จับตา ‘ฉากจบ’ คดี 1,400 ล้าน
สยามสปอร์ต vs สมาคมบอล
..........................................
เป็นอีกหนึ่งคดีที่ยังค้างคาในวงการลูกหนังไทยทั้ง 2 ขั้ว ซึ่ง #1morenews ตามติดมาอย่างต่อเนื่อง
เรื่องมีอยู่ว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์สมาคมฯ “ขั้วเก่า” ได้ยื่นฟ้อง สมาคมฯ และสภากรรมการ “ขั้วใหม่” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ในคดีแพ่ง หมายเลขคดีดำที่ ทป79/2560 ด้วยข้อหาหรือฐานความผิด ฐานผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1,400 ล้านบาท
สำหรับคดีดังกล่าว พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เคยแถลงชี้แจงไปแล้วว่า
“สืบเนื่องจาก คณะผู้บริหารสมาคมฯ เห็นว่า สัญญามีต่อ หรือ มีกับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคมฯ เพราะตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นกำหนดระยะเวลา 5 ปี สัญญานั้นได้กำหนดค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคมฯ ร้อยละ 5 จากรายได้สิทธิประโยชน์ทั้งหมด แต่ทางบริษัท สยามสปอร์ต มิได้จ่ายเงินค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ต่อสมาคมฯ คือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา”
“และก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์แล้วจำนวน 240 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมส่งมอบเงินนั้นให้สมาคมฯ ทำให้สมาคมฯขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างมาก และสภากรรมการสมาคมฯพิจารณาแล้ว จึงมีมติบอกเลิกสัญญากับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 7 มีนาคม 2559”
"อีกกรณีคือ เมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องต่อศาลนั้น กลับนำสัญญาแต่งตั้งผู้บริหารสิทธิประโยชน์ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนร้อยละ 50 มาฟ้องสมาคมฯ และเรียกค่าเสียหาย 1,400 ล้านบาท จะเห็นว่าสัญญามีสองสัญญา สัญญาหนึ่ง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จะต้องจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ แต่อีกสัญญาจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ตั้งแต่ปี 2556 ไม่มีหลักฐานทางบัญชีปรากฏ หรือไม่มีหลักฐานใดๆ ปรากฏว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ได้มอบเงินค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามสัญญาให้กับสมาคมฯ จึงเป็นเหตุที่สมาคมฯ บอกเลิกสัญญาดังกล่าว"
"แต่เมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับสมาคมฯ ในการบอกเลิกสัญญา สมาคมฯ ก็ต่อสู้ในประเด็นที่ว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ไม่ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ ตามเงื่อนไขของสมาคมฯ แต่อย่างใด เป็นระยะเวลา 5 ปี”
ทั้งนี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ณ อาคาร A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
แต่ทว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป โดยนัดทั้งสองฝ่ายให้กลับมาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ในเวลา 13.30 น. ณ อาคาร A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
ดังนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่า ... คดีนี้จะมี “ฉากจบ” อย่างไร?
ที่มา
https://www.facebook.com/1morenews/
มาลุ้นกันว่าสมาคมจะมีได้เงิน 1,400 ล้านมาสร้างสนามใหม่ไหม
สยามสปอร์ต vs สมาคมบอล
..........................................
เป็นอีกหนึ่งคดีที่ยังค้างคาในวงการลูกหนังไทยทั้ง 2 ขั้ว ซึ่ง #1morenews ตามติดมาอย่างต่อเนื่อง
เรื่องมีอยู่ว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์สมาคมฯ “ขั้วเก่า” ได้ยื่นฟ้อง สมาคมฯ และสภากรรมการ “ขั้วใหม่” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ในคดีแพ่ง หมายเลขคดีดำที่ ทป79/2560 ด้วยข้อหาหรือฐานความผิด ฐานผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1,400 ล้านบาท
สำหรับคดีดังกล่าว พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เคยแถลงชี้แจงไปแล้วว่า
“สืบเนื่องจาก คณะผู้บริหารสมาคมฯ เห็นว่า สัญญามีต่อ หรือ มีกับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคมฯ เพราะตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นกำหนดระยะเวลา 5 ปี สัญญานั้นได้กำหนดค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคมฯ ร้อยละ 5 จากรายได้สิทธิประโยชน์ทั้งหมด แต่ทางบริษัท สยามสปอร์ต มิได้จ่ายเงินค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ต่อสมาคมฯ คือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา”
“และก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์แล้วจำนวน 240 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมส่งมอบเงินนั้นให้สมาคมฯ ทำให้สมาคมฯขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างมาก และสภากรรมการสมาคมฯพิจารณาแล้ว จึงมีมติบอกเลิกสัญญากับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 7 มีนาคม 2559”
"อีกกรณีคือ เมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องต่อศาลนั้น กลับนำสัญญาแต่งตั้งผู้บริหารสิทธิประโยชน์ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนร้อยละ 50 มาฟ้องสมาคมฯ และเรียกค่าเสียหาย 1,400 ล้านบาท จะเห็นว่าสัญญามีสองสัญญา สัญญาหนึ่ง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จะต้องจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ แต่อีกสัญญาจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ตั้งแต่ปี 2556 ไม่มีหลักฐานทางบัญชีปรากฏ หรือไม่มีหลักฐานใดๆ ปรากฏว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ได้มอบเงินค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามสัญญาให้กับสมาคมฯ จึงเป็นเหตุที่สมาคมฯ บอกเลิกสัญญาดังกล่าว"
"แต่เมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับสมาคมฯ ในการบอกเลิกสัญญา สมาคมฯ ก็ต่อสู้ในประเด็นที่ว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ไม่ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ ตามเงื่อนไขของสมาคมฯ แต่อย่างใด เป็นระยะเวลา 5 ปี”
ทั้งนี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ณ อาคาร A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
แต่ทว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป โดยนัดทั้งสองฝ่ายให้กลับมาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ในเวลา 13.30 น. ณ อาคาร A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
ดังนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่า ... คดีนี้จะมี “ฉากจบ” อย่างไร?ที่มา https://www.facebook.com/1morenews/