ผมมีอาชีพเสริมเป็นมัคคุเทศก์อิสระ มีบัตรไกด์และใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ถูกต้อง ในวัน day off ผมก็จะรับงานครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีประจำแต่มีมาเป็นครั้งคราว เป็นรายได้เสริม
วันนี้ก็เช่นกันครับ พอดีมีอาจารย์ชาวต่างชาติที่เคยเรียนภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งค่อนข้างสนิทกับผม อยากเดินทางท่องเที่ยวในไทย ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และก็มีเพื่อนของอาจารย์เดินทางมาไทยอีก 2 คน รวมเป็น 3 คนพอดี ได้ติดต่อกันไว้ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ จะไปเที่ยว จ. พระนครศรีอยุธยา และได้ตกลงราคากันแล้ว อาจารย์บอกว่าผมคิดราคาถูกมาก ถ้าซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปกับบริษัท ค่าใช้จ่ายสูงกว่านี้มาก ซึ่งปกติผมรับเป็นกลุ่มเล็กๆ แบบนี้แหละไม่เกิน 3 คน นั่งรถผมได้พอดี ถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องจ้างรถตู้และต้องคิดราคาแพงขึ้น
เมื่อถึงวันเดินทาง ซึ่งก็คือเมื่อเช้าของวันนี้ ก็ได้ขับรถไปรอรับอาจารย์และเพื่อนอีก 2 คน ที่จุดนัดพบ ซึ่งก็คือบริเวณหน้าหอพักที่อาจารย์พักอยู่ ก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนของอาจารย์ทั้งสองคน ซึ่งเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด ก่อนออกเดินทางตามโปรแกรมที่ได้วางไว้
โปรแกรมก็เริ่มตั้งแต่พระราชวังบางปะอินในช่วงเช้า เดินทางต่อไปวัดใหญ่ชัยมงคล พักทานข้าว เดินทางท่องเที่ยวต่อบริเวณเกาะเมืองอยุธยา เริ่มจากอุทยานประวัติศาสตร์ฯ มาจบที่วัดมหาธาตุฯ โดยผมมีหน้าที่นำเที่ยว ขับรถ และเป็นไกด์บรรยายไปด้วย พอเสร็จที่วัดมหาธาตุแล้ว เป็นเวลา 4 โมงเศษๆ ในโปรแกรมยังเหลืออีก 1 สถานที่คือ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งอยู่นอกเกาะเมือง ตามแผนคือจะไปเช่าชุดไทยเดินถ่ายรูปที่นั่น และชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตก
แต่ตอนที่กำลังจะขับออกจากวัดมหาธาตุ ผมและลูกทัวร์ขึ้นรถแล้ว ผมกำลังบอกกำหนดการต่อไป แล้วก็สังเกตเห็นว่า มีชายสองคนยืนคุยกันข้างๆ รถตู้ที่จอดอยู่ข้างหน้า แล้วชี้มาที่รถผม ดูท่าทางไม่เป็นมิตร น่าจะคิดว่าผมเป็น Grab ผมเลยรีบขับออก แล้วสองคนนั้นก็เหมือนจะเดินมาขวาง แต่ผมออกมาได้ก่อน แล้วบอกกับลูกทัวร์ว่าตอนนี้มีผู้ไม่หวังดี คิดว่าเราเป็น grab
ระหว่างที่ติดไฟแดงอยู่ ก็มีรถตู้ป้ายเหลืองขับตามออกมาแล้วบีบแตร แล้วไฟก็เขียวพอดี เลยรีบเร่งเครื่องหนี รถตู้ก็ขับตาม ผมก็เลยหาทางเลี่ยงไม่ให้เผชิญหน้ากัน โดยขับตามเส้นทางไปวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นที่หมายต่อไป และที่สุดท้ายของโปรแกรม แต่รถตู้ก็ยังตามมา จนถึงสะพานที่จะข้ามออกจากเกาะเมืองไปทางวัดไชยฯ ทีนี้ อาจารย์ ก็บอกผมว่า ไม่ต้องไปวัดนั้นแล้ว เดินทางกลับเลย ผมก็เลยมุ่งหน้ากลับไปทางกรุงเทพ และรถตู้คันนั้นก็เลิกไล่ตามผมในที่สุด
อาจารย์ก็ถามผมว่ารถตู้คันนั้นไล่ตามเราทำไม ผมเลยบอกไปเลยว่า น่าจะเข้าใจว่าเราเป็น grab ไปแย่งลูกค้าเขา หรือไม่ก็เป็นไกด์เถื่อน แต่คิดว่าคนขับรถตู้ก็น่าจะเห็นก่อนผมขึ้นรถ ว่าผมห้อยบัตรไกด์ตลอดเวลา
สรุปแล้วแทนที่จะ ให้ลูกทัวร์ได้แฮ็ปปี้ตลอดทริป กลายเป็นว่าต้องมาเจอเรื่องระทึกแถมพลาดไป 1 สถานที่อีก แล้วรถตู้ป้ายเหลืองที่มาไล่ตามผมนี่เขาต้องการอะไร เพราะว่าลูกทัวร์เขาก็จ้างผมมา ให้ผมนำเที่ยวให้ บัตรไกด์ผมก็มี หรือว่าต้องการรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วคิดราคาโหดๆ หรือเปล่า
