นี่เป็นกระทู้ไม่ค่อยจะมีสาระเท่าไหร่นะ แบบชวนคุย เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆด้วย 55 ใครไม่ไหวก็ข้ามไป
คือมันมีอยู่ช่วงนึงที่เราเขียนกระทู้ แปลบทสัมภาษณ์ TXT จากนิตยสาร W แล้วเรานึกสงสัยอยู่อย่างนึงว่า ทำไมบังชีฮยอกถึงเลือก ซูบินเป็นลีดเดอร์
จริงๆก็สงสัยมาสักพักแล้ว เพราะซูบินดูต่างจากไทป์นิยมของลีดเดอร์ ที่ดูนุ่มนวลเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าสมาชิกมีแค่ 5 คน ตัวเลือกไม่มากด้วย
คำถามนี้ก็มีในหัวมาสักพัก จนมาเมื่อวานกับวันนี้ เราว่างๆจากงานก็เลยมานั่งไล่ดู เรียลลิตี้ one dream.txt ตอน 1 ตอน 2 ผ่านไป ก็ยังไม่ได้สะกิดใจอะไร
จนเมื่อกี้นี้ได้ดูตอน 3 โดยเฉพาะพาร์ทโชว์เคสนิวยอร์ค ซึ่งมันเป็นสถานการณ์เรียลไทม์จริงๆ ตึงเครียดจริงๆแบบไม่สนว่ามีกล้อง
มันทำให้เราสังเกตเห็นพฤติกรรมบางอย่างของสมาชิกในช่วงที่สถานการณ์บีบครั้น
เราเห็นซูบิน ไม่มั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งดูจะเป็นปัญหาพอสมควร (ความจริงเจ้าตัวก็ขี้เขินขี้อายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้
มันก็เหมือนมีประโยคคำถามขึ้นมาตัวโตๆว่า จริงๆแล้วซูบินเหมาะเป็นลีดเดอร์จริงๆเหรอ ยิ่งเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง RM แล้ว ก็ดูคนละทางไปเลย
แต่คำตอบของคำถามนี้กลับไม่ได้อยู่ที่แค่คาแรกเตอร์ของซูบิน ซึ่งเราพบว่า แทฮยอน และ บอมกยู เป็นสมาชิกสองคนที่นิยมความสมบูรณ์แบบมาก - perfectionist
สังเกตได้จากความเจ้ากี้เจ้าการที่ต้องการโชว์ออกมาไร้ที่ติ ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีและก็กดดันตัวเองในตัวเช่นกัน
ทีนี้ ถ้าเราลองสมมุติว่า ให้เด็กทั้ง 5 คนนี้อายุเท่าๆกัน ตัดเรื่องอาวุโสทิ้ง เราจะพบว่า มี 3 คนที่มีลักษณะเป็นสายแข็ง - ยอมหัก ไม่ยอมงอ
นั่นคือ บอมกยู แทฮยอน และเด็กแอบดื้อ ฮิวนิงไค ซึ่งถ้า 1 ใน 3 คนนี้เป็นลีดเดอร์ ทีมจะแข็งเกินไป
พูดเล่นๆคืออาจมีวางมวยกันบ่อยครั้งแน่นอน เพราะด้วยคาแรกเตอร์ไม่ยอมกันของทั้ง 3 คนนี้มีสิทธิ์ไฝ้วกันเองสูง ซึ่งทำให้ทีมมีความตึงเครียดสูงไป
และนั่นทำให้เราพบคำตอบว่า ทำไม บังชีฮยอกถึงเหลือช้อยลีดเดอร์แค่ 2 คน คือ ซูบินและยอนจุน และหวยก็ไปลงที่ซูบินในที่สุด
อันที่จริง เราไม่รู้เหตุผลจากทีมบิ๊กฮิตจริงๆหรอก นี่เราก็แค่คาดเดาเอาเอง แต่จากคาแรกเตอร์ที่เรายกมาก็พอจะเมคเซ้นอยู่ประมาณหนึ่ง
การมีซูบินเป็นลีดเดอร์ก็เหมือนกับการบาลานซ์หยินหยางในทีมน่ะ 3 คนสายแข็ง เหมือนไฟ ส่วนซูบินกับยอนจุนเหมือนน้ำใช้ดับไฟ แต่ถ้ามีแต่น้ำไม่มีไฟ มันก็ขาดแรงผลักดันไปข้างหน้า
เรียลลิตี้แบบนี้ก็ดีนะ บางครั้งมันก็เผลอโชว์อีกด้านนึง อย่างน้อยก็ทำให้เราเก็ตคำถามบางอย่างได้เหมือนกัน
เพื่อนๆคิดเห็นยังไงก็เขียนได้นะ หนุกๆ เราสายชอบวิเคราะห์จิตวิทยาอยู่แล้ว
ทำไมซูบินถึงได้เป็นลีดเดอร์ ?
