Apartment 101 ขั้นตอนการเช่าอพาร์ตเม้นในอเมริกา

สวัสดีค่ะ อมยิ้ม02

นุ่นมาแชร์ประสบการณ์การเช่าอพาร์ตเม้นในอเมริกา ถ้าใครมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้เลยนะคะ อีกอย่างนุ่นอยู่ Houston 
Texas ซึ่งแต่ละเมืองก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนะ

ที่อยู่อาศัยก็เป็นเรื่องสำคัญ

บางคนมาอยู่อเมริกาแล้วไม่ชอบก็มี นุ่นว่าที่ที่เราอยู่มันก็มีผลนะ ทั้งในเรื่องความปลอดภัย และสภาพความเป็นอยู่ อีกอย่างค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยเป็นค่าใช้จ่ายหลักเลย และเป็นการตัดสินใจระยะยาวด้วย


ขั้นตอนการเลือกอพาร์ตเม้น
เริ่มจากหาข้อมูลก่อนเลย แล้วกำหนดราคาที่เรารับได้

นอกจากค่าเช่า เรายังมีค่าน้ำไฟอินเตอร์เน็ตและค่าบริการอื่นๆ รวมแล้วก็ประมาณ 10-20% ของค่าเช่า

โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการเช่าไม่ควรเกิน 30% ของรายได้

เลือกทำเล

อันนี้ก็ตามมาจากข้อแรก ถ้าเรามีงบจำกัดก็อาจจะเลือกทำเลที่รองลงมาแล้วเดินทางไกลหน่อย

อีกเรื่องที่เป็นปัจจัยสำคัญคือเรื่องโรงเรียนสำหรับคนที่มีลูกในวัยเรียน

เลือกอพาร์ตเม้นที่เราสนใจ

จากสองข้อแรก เราก็เลือกอพารต์เม้นที่เราสนใจแล้วก็หาข้อมูลแบบเจาะลึก โดยดูว่าข้อดีข้อเสียของแต่ละโครงการเป็นยังไง อยากรู้อะไรเพิ่มก็โทรไปถามได้เลย

เยี่ยมชมโครงการ

พอได้โครงการที่ถูกใจแล้วก็ถึงเวลาไปดูของจริง นุ่นว่าไปดูสักห้าที่ก็พอจะเลือกได้แล้วว่าเราอยากอยู่ที่ไหน
หลักๆเลยก็ดูบรรยากาศ ดูคนเช่า ดูความปลอดภัย ดูทำเลห้องที่เราเช่า ดูที่จอดรถ ดูสภาพความเป็นอยู่ ดูส่วนกลาง แล้วก็ขอข้อมูลเกี่ยวกับการสมัคร

โดยทั่วไปเราดูล่วงหน้าได้ไม่เกินสองเดือนของวันที่เราต้องการย้าย หลายๆที่จะให้ส่วนลดพิเศษถ้าเราสมัครวันนั้นเลย เพราะฉะนั้นก็หาข้อมูลให้ดี

อีกเรื่องที่ต้องถามคือค่าใช้จ่ายว่ามีอะไรบ้าง ค่ามัดจำเท่าไหร่ บางที่ขอสองเดือนล่วงหน้า บางที่อาจจะน้อยกว่านั้น ค่ามัดจำเดี๋ยวนี้ก็มีหลายแบบนะ

ทั้งแบบได้คืนและไม่ได้คืน หลายที่ก็ให้เราเลือกได้ด้วย คนที่มีสัตว์เลี้ยงเดี๋ยวนี้เค้าเก็บ Pet Rent ด้วยนะ
ส่วนมากเราจะไม่ได้ดูห้องจริงแต่จะได้ดูห้องตัวอย่างแทน เหตุผลนึงคืออพาร์ตเม้นบางที่จะไม่ยอมซ่อมแซมห้องจนกว่าจะมีคนมาเช่า 

มีความลับมาบอกอีกอย่าง คือ การบริหารอพาร์ตเม้นเนี่ย เค้าจะพยายาม Keep Occupancy Rate ที่ 97% ห้องว่างจะมีแค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น

ถ้ามีคนอยู่น้อยก็กำไรน้อย ถ้าเมื่อไหร่คนอยู่เต็มตลอดไม่มีคนย้ายออกแสดงว่าค่าเช่าถูกไป

ทำเลห้องก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่นว่าเสียงดังมั้ย ขึ้นลงสะดวกมั้ย ใกล้ที่จอดรถมั้ย

อีกอย่างเป็นความชอบส่วนตัวของนุ่นว่าชอบอพาร์ตเมนที่มีตึกจอดรถในตัว เพราะ Houston ฝนตกบ่อย จอดในตึกขึ้นลงก็ไม่เปียก ไม่ต้องกลัวน้ำท่วมหรือว่า Hurricane ด้วย

ยื่นเอกสารสมัคร

ถ้าเราตัดสินใจเลือกอพาร์ตเม้น เลือกห้องเรียบร้อยก็ถึงขั้นตอนการสมัคร ที่นี่เราต้องจ่ายเงิน ค่าสมัครและค่าดำเนินการ (Application & Admin

Fee) ซึ่งตรงนี้เราไม่ได้คืน แต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป บางที่ก็มีส่วนลดเพิ่มให้เรา 

