกว่าครับ อาจจะเพราะลูกเล่นที่มากกว่าด้วย (Ultra wide) การถ่ายแบบปกติทำงานได้ดี เปิด Auto AI Scene ยกมาถ่าย ได้ภาพสวยงาม และอัพเดทล่าสุดได้ย้ายการถ่ายภาพ 48MP ออกมาเพิ่มเป็นโหมด ๆ หนึ่งในหน้าแอพกล้องแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้จะไปฝังอยู่ในโหมด Pro อย่างเดียว การทำงานของมันก็เหมือนในโหมดโปรแต่แค่ทุกอย่างมันจัดการ Auto ไม่ต้องปรับเองเหมือนใน Pro กล้องหลังโหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี ตัดขอบได้โอเค (สำหรับถ่ายรูปตัวแบบที่อยู่ห่างจากฉากหลังพอสมควร)
ข้อสังเกตของกล้อง
ถ้าหากถ่ายภาพในโหมด Pro แบบตั้ง Speed Shutter เยอะ ๆ (หลาย ๆ วินาที) ถ่ายบ่อย ๆ มีช่วงแอพกล้องไม่สามารถเชื่อต่อกับตัวกล้องได้ จอดำ ๆ ต้องปิดแล้วเปิดแอพกล้องใหม่ (แต่ผมถ่ายหลายภาพมาก ๆ 5555 คนถ่ายโหมดปกติไม่มีปัญหา)
วีดีโอ
ถ่ายได้สูงสุดที่ 4K 30fps แต่เนื่องจากผมสนใจแต่การถ่ายที่ 1080P มากกว่าโดยที่สูงสุดได้แค่ 1080P 30fps ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะได้ 60fps ได้แล้ว แง่ ๆ ๆ แตว่าน่าจะมีอัพเดทตามมาภายหลัง ก็ค่อย ๆ ดูกันไปครับผม การถ่ายวีดีโอเคเลย มีกันสั่น EIS ให้ด้วยแหละ แล้วที่สำคัญอีกอย่างคือ ถ่ายวีดีโอด้วยโหมด Ultra wide ได้ด้วย เชรดดด กว้างซะใจเลย
ข้อสังเกตการถ่ายวีดีโอ
การถ่ายวีดีโอกลางคืนแบบเปิด EIS ทำให้ภาพสั่นกระเทือน ในขณะผมเดินถ่าย ไม่รู้เดินลงเท้าหนักไปหรือเปล่า ซึ่งถ้ามีแสงพอจะไม่เกินเหตุนี้เลย

เซ็นเซอร์
มือถือตัวนี้มี Sensor มาให้ครบ มีเข็มทิศพร้อม ทุกคนสบายใจได้ ส่วน GPS เป็นแบบตัวเดียว ไม่ใช่ Dual GPS เหมือน Mi 8 นะครับ ส่วน Sensor อื่น ๆ ก็ตอบสนองได้ดี รู้สึกว่า Proximity Sensor (หรือปิดจอตอนคุยโทรศัพท์แนบหูนั่นแหละ) ถือว่าตอบสนองได้ดี และ Light Sensor (วัดแสงเพื่อปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ) ถือว่าตัวนี้ทำได้ดี 
สีหน้าจอ
สำหรับจอ Mi 9 SE เป็น Super AMOLED ให้สีสันสวยสดงดงามเลยทีเดียว ถึงสีจะสดแต่ไม่ได้สดจนบาดหูตาแตก ดูวีดีโอ หรือเล่นเกมนี่แจ่มเลย 
สแกนนิ้ว
Mi 9 SE ตัวนี้ได้สแกนนิ้วบนหน้าจอตามพี่ใหญ่ Mi 9 คือมันทันสมัยดีเนาะ (แต่เชื่อเถอะทุกคนไม่ได้ชอบ ลองอ่านเพิ่มในข้อสังเกต) ถามว่ามันดีไหม ถ้าวางตรงตำแหน่งรวดเร็วแน่นอนครับ มี Animation สวย ๆ ให้เปลี่ยนเล่นด้วย ตอนเอานิ้ววางสแกน
ข้อสังเกต
เนื่องจากว่าผมใช้ Mi 8 Pro อยู่ ซึ่งมีสแกนลายนิ้วมือบนจอเช่นกัน ซึ่งตัว Mi 9 SE นั้นมีขนาดที่สแกนเท่ากับ Mi 8 Pro เลย สำหรับผมมันเล็กไปหน่อย อยากได้แบบมีพื้นที่มากกว่านี้ 
การสัมผัส (ทัชสกรีน)
สำหรับ Mi 9 SE ตัวนีสัมผัสดี ติดมือเลยครับ เท่าที่ใช้มาผมยังไม่เห็นอาการงอแงของระบบสัมผัสมันเลย ใครจะบอกว่าไม่ดีอย่างไรผมไม่รู้เพราะผมคือคนใช้ 5555 ผมบอกตามความรู้สึกเลยจร้าาา

