หากใครกำลังสนใจ จากหนังตัวอย่าง หรือลังเลจากโฆษณา ว่าจะไปดู ANNA ดีไหม มาลองอ่าน รีวิว กันแบบย่อๆได้ครับ แล้วค่อยตัดสินใจ ( ไม่สปอยล์ )
อย่างแรกเลยคือ ถ้าคุณรักหนัง The Professional ที่มีนักฆ่าบุคลิกเหมือนคุณลุง แต่ลงมือเนียนและประสบการณ์สูง แถมโดนคนสนิทกล่อมง่ายๆ ซึ่งดูแล้วมีความเป็นมนุษย์จริงๆอยู่ คือ ใครจะไปรู้ว่า ภายนอกคนเราเป็นแบบนึง อีกด้านนึงเขาจะเป็นแบบไหน
ในบรรดาหนังแอ็คชั่นที่ใช้ ผู้หญิง เป็นตัวนำของเรื่อง ที่ดังๆ อย่าง Salt , Atomic Blond หรือแม้แต่ Black Widow ที่ยังไม่มีหนังเดี่ยวของตนเอง ล้วนแต่เป็นตัวละครเท่ห์ กับหนังดูสนุกแตกต่างรายละเอียกันไป แต่ ANNA ต่างจากพวกนั้นตรงไหน ก็คงต้องขออ้างไปถึง ถ้าใครเคยดู La Fem Nikita หนังที่ทำให้คนรู้จัก ลุค เบซง ที่เคยถูก Remake เป็นเวอร์ชั่น อเมริกัน ที่คนรู้จักกันในนาม Assassin หรือบางประเทศจะใช้ชื่อ The Point of No Return ที่ Bridget Fonda เคยแสดงไว้เมื่อ 26 ปีก่อน ตรงนี้ก็ต้องขอบอกว่า ANNA มีความ Real แบบ La Fem Nikita แต่ เพิ่มความสวยแบบ The Point of No Return เข้ามา
เข้าเรื่อง ANNA มีการเล่าเรื่องที่ไม่เป็นเส้นตรง คือ ลำดับช่วงเวลาที่ไม่เดินหน้าไปเรื่อยๆ มีการ Flash Back มาก แล้วก็ Back to the Future ผสมกันไป แต่ ไม่มีส่วนไหนทำให้ งง คือถ้าคอหนังทั่วไปน่าจะเข้าใจได้ ไม่ถึงกับ งง อะไร ก็เป็นเรื่องราวของสายลับสาว ที่แฝงตัวทำภารกิจ เหมือนเรื่องทั่วๆไป แต่ ANNA มีจุดเริ่มต้น คล้ายๆ Nikita และ ถูกทดสอบแบบเดียวกับ Nikita ตรงนี้ขอสปอยล์แบบอ้อม อย่างในหนัง The Point of No Return หากใครได้ดู คงเห็นแล้วว่า งานภาคสนามครั้งแรก Bfidge Fonda ถูกบอกทางหนีสุดท้ายแบบ ลองของสายลับ ด้วยการให้หนีไปยัง ทางตันด้วยน่ะครับ คือ เรียกว่า ลุค เบซง Back to the Basic กันเลยทีเดียว
ตัวแสดงนางเอกใหม่สำหรับผม ไม่เคยเห็นเธอจากหนังเรื่องอื่นมาก่อน Sasha Luss เธอไม่ใช่แค่สวย แต่การแสดงสีหน้า เรียกว่าผมให้เธอเต็ม 10 การกำกับของ ลุค เบซง เรียกว่าเนียนดีมาก แม้รูปร่างจะอ้อนแอ้น แต่ไม่ว่าจะใช้ การใช้ Stunt หรือ CG ส่วนไหนก็ตาม ฉากต่อสู้ดูแล้วแบบไม่ได้นั่งจับผิด ผมเชื่อว่า Sasha เหมือนเล่นเองหมด ฉากต่อสู้แบบ หนึ่งต่อสิบ แบบยิปมันแต่มีปืนมาเกี่ยวข้อง เรียกว่า ถ้าไม่มานั่งดูว่า ในความเป็นจริงคงไม่ใช่แบบในหนัง รับรองว่า ความเอ็นเตอรเทนจากฉากต่อสู้ ทำให้เราสนุกได้ไม่แพ้ จอห์น วิค ภาคแรกที่ฉากต่อสู้ในบ้านเลย ( ผมว่า จอห์น วิค เกิดก็ฉากนั้นละครับ )
