Always Be My Maybe

เป็นเธอเสมอมา

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้เห็นหนังโรแมนติกคอเมดี้จากฝั่งอเมริกามีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับตัวละครเชื้อสายเอเชีย (อย่าเพิ่งค้านว่าก็เพิ่งมีหนัง Crazy Rich Asians เมื่อปีที่แล้วนะ) และด้วยความที่ได้นักแสดงตลกซึ่งเป็นที่รู้จักดีของคนอเมริกาอย่าง อาลี หว่อง และ แรนดัล ปาร์ค นำแสดง หนังเรื่อง Always Be My Maybe จึงดูน่าสนใจขึ้นมาทันตา แม้ว่าเนื้อเรื่องจะซ้ำซากจำเจชนิดที่ว่าเดาได้ไม่ยากเลยก็ตาม

ซาช่า (อาลี หว่อง) เซเลบริตี้เชฟที่ประสบความสำเร็จกลับมายังเมืองบ้านเกิดเพื่อพักรักษาแผลใจ ทำให้ได้พบกับเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานกว่า 15 ปี มาร์คัส (แรนดัล ปาร์ค) ช่างแอร์ที่มีงานอดิเรกเป็นนักดนตรีวงฮิปฮอป เพราะในอดีตทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักที่เลยเถิดมากกว่าแค่เพื่อน เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง แน่นอนว่าถ่านไฟเก่าย่อมต้องกลับมาร้อนขึ้นอีกแน่นอน แต่ความแตกต่างอย่างมากในการใช้ชีวิตของคนทั้งสองคนอาจจะทำให้พวกเขาไม่เข้าใจกันได้ง่ายนัก

อย่างที่บอกไปว่าหนังโรแมนติกคอเมดี้เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องที่ซ้ำซากจำเจชนิดที่ว่าเดาได้ไม่ยาก แต่เดี๋ยวก่อน เพราะถ้าได้ดูแล้วจะรู้เลยว่าในความซ้ำซากจำเจนั้นมันยังพอเอาคนดูอยู่ ยังสนุกใช้ได้อยู่ มุกตลกก็ถือว่าผ่าน และเหมือนหนังจะรู้ว่าจะต้องมีตัวแถมให้คนดูรู้สึกว้าวจึงใส่ คีอานู รีฟส์ เข้ามาช่วยสร้างสีสัน แล้วก็ทำได้จริงๆ แม้ว่าจะมาอยู่ในหนังไม่นานเท่าไรนักก็ตาม แต่ยอมรับเถอะว่าแค่เห็น คีอานู รีฟส์ ในตัวอย่างหนังก็เรียกแขกได้เป็นกองแล้ว ไม่แค่นั้น เพลงประกอบที่ใส่มาในหนังก็ยังถือว่าดีงาม เพลงแนวโรแมนติกก็เพราะ เพลงฮิปฮอปก็สนุก พอจับมาลงในหนังแล้วคือใช่เลย

(เปิดเผยเนื้อหาค่อนข้างสำคัญ)

เราแอบเซอร์ไพรส์เล็กน้อยกับบทสรุปที่จะว่าไปแล้วก็เดาไม่ยากอยากที่ว่านั่นแหละ แต่มันสะท้อนถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนไปที่เดิมชายเป็นใหญ่ ชายคือช้างเท้าหน้า เพราะเดี๋ยวนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดหรือเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรีอะไรมากมายแล้วที่ผู้หญิงจะเก่งกว่าผู้ชาย ผู้ชายยอมรับว่าผู้หญิงเก่งกว่าและเป็นช้างเท้าหลัง อันที่จริงหนังก็ไม่ได้เน้นในประเด็นเฟมินิสต์ตรงนี้มากหรอกแต่เรามองว่ามันเป็นสารแฝงที่น่าสนใจ และยังทำให้หนังมีเนื้อเรื่องที่ดูมีคุณค่ามากขึ้นนิดหน่อยด้วย

ขบเคี้ยวหนัง
#NetflixTH #NetflixReviewTH #AlwaysBeMyMaybe #คู่รักคู่แคล้ว