หลังจากเช็คประวัติเราเรียบร้อยก็จะบอกเราว่าผ่านคุณสมบัติรึเปล่า ถ้าเราสมัครไม่ผ่านอาจต้องไปหาคนมาช่วยค้ำประกันให้

เซ็นต์สัญญาเช่า

โดยส่วนมากสัญญาเช่าจะเป็นมาตรฐาน ถ้าเรามีข้อสงสัยอะไรในสัญญาให้ถามก่อนเซ็นต์สัญญา เพราะเมื่อเราเซ็นต์ไปแล้วก็เท่ากับว่าเราตกลงตามเงื่อนไขที่เซ็นต์ไป โดยส่วนมากสัญญาเช่าจะมีอายุหนึ่งปี หรือตามที่ตกลงกัน ซึ่งถ้าเราเช่าระยะสั้นค่าเช่าจะแพงกว่า

สุดท้ายก็ถึงขั้นตอนการย้ายเข้า

จ่ายเงินมัดจำ รับกุญแจ หลายๆที่จะบังคับเราทำ Renter Insurance ด้วย สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องกรอก Inventory Form ว่าสภาพตอนที่เรารับห้องเป็นยังไงบ้าง เพราะตอนเราย้ายออกเค้าจะปรับเราหากเราทำของเสียหาย

พูดถึง Renter Insurance คือโดยทั่วไปความเสียหายอะไรก็ตามที่เกิดกับทรัพย์สินของเราภายในห้อง เจ้าของอพาร์ตเม้นไม่ต้องรับผิดชอบนะ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ น้ำท่วม ขโมยขึ้น เราต้องซื้อประกันในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเอง

พอได้กุญแจเราก็ถึงเวลาต่อไฟ ต่อ internet สำหรับไฟฟ้า เข้าไปเลือกจาก PowerToChoose.org ได้เลย
ส่วน internet ก็ถามจาก Apartment เอาว่ามีเจ้าไหนบ้าง 

ซื้อของเข้าบ้าน

อพาร์ตเม้นหลายๆที่ใน Houston ไม่มีลิฟต์ เพราะบางที่ก็ไม่ได้สูงมากแค่สองสามชั้นเท่านั้นเอง แต่ว่ามันมีผลเวลาที่ย้ายของเข้าและย้ายของออก
บางคนอยู่นานเรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็นเท่าไหร่ หรือว่าก็จ่ายค่าจ้างให้ Mover เอา

ครั้งล่าสุดนุ่นซื้อเฟอร์นิเจอร์จากIkea ก็ประทับใจนะ จ่ายค่าส่งแล้วเข้ามาส่งให้ถึงในห้อง แถมไม่พอใจคืนเงินได้ภายในหนึ่งปีด้วย

ย้ายออก

ส่วนมากเราต้องแจ้งย้ายออกล่วงหน้า 60 วัน ซึ่งระหว่างนี้ทางอพาร์ตเม้นจะส่งจดหมายมาว่าถ้าเราจะต่อสัญญาค่าเช่าจะเป็นเท่าไหร่

หรือถ้าจะอยู่แบบเดือนต่อเดือนจะเป็นเท่าไหร่ ถ้าเราเซ็นสัญญาไปหนึ่งปีแต่อยู่ไม่ครบก็จะโดนปรับ โดยค่าปรับส่วนมากเท่ากับค่าเช่าสองเดือน

แต่ที่นุ่นเจอมา ราคาในสัญญาเช่าสูงกว่าที่นุ่นจ่ายจริงเพราะเค้ามีสัญญาแนบท้ายที่เป็นส่วนลด

ถ้าต้องออกก่อนก็ต้องคืนส่วนลดทั้งหมดที่ได้รับมาด้วย ตอนนั้นนุ่นเซ็นต์สัญญาเช่า 13 เดือน แล้วต้องการย้ายออกตอนเจ็ดเดือน

เค้าบอกต้องจ่ายหกพันซึ่งพอๆกับค่าเช่าที่เหลือจนครบสัญญาเลย ตอนนั้นถึงกับช็อก 

สิ่งที่นุ่นควรทำคือร้องเรียนไปที่ Houston Apartment Association แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย

พอเราย้ายของออกเรียบร้อยก่อนคืนกุญแจก็ให้ที่อพาร์ตเม้นมาดูสภาพห้องอีกรอบ ถ้าห้องไม่เรียบร้อยก็จะโดนปรับ

เงินมัดจำที่เราให้ไว้จะได้คืนภายในหนึ่งเดือนหลังจากเราย้ายออก

เพื่อนบอกว่าให้ถ่ายรูปสภาพห้องตอนย้ายออกไว้ด้วยนะ เผื่อว่าเค้ามาหักตังค์เราจะได้มีหลักฐาน

ตอนเราคืนกุญแจ Apartment จะขอที่อยู่ใหม่เรา แล้วจะส่ง check คืนเงินมัดจำมาให้เราตามที่อยู่นั้น


อันนี้ก็จบขั้นตอนคร่าวๆนะคะ ใครมีข้อสงสัยอะไรก็มาพูดคุยทักทายกันได้ ขอบคุณมากค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่