แชร์ประสบการณ์ โดนแก๊งรถตู้ป้ายเหลืองตามล่า ขณะพาฝรั่งเที่ยวที่อยุธยา
วันนี้ก็เช่นกันครับ พอดีมีอาจารย์ชาวต่างชาติที่เคยเรียนภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งค่อนข้างสนิทกับผม อยากเดินทางท่องเที่ยวในไทย ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และก็มีเพื่อนของอาจารย์เดินทางมาไทยอีก 2 คน รวมเป็น 3 คนพอดี ได้ติดต่อกันไว้ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ จะไปเที่ยว จ. พระนครศรีอยุธยา และได้ตกลงราคากันแล้ว อาจารย์บอกว่าผมคิดราคาถูกมาก ถ้าซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปกับบริษัท ค่าใช้จ่ายสูงกว่านี้มาก ซึ่งปกติผมรับเป็นกลุ่มเล็กๆ แบบนี้แหละไม่เกิน 3 คน นั่งรถผมได้พอดี ถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องจ้างรถตู้และต้องคิดราคาแพงขึ้น
เมื่อถึงวันเดินทาง ซึ่งก็คือเมื่อเช้าของวันนี้ ก็ได้ขับรถไปรอรับอาจารย์และเพื่อนอีก 2 คน ที่จุดนัดพบ ซึ่งก็คือบริเวณหน้าหอพักที่อาจารย์พักอยู่ ก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนของอาจารย์ทั้งสองคน ซึ่งเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด ก่อนออกเดินทางตามโปรแกรมที่ได้วางไว้
โปรแกรมก็เริ่มตั้งแต่พระราชวังบางปะอินในช่วงเช้า เดินทางต่อไปวัดใหญ่ชัยมงคล พักทานข้าว เดินทางท่องเที่ยวต่อบริเวณเกาะเมืองอยุธยา เริ่มจากอุทยานประวัติศาสตร์ฯ มาจบที่วัดมหาธาตุฯ โดยผมมีหน้าที่นำเที่ยว ขับรถ และเป็นไกด์บรรยายไปด้วย พอเสร็จที่วัดมหาธาตุแล้ว เป็นเวลา 4 โมงเศษๆ ในโปรแกรมยังเหลืออีก 1 สถานที่คือ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งอยู่นอกเกาะเมือง ตามแผนคือจะไปเช่าชุดไทยเดินถ่ายรูปที่นั่น และชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตก
แต่ตอนที่กำลังจะขับออกจากวัดมหาธาตุ ผมและลูกทัวร์ขึ้นรถแล้ว ผมกำลังบอกกำหนดการต่อไป แล้วก็สังเกตเห็นว่า มีชายสองคนยืนคุยกันข้างๆ รถตู้ที่จอดอยู่ข้างหน้า แล้วชี้มาที่รถผม ดูท่าทางไม่เป็นมิตร น่าจะคิดว่าผมเป็น Grab ผมเลยรีบขับออก แล้วสองคนนั้นก็เหมือนจะเดินมาขวาง แต่ผมออกมาได้ก่อน แล้วบอกกับลูกทัวร์ว่าตอนนี้มีผู้ไม่หวังดี คิดว่าเราเป็น grab
ระหว่างที่ติดไฟแดงอยู่ ก็มีรถตู้ป้ายเหลืองขับตามออกมาแล้วบีบแตร แล้วไฟก็เขียวพอดี เลยรีบเร่งเครื่องหนี รถตู้ก็ขับตาม ผมก็เลยหาทางเลี่ยงไม่ให้เผชิญหน้ากัน โดยขับตามเส้นทางไปวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นที่หมายต่อไป และที่สุดท้ายของโปรแกรม แต่รถตู้ก็ยังตามมา จนถึงสะพานที่จะข้ามออกจากเกาะเมืองไปทางวัดไชยฯ ทีนี้ อาจารย์ ก็บอกผมว่า ไม่ต้องไปวัดนั้นแล้ว เดินทางกลับเลย ผมก็เลยมุ่งหน้ากลับไปทางกรุงเทพ และรถตู้คันนั้นก็เลิกไล่ตามผมในที่สุด
อาจารย์ก็ถามผมว่ารถตู้คันนั้นไล่ตามเราทำไม ผมเลยบอกไปเลยว่า น่าจะเข้าใจว่าเราเป็น grab ไปแย่งลูกค้าเขา หรือไม่ก็เป็นไกด์เถื่อน แต่คิดว่าคนขับรถตู้ก็น่าจะเห็นก่อนผมขึ้นรถ ว่าผมห้อยบัตรไกด์ตลอดเวลา
สรุปแล้วแทนที่จะ ให้ลูกทัวร์ได้แฮ็ปปี้ตลอดทริป กลายเป็นว่าต้องมาเจอเรื่องระทึกแถมพลาดไป 1 สถานที่อีก แล้วรถตู้ป้ายเหลืองที่มาไล่ตามผมนี่เขาต้องการอะไร เพราะว่าลูกทัวร์เขาก็จ้างผมมา ให้ผมนำเที่ยวให้ บัตรไกด์ผมก็มี หรือว่าต้องการรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วคิดราคาโหดๆ หรือเปล่า