ออกตัวก่อนว่าผมเป็นมนุษย์ที่มีความเยอะในทุกๆ เรื่อง ญาติก็เยอะ เพื่อนก็เยอะ สัมภาระเยอะ กิจกรรมเยอะ! ทำให้เวลาจะเลือกรถสักคันมาใช้งานจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากไม่น้อย นอกจากความเยอะแล้ว ไลฟ์สไตล์ชีวิตก็ต้องตื่นแต่เช้าส่งเจ้าตัวน้อยไปโรงเรียน บึ่งฝ่ารถติดเข้าเมืองไปทำงานต่อ หรือบางวันก็ต้องตะลอนๆ ในเมืองทั้งวันหาลูกค้า ไหนจะประชุม เย็นๆ เพื่อนก็ลากไปขี่จักรยานอีก ถึงวันหยุดทีก็ต้องพาเด็กน้อยไปเปิดหูเปิดตากับการเรียนรู้นอกห้องเรียน อาห์...แค่เขียนเล่าบรรยายยังแทบจะหมดพลัง
ดังนั้นการเลือกรถ จึงเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเราเพราะต้องการรถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตทุกสิ่งอย่างที่ว่ามาในคันเดียว! ยังมีมากกว่านั้นอีกคือเรื่องของศูนย์บริการที่ครอบคลุมเพราะเราต้องเดินทางต่างจังหวัดกันบ่อยๆ
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ Review การใช้งาน TOYOTA Avanza รถสำหรับคน (ครอบครัว) เยอะๆ ถ้าครอบครัวไหนกำลังมองหารถมาใช้งาน ไม่กลัวน้ำท่วมด้วย ผมว่าคันนี้เป็นคำตอบที่ใช่เลยล่ะ
สารภาพว่าเราจะคุ้นเคยกับภาพรีวิวของ TOYOTA Avanza ที่ดูเชยหน่อยๆ ใช่ไหมครับ แต่รอบนี้ต้องขอชมว่า TOYOTA Avanza หล่อขึ้น มีความ Sporty มากขึ้น ทั้งภายนอก ภายใน ให้อารมณ์เป็นรถครอบครัวสมัยใหม่ห่างไกลจากความสว. เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบ 4 สูบ 1,500 ซีซี. มีกำลัง 102 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 134 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที เครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด
โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED แบบสองชั้นสไตล์เดียวกับ Vellfire พี่ใหญ่ของค่าย ความสว่างของไฟหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย โทนแสงสีขาวอมเหลืองมีความเข้มชัดเจนช่วงฝนตกหนักก็สามารถเพิ่มทัศนวิสัยได้ชัดเจน รูปทรงของไฟหน้ารับกับชุดกันชนหน้าแบบสปอร์ตยิ่งทำให้ตัวรถดึงดูดสายตามากขึ้น กระจกมองข้างแบบมีไฟเลี้ยวในตัวพร้อมล้อแม็กลายใหม่แบบทูโทน ช่วยเสริมภาพความเป็นสปอร์ตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA อันเลื่องชื่อมานานเป็นสิ่งที่เราต้องการเป็นอันดับแรกๆ เสริมความด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าและระบบเบรก ABS เข็มขัดนิรภัยเป็นแบบ 3 จุดทั้ง 7 ที่นั่ง สำหรับคู่หน้าเข็มขัดนิรภัยเป็นแบบผ่อนแรงอัตโนมัติ
ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีดำช่วยเสริมภาพความเป็นสปอร์ตและความคมเข้มได้มากนอกเหนือจากความสวยงามแล้วบ้านที่มีเด็กๆ น่าจะเข้าใจว่าสีดำมันซ่อนความเลอะเทอะได้ดี คอนโซลหน้าออกแบบใหม่ให้มีความเรียบหรูโฉบเฉี่ยวขับภาพความคมเข้ม
ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS สามก้านสไตล์สปอร์ตปรับสูงต่ำได้พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย นอกจากช่วยเบาแรงในการเลี้ยวได้มากแล้ว ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่มาด้วยก็ช่วยในเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องเอื้อมมือไปเปลี่ยนเพลง
ชุดเกียร์แบบรางขั้นบันได
ตามปกติแล้ว คนส่วนใหญ่เวลาเลือกรถคันใหม่ก็มักจะเลือกรถที่ใหญ่ขึ้น สมรรถนะสูงขึ้น แต่การใช้งานของครอบครัวเรานั้นเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก ดังนั้นเครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องใหญ่ เน้นพื้นที่ภายในห้องโดยสารตอบโจทย์ของบ้านเราเป็นหลัก เช่นการพับปรับเบาะที่ต้องทำได้หลายรูปแบบ ไปทริปทีนึงเหมือนย้ายบ้าน ต้องมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง นั่งได้หลายคนไว้ก่อน เพราะไหนจะคาร์ซีท กระเป๋าคุณลูก คุณแม่ หรือถ้าคุณแม่ยายที่รักพร้อมไปเที่ยวด้วยกันก็ไม่มีปัญหา
