สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตของผม ผมขอแจ้งก่อนว่าโดยส่วนตัวผมเพิ่งเป็นบัณฑิตมาหมาดๆ รับปริญญาเมื่อปี61 ที่ผ่านมา จบจากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังย่านอโศก (จบด้านสื่อสารนะครับ) เริ่มเลยแล้วกัน
ผมเริ่มทำงานประจำจริงๆตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2561 ซึ่งตอนนั้นผมยังเรียนไม่จบแต่เนื่องด้วยจากอยากทำงานจริงๆก่อนจบบวกกับเทอมนั้นเป็นเทอมทีสิสจึงทำให้เรามีเวลาเยอะ เราเลยเลือกไปทำงานที่สถานความงามที่นึงละกันนะครับ ในตำแหน่งการตลาดในส่วน คอนเทนต์ หรือโปรโมชั่นต่างๆ บวกกับการเป็นเลขาส่วนตัวของเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นหมอ มีการบินไปทำงานต่างประเทศ(เพื่อนบ้าน)เดือนละ1-2ครั้ง ผมทำอยู่ประมาณ10เดือนซึ่งผลงานอยุ่ดีในระดับดีมากและได้รับคำชมเชยบ่อยครั้ง แต่สืบเนื่องด้วยจากผมจบอย่างเป็นทางการรวมไปถึง จะรับปริญญาด้วย ผมจึงตัดสินใจในการขอลาออกเพราะต้องการไปหาประสบการณ์ในการทำงานบริษัทจึงได้ขอลาออกไป
ต่อนะครับ ผมได้เริ่มงานใหม่ในงานที่2 ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ผมไม่เคยทำเลยจริงๆ ผมได้เข้าไปทำงานในตำแหน่ง HR สัมภาษณ์พนักงาน (บริษัทเอ้าซอส)นะครับ ผมผ่านโปรตั้งแต่สัปดาห์แรกเลยครับ ผู้บริหารเรียกผมไปคุยและให้ผ่านโปรเลยบวกกับมอบหมายตำแหน่งการตลาดให้ผมดูแลด้วยซึ่งผมก้ไม่ได้ติดอะไรนะครับ ทำจนครบ6เดือน ผมจึงขอลาออกเนื่องจากงานที่ผมทำไม่ได้พัฒนาอะไรผมแล้วเรียนรู้งานทุกอย่างหมดแล้วผมจึงอยากหาสายงานที่โฟกัสงานในอนาคตจริงๆ เนื่องจากสื่อออนไลน์มีอิทธิพลค่อนข้างมากผมตัดสินใจไปสมัครงานที่ใหม่แล้วก็ได้เลยครับ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่านี่แหละครับ
มาๆๆๆ เข้าเรื่องจริงๆ ปัญหาอยู่ที่ที่3ครับ ผมมาสมัครเกี่ยวกับตำแหน่ง การตลาดออนไลน์เกี่ยวกับความงามแล้วกันนะครับ
เริ่มต้นสัมภาษณ์ครับ ผมก็พูดถึงประสบการณ์ที่เคยทำเกี่ยวกับสถานความงามซึ่งผมมั่นใจในเรื่องความรู้มากครับ เพราะผมมีประสบการณ์ค่อนข้างสูงอ่อลืมบอกก่อนหน้าที่แรกผมเป็นฟรีแลนซ์ส่งเคสผ่าตัดมานานกว่า3ปีครับ และเขาก็ถามผมว่าผมทำ กราฟฟิคได้ไหม ตัดวิดิโอได้ไหม ผมบอกว่าผมพอทำได้ครับ
และเขาต้องการฟอร์มทีมใหม่เพราะจะเปิดศัลยกรรมขึ้นมา เริ่มเลยครับ
ด้วยความที่ผมใจร้อนและวัดที่ผลงาน อะไรที่ดีหรือไม่ดีที่ผมเคยมีประสบการณ์มาผมจะรีบบอกว่าควรทำแบบนี้นะ เคยทำแล้วได้ผล แต่เขาไม่ฟังเลยครับ ให้ผมเสนอให้คิดแต่สุดท้ายเอาที่ตัวเองคิดมาแล้วผมรู้สึกเหนื่อยมากกับความคิดแบบนี้ครับ ผมไมไ่ด้เอาความคิดตัวเองเป็นหลักนะครับ แต่ควรจะแชร์ความคิดแล้วช่วยกันหาทางที่ดีที่สุดไม่ใช่หรอครับ และโยนงานให้ผมเยอะมากครับ ตำแหน่งการตลาดที่ว่า ผมจะต้องคิดคอนเทนต์ วางแผลกลยุทธ์ คิดโปรโมชั่น ยิงโฆษณา ยังไม่จบแค่นั้นครับ ให้ผมลงไปถ่ายภาพ ถ่ายวิดิโอและ ทำกราฟฟิคเองทั้งคอนเทนต์ ภาพรีวิว และวิดิโอ เนื่องด้วยงานเยอะ ผมจึงไม่สามารถทันส่งได้ตามกำหนดได้ทุกครั้ง และเขาแจ้งว่าผมทำงานช้า ขอถามหน่อยครับ เหตุผลเพียงแค่นี้ แปลว่าผมทำงานให้เขาไม่ได้หรอครับ ?