คือมันมีอยู่ช่วงนึงที่เราเขียนกระทู้ แปลบทสัมภาษณ์ TXT จากนิตยสาร W แล้วเรานึกสงสัยอยู่อย่างนึงว่า ทำไมบังชีฮยอกถึงเลือก ซูบินเป็นลีดเดอร์
จริงๆก็สงสัยมาสักพักแล้ว เพราะซูบินดูต่างจากไทป์นิยมของลีดเดอร์ ที่ดูนุ่มนวลเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าสมาชิกมีแค่ 5 คน ตัวเลือกไม่มากด้วย
คำถามนี้ก็มีในหัวมาสักพัก จนมาเมื่อวานกับวันนี้ เราว่างๆจากงานก็เลยมานั่งไล่ดู เรียลลิตี้ one dream.txt ตอน 1 ตอน 2 ผ่านไป ก็ยังไม่ได้สะกิดใจอะไร
จนเมื่อกี้นี้ได้ดูตอน 3 โดยเฉพาะพาร์ทโชว์เคสนิวยอร์ค ซึ่งมันเป็นสถานการณ์เรียลไทม์จริงๆ ตึงเครียดจริงๆแบบไม่สนว่ามีกล้อง
มันทำให้เราสังเกตเห็นพฤติกรรมบางอย่างของสมาชิกในช่วงที่สถานการณ์บีบครั้น
เราเห็นซูบิน ไม่มั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งดูจะเป็นปัญหาพอสมควร (ความจริงเจ้าตัวก็ขี้เขินขี้อายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้
มันก็เหมือนมีประโยคคำถามขึ้นมาตัวโตๆว่า จริงๆแล้วซูบินเหมาะเป็นลีดเดอร์จริงๆเหรอ ยิ่งเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง RM แล้ว ก็ดูคนละทางไปเลย
แต่คำตอบของคำถามนี้กลับไม่ได้อยู่ที่แค่คาแรกเตอร์ของซูบิน ซึ่งเราพบว่า แทฮยอน และ บอมกยู เป็นสมาชิกสองคนที่นิยมความสมบูรณ์แบบมาก - perfectionist
สังเกตได้จากความเจ้ากี้เจ้าการที่ต้องการโชว์ออกมาไร้ที่ติ ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีและก็กดดันตัวเองในตัวเช่นกัน
ทีนี้ ถ้าเราลองสมมุติว่า ให้เด็กทั้ง 5 คนนี้อายุเท่าๆกัน ตัดเรื่องอาวุโสทิ้ง เราจะพบว่า มี 3 คนที่มีลักษณะเป็นสายแข็ง - ยอมหัก ไม่ยอมงอ
นั่นคือ บอมกยู แทฮยอน และเด็กแอบดื้อ ฮิวนิงไค ซึ่งถ้า 1 ใน 3 คนนี้เป็นลีดเดอร์ ทีมจะแข็งเกินไป
พูดเล่นๆคืออาจมีวางมวยกันบ่อยครั้งแน่นอน เพราะด้วยคาแรกเตอร์ไม่ยอมกันของทั้ง 3 คนนี้มีสิทธิ์ไฝ้วกันเองสูง ซึ่งทำให้ทีมมีความตึงเครียดสูงไป
และนั่นทำให้เราพบคำตอบว่า ทำไม บังชีฮยอกถึงเหลือช้อยลีดเดอร์แค่ 2 คน คือ ซูบินและยอนจุน และหวยก็ไปลงที่ซูบินในที่สุด
อันที่จริง เราไม่รู้เหตุผลจากทีมบิ๊กฮิตจริงๆหรอก นี่เราก็แค่คาดเดาเอาเอง แต่จากคาแรกเตอร์ที่เรายกมาก็พอจะเมคเซ้นอยู่ประมาณหนึ่ง
การมีซูบินเป็นลีดเดอร์ก็เหมือนกับการบาลานซ์หยินหยางในทีมน่ะ 3 คนสายแข็ง เหมือนไฟ ส่วนซูบินกับยอนจุนเหมือนน้ำใช้ดับไฟ แต่ถ้ามีแต่น้ำไม่มีไฟ มันก็ขาดแรงผลักดันไปข้างหน้า
เรียลลิตี้แบบนี้ก็ดีนะ บางครั้งมันก็เผลอโชว์อีกด้านนึง อย่างน้อยก็ทำให้เราเก็ตคำถามบางอย่างได้เหมือนกัน
เพื่อนๆคิดเห็นยังไงก็เขียนได้นะ หนุกๆ เราสายชอบวิเคราะห์จิตวิทยาอยู่แล้ว