เป็นรถคุณพ่อเราค่ะโดนชนหนัก ไปที่โรงพักตำรวจลงบันทึกว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายประมาท คุณพ่อเราไม่ได้รับบาดเจ็บค่ะ แต่ภรรยาคุณพ่อกระแทกกับแอร์แบ็ค เจ็บหน้าอกและได้ไปหาหมอตรวจเช็คตั้งแต่วันเกิดเหตุ ค่าใช้จ่ายพวกนี้ประกันจัดการให้ค่ะ ของเราเป็นประกันชั้น 1 วิริยะ คู่กรณีก็ชั้น 1 ค่ะ หลังจากนั้นก็ลากรถไปที่ศูนย์ซ่อม ศูนย์แจ้งว่าใช้เวลาซ่อมประมาณ 3 เดือน วันนี้ทางตำรวจเรียกทางเราและคู่กรณีไปตกลงกัน ทางเราแจ้งว่ามีค่าใช่จ่ายในการซ่อมบางส่วนที่ประกันจะไม่จ่ายให้ ทางศูนย์ประมาณการไว้ที่ 3 หมี่น ซึ่งทางเราก็ได้แจ้งคู่กรณีไป ให้เค้ารับผิดชอบ คู่กรณีมาถึงเค้าบอกว่าเค้าไม่จ่าย ให้เราไปคุยกับประกันเอาเอง 

ประกันฝ่ายเราไม่ได้ไปด้วยค่ะ ฝ่ายประกันคู่กรณีบอกว่า 3 หมื่น ทำไมแพงจัง เราก็บอกไปว่าทางศุนย์แจ้งมาแบบนี้ แต่ถ้าซ่อมเสร็จเรามีใบเสร็จมาให้แน่นอน ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ตำรวจก็เลยให้กลับมาบ้านก่อนค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้เราโกรธมากก็คือการกระทำของคู่กรณีและประกันฝ่ายเค้าค่ะ 

นัดบ่าย 3 ยังไม่มา โทรตามก็บอกไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่ บอกว่ามีอะไรให้คุยกับแม่หนูเลย คนขับเป็นนักศึกษาอายุ 20 มาถึง 4 โมง ยกพวกกันมา 5 คน ฝ่ายคุณแม่ไม่หันมาตกลงอะไรกับเราเลยบอกตำรวจสั้นๆ ว่าไม่จ่ายให้ไปเรียกกับประกันเอาเอง พอตอนจะกลับ ประกันถามพ่อเราว่าเอารถใครมาขับ พ่อเราก็บอกยืมญาติมา เค้าก็บอกว่าระวังนะ ทำสัญญาเช่ารถในเครือญาติ จะมาเบิกค่าชดเชยไม่ได้ เพราะว่าสมรู้ร่วมคิด 

เอิ่ม คือใครชนใครเนี่ย นี่เรายังไม่ได้พูดถึงค่าทำขวัญอะไรอะไรเลยนะ คือเราไม่ได้กะจะเรียกร้องอะไร แต่อยากให้เค้าจ่ายค่าซ่อมรถให้เราให้จบ ไม่ใช่ประกันไม่จ่ายแล้วเราต้องจ่ายเอง รถก็ไม่มีใช้ตั้ง 3 เดือน เค้าก็รู้ว่าเราเจ็บ แต่ไม่มีการโทรมาถามอาการอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มาเจอกันก็ไม่คุยกับฝ่ายเราเลย ใจดำมาก 

รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าเราทำอะไรได้บ้าง 

ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