จุดเด่นคงไม่ใช่พล็อตเรื่องซับซ้อน แต่วิธีการดำเนินเรื่องเรียกว่า มีชั้นเชิงขึ้นมาหน่อย อย่างที่บอกคือ หนังไม่ได้ลากเส้นเดินเรื่อง แต่ มี Shuffle Time Line เพิ่มขึ้นมา ซึ่งถ้าหากไม่แล้ว นี่ก็คือ NIKITA ดีๆนี่เอง
ตัวประกอบ อย่าง เฮเลน คือ ตัวละครที่มีมาช้านาน ปากร้าย ใจดี โดยเฉพาะฉากใกล้จบที่ทำท่าขึงขัง ก่อนลงมือลั่นไก ( ครั้งเดียวในเรื่องที่เธอใช้ปืน ) ซึ่งคอหนังสายลับคงเดาได้แน่นอนว่า เจตนาของการลั่นไก มุ่งประสงค์สิ่งใด
ส่วนเนื้อหาเรื่องที่มาก่อนเป็นสายลับ ความรักระหว่างหนุ่มๆในเรื่อง และ วิธีการทำภาระกิจต่างๆ เป็นองค์ประกอบที่ดีและมี มิติ ไม่ใช่แบบ อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่กันเลย เรียกว่า องค์ประกอบดีมาก ส่วนฉากโป๊ๆ ผมเห็นนิดเดียวนะ ถ้าเทียบกับ Atomic Blond ผมว่าน้อยกว่าเยอะ เรียกว่า เด็กๆ ไม่มีอะไรมาก
หากคุณรัก The Professional คุณไม่ควรพลาดเรื่องนี้ เพราะจะเรียกบรรยากาศแบบ ตัวละครมีความ Real เข้ามาให้คุณได้สัมผัสอีกครั้ง แม้จะโม้ไปบ้างตามประสา ยุคสมัย ที่คนๆเดียวชนะคนเยอะแยะได้ ก็มองข้ามกันไป
แต่ถ้าคุณ หวังจะเห็น Salt หรือ Atomic Blond คือ ฉากผาดโผนเท่ห์ๆ อาจไม่ได้ดูแบบนั้น
ส่วนตัวผมชอบ ANNA กับวิธีการดำเนินเรื่องที่ผสมแอ็คชั่นกับ บทสนทนาแต่พอควร รวมถึงการแสดง และวิธีการจบแบบสูตรสำเร็จ ไม่ใช่ แอนตี้ ไคลแม็กซ์ ซึ่งหนังก็มีจบไม่กี่วิธีละครับ และก็เปิดใจรับนางเอกคนใหม่ Sasha Luss เข้ามาอยู่ในวงล้อม ดาราขวัญใจอีกคนนึงได้อย่างไม่กังขาในฝีมือการแสดงเลยครับ
สามดาวสำหรับวิธีการดำเนินเรื่องที่ดี และการแสดงสมบทบาทของแต่ละคน แต่ขอถือส่วนคะแนนที่เหลือไว้ เพราะนี่คือหนังแนวเดิมๆ ที่ยังไงก็หนีไม่พ้น Concept เก่าๆนั่นเอง
[CR] ANNA หรือ NIKITA เวอร์ชั่นใหม่ ?
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้