หัวหน้างานแจ้งว่าไม่ผ่านโปร เพียงเพราะทำงานที่เขาต้องการไม่ได้ทุกอย่าง มันถูกต้องหรอครับ?
ผมเริ่มทำงานประจำจริงๆตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2561 ซึ่งตอนนั้นผมยังเรียนไม่จบแต่เนื่องด้วยจากอยากทำงานจริงๆก่อนจบบวกกับเทอมนั้นเป็นเทอมทีสิสจึงทำให้เรามีเวลาเยอะ เราเลยเลือกไปทำงานที่สถานความงามที่นึงละกันนะครับ ในตำแหน่งการตลาดในส่วน คอนเทนต์ หรือโปรโมชั่นต่างๆ บวกกับการเป็นเลขาส่วนตัวของเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นหมอ มีการบินไปทำงานต่างประเทศ(เพื่อนบ้าน)เดือนละ1-2ครั้ง ผมทำอยู่ประมาณ10เดือนซึ่งผลงานอยุ่ดีในระดับดีมากและได้รับคำชมเชยบ่อยครั้ง แต่สืบเนื่องด้วยจากผมจบอย่างเป็นทางการรวมไปถึง จะรับปริญญาด้วย ผมจึงตัดสินใจในการขอลาออกเพราะต้องการไปหาประสบการณ์ในการทำงานบริษัทจึงได้ขอลาออกไป
ต่อนะครับ ผมได้เริ่มงานใหม่ในงานที่2 ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ผมไม่เคยทำเลยจริงๆ ผมได้เข้าไปทำงานในตำแหน่ง HR สัมภาษณ์พนักงาน (บริษัทเอ้าซอส)นะครับ ผมผ่านโปรตั้งแต่สัปดาห์แรกเลยครับ ผู้บริหารเรียกผมไปคุยและให้ผ่านโปรเลยบวกกับมอบหมายตำแหน่งการตลาดให้ผมดูแลด้วยซึ่งผมก้ไม่ได้ติดอะไรนะครับ ทำจนครบ6เดือน ผมจึงขอลาออกเนื่องจากงานที่ผมทำไม่ได้พัฒนาอะไรผมแล้วเรียนรู้งานทุกอย่างหมดแล้วผมจึงอยากหาสายงานที่โฟกัสงานในอนาคตจริงๆ เนื่องจากสื่อออนไลน์มีอิทธิพลค่อนข้างมากผมตัดสินใจไปสมัครงานที่ใหม่แล้วก็ได้เลยครับ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่านี่แหละครับ
มาๆๆๆ เข้าเรื่องจริงๆ ปัญหาอยู่ที่ที่3ครับ ผมมาสมัครเกี่ยวกับตำแหน่ง การตลาดออนไลน์เกี่ยวกับความงามแล้วกันนะครับ
เริ่มต้นสัมภาษณ์ครับ ผมก็พูดถึงประสบการณ์ที่เคยทำเกี่ยวกับสถานความงามซึ่งผมมั่นใจในเรื่องความรู้มากครับ เพราะผมมีประสบการณ์ค่อนข้างสูงอ่อลืมบอกก่อนหน้าที่แรกผมเป็นฟรีแลนซ์ส่งเคสผ่าตัดมานานกว่า3ปีครับ และเขาก็ถามผมว่าผมทำ กราฟฟิคได้ไหม ตัดวิดิโอได้ไหม ผมบอกว่าผมพอทำได้ครับ
และเขาต้องการฟอร์มทีมใหม่เพราะจะเปิดศัลยกรรมขึ้นมา เริ่มเลยครับ
ด้วยความที่ผมใจร้อนและวัดที่ผลงาน อะไรที่ดีหรือไม่ดีที่ผมเคยมีประสบการณ์มาผมจะรีบบอกว่าควรทำแบบนี้นะ เคยทำแล้วได้ผล แต่เขาไม่ฟังเลยครับ ให้ผมเสนอให้คิดแต่สุดท้ายเอาที่ตัวเองคิดมาแล้วผมรู้สึกเหนื่อยมากกับความคิดแบบนี้ครับ ผมไมไ่ด้เอาความคิดตัวเองเป็นหลักนะครับ แต่ควรจะแชร์ความคิดแล้วช่วยกันหาทางที่ดีที่สุดไม่ใช่หรอครับ และโยนงานให้ผมเยอะมากครับ ตำแหน่งการตลาดที่ว่า ผมจะต้องคิดคอนเทนต์ วางแผลกลยุทธ์ คิดโปรโมชั่น ยิงโฆษณา ยังไม่จบแค่นั้นครับ ให้ผมลงไปถ่ายภาพ ถ่ายวิดิโอและ ทำกราฟฟิคเองทั้งคอนเทนต์ ภาพรีวิว และวิดิโอ เนื่องด้วยงานเยอะ ผมจึงไม่สามารถทันส่งได้ตามกำหนดได้ทุกครั้ง และเขาแจ้งว่าผมทำงานช้า ขอถามหน่อยครับ เหตุผลเพียงแค่นี้ แปลว่าผมทำงานให้เขาไม่ได้หรอครับ ?