Alway on display
ฟังก์ชั่นนี้คือการแสดงนาฬิกาสวย ๆ มีหลากหลายแบบไว้ตอนที่หน้าจอนั้นถูกปิดอยู่ ก็จะเหมาะกับคนที่อยากดูเวลาที่มีรูปแบบสวย ๆ โดยที่ไม่ต้องไปกดเปิดจอก็ดูได้ ตั้งเวลาให้เปิดตอนกลางวันตอนกลางคืนปิด(เพราะเราจะนอน 5555)ก็ได้เช่นกัน เป็นอะไรที่ดีมากเลยครับอันนี้ ผมชอบบบบ

การเล่น Social
ไหลลื่นเลยจร้าสำหรับในส่วนของข้อนี้ เนื่องจากมี RAM ถึง 6GB สามารถรองรับการการไถหน้าจอของเราได้อย่างดีเลย สลับแอพไปมาได้อย่างสบายใจ แอพไม่หลุด ว้าว ๆ 
เกม 
สำหรับการเล่นเกม ROV นั้นผมได้ทดสอบให้ดูแล้ว ลองกลับไปดูคลิปรีวิวได้เลยครับ การเล่นเกมถือว่าสบาย ๆ ผมใช้การตั้งค่าแบบสุดทุกอย่าง ก็ลื่น ๆ ในวีดีโอหลาย ๆ คนอาจจะเห็นเฟรมเรทตก ผมบอกเลยครับ ขณะเล่นแล้วมันตกผมไม่รู้สึกว่ามันกระตุกเลย ถ้าใครอยากปรับสุดแล้วเล่นแบบไม่อยากเห็น fps ผมแนะนำให้ปิดการแสดงมันไปซะนะครับ หรือถ้ายังอยากเห็นการแสดงผลมันอยู่ก็ปรับให้ต่ำลงมาหน่อยได้ครับผม
Youtube
การดู Youtube ถือว่าโอเครในระดับจอ FHD ก็ดูได้สูงสุดที่ 1080P นะครับ เรื่องสีสันก็จากข้อบนคือจอสีสวยทำให้เวลาดูวีดีโอสีเลยสวยใช้ได้เลยครับ อาจจะมีติ่งจิ๋วกวนใจบ้างเวลาขยายแบบเต็มความสามารถของจอ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด (ถ้าใครไม่อยากให้บังก็ไม่ต้องขยายนะจ๊ะ อิอิ)

สำหรับคนชอบดู Streming (ไม่เกี่ยวกับ Youtube Twich)
ใครที่ชอบดูหนังจากแอพอย่างพวก Netflix Iflix แล้วละก็ เราอยากบอกว่าเราได้ทดสอบกับแอพ DRM info แล้วพบว่า Mi 9 SE ตัวนี้มี Security Level เป็น L1 (Widevine DRM L1)ความหมายของมันก็คือรองรับการดูแบบความคมชัดสูง ๆ ได้เลยสบาย ๆ (นี่เกรงใจ Mi 8 Serie หน่อยได้ไหม Redmi เขายังไม่มาเลย คุณมาแซงได้ไง 5555)

เสียง
ลำโพงเสียงทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเป็นส่วนของตัวแปลง Type C มาเป็น 3.5mm ให้เสียงได้ดีมาก (ขึ้นอยู่กับหูฟังเราด้วยนะครับ)
ความร้อน
ผมยังไม่เจอปัญหาในส่วนนี้เท่าไหร่ รู้สึกว่ามันไม่ได้ร้อนขนาดนั้น ผมทดสอบการใช้งานในห้องอุณหภูมิปกติ ไม่ได้เปิดแอร์แต่อย่างใด แต่ถามว่าร้อนกว่า 660 ที่เคยจับไหม น่าจะร้อนกว่าหน่อยครับผม