แมวเราอายุ8-9เดือน เป็นลูกแมวจรเก็บมาเลี้ยงค่ะ 29/06น้องมีอาการหอบ หายใจไม่ได้ พาไปหาหมอ ดมออกซิเจน x-rayดู เลยพบว่า มีก้อนเนื้อในช่องอกและมีน้ำขัง การรักษาที่ผ่านมา หมอให้ยาฆ่าเชื้อกับยากระตุ้นภูมิ นัดดูอาการซ้ำ แมวเราดูทรงๆมาตลอด เพิ่งมี3-4วันหลังมานี่ที่ไม่ค่อยกินข้าว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เรามีนัดกับหมอเฉพาะทางด้านเนื้องอก แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้เจอหมอเฉพาะทาง หมอเวรมาคุยกับเราว่า ก่อนหน้านี้ที่เจาะน้ำในช่องอกไปตรวจ หมอค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าเป็นมะเร็ง แต่ผลจากการตรวจเซลล์นี้ ก็ยังไม่100% ถ้าเราจะรักษาต่อ เราต้องไปทำct scanและตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจที่เกษตรบางเขน(เราอยู่ตจว.) ซึ่งระหว่างนี้ แมวเราก็มีความเสี่ยงในขั้นตอนการวางยา และถ้าไปต่อถึงการให้คีโมได้ แมวจะตอบสนองแค่1-2เข็มแรกเท่านั้น หลังจากนั้นแมวจะทรุด และทำไปก็ไม่รับรองว่าจะหายรึเปล่า ได้ยินแบบนี้เราเลยเลือกที่จะไม่ทำค่ะ แต่เราอดคิดไม่ได้ ว่าเราตัดสินใจถูกรึเปล่า ความคิดเราคือ ถ้าเค้าจะเป็นอะไร เราไม่อยากให้เค้าไปแบบโดดเดี่ยว อย่างน้อยถ้าอยู่บ้าน เราคงได้ส่งเค้าในช่วงเวลาสุดท้าย และเราไม่ยากให้เค้าเครียดไปมากกว่านี้ทุกวันนี้เวลาป้อนยาป้นข้าว เค้าเครียดแบบเห็นได้ชัด แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกผิดมากค่ะ ที่จะไม่รักษาเค้าต่อ ถามสามี เค้าก็ไม่สนับสนุนในการให้คีโมเลย เพราะเคยมีประสบการณ์จากการถ่ายเลือดหมา ถ่ายปุ๊ปหมาทรุดลงทันที ขอฟังประสบการณ์จากคนที่เคยเจอลักษณะคล้ายๆเราหน่อยค่ะ ทำใจให้ผ่านไปยังไงคะ ใจนึงก็อยากพอแค่นี้ เพราะด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง การเดินทางที่ไม่สะดวก และ เราดูแลหมาอีก9ตัว และที่บ้านก็มีแมวป่วยลูคีเมียอีก2ตัว แต่ยังไม่แสดงอาการ เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่ทำค่ะ ขอกำลังใจหน่อยค่ะ เครียดมากจริงๆ พยามคิดว่า เค้าหมดกรรมในชาติแมวด้วยอายุเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องอยู่ต่อยื้อเยื้อให้ทรมาน จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นกว่านี้
ขอกำลังใจหน่อยค่ะ แมวเป็นมะเร็งแต่เราเลือกที่จะไม่ทำคีโม