Toyota Avanza สามารถพับเบาะได้หลายรูปแบบเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสารที่กว้างอยู่แล้ว กว้างเข้าไปอีก เบาะที่นั่งแถวสอง พับแยกได้แบบ 50/50 พนักพิงปรับเอนได้มาก รวมถึงการพับราบและพับแบบยกกระดกได้ในจังหวะเดียว โดยปรับที่คันโยกข้างพนังพิงเบาะกลไกถูกออกแบบมาดีไม่ต้องใช้แรงเยอะก็สามารถพับเบาะได้โดยง่าย การพับราบแบบนี้ทำให้วางของชิ้นใหญ่หรือจักรยานได้ ส่วนการพับกระดกขึ้นทั้งตัวนั้นนอกจากเพิ่มความสะดวกในการขึ้นลงแถวที่ 3 แล้ว ยังเพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระที่มีความสูงได้ด้วย
เบาะนั่งแถว 3 สามารถพับแยกแบบ 50/50 เช่นกัน จะพับไปติดกับเบาะแถว 2 เพื่อขนเฟอร์นิเจอร์กลับมาประกอบเองก็ไม่มีปัญหา เรียกว่าสบายๆ
ไม่แปลกใจถ้าคุณแม่และคุณลูกต่างจะแย่งจับจองที่นั่งด้านหลัง เพราะแอร์เย็นทั่วถึง
แผงมาตรวัดแบบใหม่ สวยกินขาด จอใหญ่โฉบเฉี่ยว
เพิ่มความบันเทิงในการเดินทางด้วยเครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Toyota Avanza โฉมนี้ สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงจากโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ได้ พร้อมช่องต่อ USB และการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น T-Link ที่จะทำให้เราสามารถซิงค์ระบบนำทางบนมือถือเข้าหน้าจอสัมผัสในรถได้เลย สะดวก ไม่ต้องละสายตามาคอยดูมือถือเวลาใช้ระบบนำทางบ่อยๆ ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงเชื่อมต่อเพื่อกดฟังเพลงจากแอปพลิเคชั่นในมือถือได้ด้วย
มีกล้องมองหลัง LED ที่มาพร้อมเส้นกะระยะและเสียงเตือนมาให้ด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกตอนถอยจอด เวลาถอยจอดตามอาคารแคบๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เมื่อทำความคุ้นเคยกับตัวรถและสมรรถนะได้ระยะหนึ่งพบว่า สมรรถนะของเครื่องยนต์กับเกียร์แบบ 4 สปีดเพียงพอกับการใช้งานในเมือง ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงใช้ได้ผสานกับน้ำหนักพวงมาลัยที่เบาในเมืองก็หาความสนุกสนานจากการขับขี่ได้ จุดเด่นของรถขับเคลื่อนล้อหลัง คือความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานของช่วงล่างต่างจากรถขับเคลื่อนล้อหน้าชัดเจน
ต่อมาสิ่งที่สัมผัสได้คือ ความคล่องตัวในการขับขี่ ตำแหน่งเบาะนั่งสูงมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้านโดยเฉพาะเวลารถติดๆ จากที่เคยติดใจนั่งรถทรงสูงของเพื่อน พอมาได้ใช้เอง สัมผัสเอง ขับเองก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง มองเห็นได้ไกลไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดหรือหงุดหงิดกับสภาพจากจราจรรอบด้าน
เส้นทางที่ใช้ประจำคือเส้นรามอินทรา, ลาดพร้าว, ศรีนครินทร์ ล้วนแต่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ผิวถนนเต็มไปด้วยความขุรขระรวมถึงฝาท่อขนาดใหญ่หรือแผ่นปูนที่ปิดผิวถนนชั่วคราว ล้วนสร้างความสั่นสะเทือนและทำร้ายช่วงล่างอย่างแสนสาหัส แต่เราก็ยังรู้สึกว่ามีความมั่นคงในการลุย รถทรงตัวได้ดี ความกระด้างก็แทบไม่รู้สึก จุดนี้ก็ต้องยอมรับว่าทางวิศวกรของเค้าทำการบ้านมาได้ดีเลยทีเดียว แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ ความที่เป็นรถทรงสูง ใต้ท้องรถสูงถึง 200 มม. ทำให้วันที่ฝนฟ้าถล่มเมืองหลวงก็ไม่ต้องปาดเหงื่อ ลุ้นตัวโก่งเวลาผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังถึงขอบฟุตบาธ จากที่เคยคิดว่าจะซื้อเรือก็เปลี่ยนมาเป็นเจ้าอะแวนซ่าก็น่าจะดี
ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองนั้นทำได้น่าประทับใจ เราเติม E20 ตั้งแต่วันแรกระยะทางที่วิ่งไป 286.2 กม. ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าปัดขึ้นอยู่ 13.3 กม./ลิตร เมื่อลองเติมน้ำมันจริงใช้น้ำมันไป 22.55 ลิตร เป็นเงิน 550 บาท คิดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจริงได้ที่ 12.69 กม./ลิตร ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขบนหน้าปัด เมื่อคิดออกมาเป็นค่าใช้จ่ายตกกิโลเมตรละ 1.92 บาท ถือว่าน่าพอใจไม่น้อยเลย
ขอย้อนกลับมานิดนึง ปกติแล้วบ้านเราจะใช้รถคันนึงค่อนข้างยาว นอกเหนือจากเรื่องความชอบ ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เรื่องความทนทาน และศูนย์บริการก็เป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างที่บอกไปตอนต้น เพราะเราเป็นครอบครัวสายเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งโตโยต้าก็ตอบโจทย์ตรงนี้ มีศูนย์บริการค่อนข้างเยอะ ครอบคลุม ทำให้เวลาเราเดินทางไปไหนโดยเฉพาะต่างจังหวัดรู้สึกอุ่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องกินข้าวลิง 5555 ดังนั้นถ้าบ้านไหนจะเลือกรถมาใช้สักคัน อยากให้มองจุดนี้ด้วย
[BR] [รีวิว] TOYOTA Avanza คันเดียวเอาอยู่สำหรับคน (ครอบครัว) เยอะๆ
ดังนั้นการเลือกรถ จึงเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเราเพราะต้องการรถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตทุกสิ่งอย่างที่ว่ามาในคันเดียว! ยังมีมากกว่านั้นอีกคือเรื่องของศูนย์บริการที่ครอบคลุมเพราะเราต้องเดินทางต่างจังหวัดกันบ่อยๆ
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ Review การใช้งาน TOYOTA Avanza รถสำหรับคน (ครอบครัว) เยอะๆ ถ้าครอบครัวไหนกำลังมองหารถมาใช้งาน ไม่กลัวน้ำท่วมด้วย ผมว่าคันนี้เป็นคำตอบที่ใช่เลยล่ะ
สารภาพว่าเราจะคุ้นเคยกับภาพรีวิวของ TOYOTA Avanza ที่ดูเชยหน่อยๆ ใช่ไหมครับ แต่รอบนี้ต้องขอชมว่า TOYOTA Avanza หล่อขึ้น มีความ Sporty มากขึ้น ทั้งภายนอก ภายใน ให้อารมณ์เป็นรถครอบครัวสมัยใหม่ห่างไกลจากความสว. เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบ 4 สูบ 1,500 ซีซี. มีกำลัง 102 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 134 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที เครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด
โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED แบบสองชั้นสไตล์เดียวกับ Vellfire พี่ใหญ่ของค่าย ความสว่างของไฟหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย โทนแสงสีขาวอมเหลืองมีความเข้มชัดเจนช่วงฝนตกหนักก็สามารถเพิ่มทัศนวิสัยได้ชัดเจน รูปทรงของไฟหน้ารับกับชุดกันชนหน้าแบบสปอร์ตยิ่งทำให้ตัวรถดึงดูดสายตามากขึ้น กระจกมองข้างแบบมีไฟเลี้ยวในตัวพร้อมล้อแม็กลายใหม่แบบทูโทน ช่วยเสริมภาพความเป็นสปอร์ตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA อันเลื่องชื่อมานานเป็นสิ่งที่เราต้องการเป็นอันดับแรกๆ เสริมความด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าและระบบเบรก ABS เข็มขัดนิรภัยเป็นแบบ 3 จุดทั้ง 7 ที่นั่ง สำหรับคู่หน้าเข็มขัดนิรภัยเป็นแบบผ่อนแรงอัตโนมัติ
ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีดำช่วยเสริมภาพความเป็นสปอร์ตและความคมเข้มได้มากนอกเหนือจากความสวยงามแล้วบ้านที่มีเด็กๆ น่าจะเข้าใจว่าสีดำมันซ่อนความเลอะเทอะได้ดี คอนโซลหน้าออกแบบใหม่ให้มีความเรียบหรูโฉบเฉี่ยวขับภาพความคมเข้ม
ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS สามก้านสไตล์สปอร์ตปรับสูงต่ำได้พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย นอกจากช่วยเบาแรงในการเลี้ยวได้มากแล้ว ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่มาด้วยก็ช่วยในเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องเอื้อมมือไปเปลี่ยนเพลง
ชุดเกียร์แบบรางขั้นบันได
ตามปกติแล้ว คนส่วนใหญ่เวลาเลือกรถคันใหม่ก็มักจะเลือกรถที่ใหญ่ขึ้น สมรรถนะสูงขึ้น แต่การใช้งานของครอบครัวเรานั้นเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก ดังนั้นเครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องใหญ่ เน้นพื้นที่ภายในห้องโดยสารตอบโจทย์ของบ้านเราเป็นหลัก เช่นการพับปรับเบาะที่ต้องทำได้หลายรูปแบบ ไปทริปทีนึงเหมือนย้ายบ้าน ต้องมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง นั่งได้หลายคนไว้ก่อน เพราะไหนจะคาร์ซีท กระเป๋าคุณลูก คุณแม่ หรือถ้าคุณแม่ยายที่รักพร้อมไปเที่ยวด้วยกันก็ไม่มีปัญหา
Toyota Avanza สามารถพับเบาะได้หลายรูปแบบเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสารที่กว้างอยู่แล้ว กว้างเข้าไปอีก เบาะที่นั่งแถวสอง พับแยกได้แบบ 50/50 พนักพิงปรับเอนได้มาก รวมถึงการพับราบและพับแบบยกกระดกได้ในจังหวะเดียว โดยปรับที่คันโยกข้างพนังพิงเบาะกลไกถูกออกแบบมาดีไม่ต้องใช้แรงเยอะก็สามารถพับเบาะได้โดยง่าย การพับราบแบบนี้ทำให้วางของชิ้นใหญ่หรือจักรยานได้ ส่วนการพับกระดกขึ้นทั้งตัวนั้นนอกจากเพิ่มความสะดวกในการขึ้นลงแถวที่ 3 แล้ว ยังเพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระที่มีความสูงได้ด้วย
เบาะนั่งแถว 3 สามารถพับแยกแบบ 50/50 เช่นกัน จะพับไปติดกับเบาะแถว 2 เพื่อขนเฟอร์นิเจอร์กลับมาประกอบเองก็ไม่มีปัญหา เรียกว่าสบายๆ
ไม่แปลกใจถ้าคุณแม่และคุณลูกต่างจะแย่งจับจองที่นั่งด้านหลัง เพราะแอร์เย็นทั่วถึง
แผงมาตรวัดแบบใหม่ สวยกินขาด จอใหญ่โฉบเฉี่ยว
เพิ่มความบันเทิงในการเดินทางด้วยเครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Toyota Avanza โฉมนี้ สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงจากโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ได้ พร้อมช่องต่อ USB และการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น T-Link ที่จะทำให้เราสามารถซิงค์ระบบนำทางบนมือถือเข้าหน้าจอสัมผัสในรถได้เลย สะดวก ไม่ต้องละสายตามาคอยดูมือถือเวลาใช้ระบบนำทางบ่อยๆ ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงเชื่อมต่อเพื่อกดฟังเพลงจากแอปพลิเคชั่นในมือถือได้ด้วย
มีกล้องมองหลัง LED ที่มาพร้อมเส้นกะระยะและเสียงเตือนมาให้ด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกตอนถอยจอด เวลาถอยจอดตามอาคารแคบๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เมื่อทำความคุ้นเคยกับตัวรถและสมรรถนะได้ระยะหนึ่งพบว่า สมรรถนะของเครื่องยนต์กับเกียร์แบบ 4 สปีดเพียงพอกับการใช้งานในเมือง ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงใช้ได้ผสานกับน้ำหนักพวงมาลัยที่เบาในเมืองก็หาความสนุกสนานจากการขับขี่ได้ จุดเด่นของรถขับเคลื่อนล้อหลัง คือความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานของช่วงล่างต่างจากรถขับเคลื่อนล้อหน้าชัดเจน
ต่อมาสิ่งที่สัมผัสได้คือ ความคล่องตัวในการขับขี่ ตำแหน่งเบาะนั่งสูงมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้านโดยเฉพาะเวลารถติดๆ จากที่เคยติดใจนั่งรถทรงสูงของเพื่อน พอมาได้ใช้เอง สัมผัสเอง ขับเองก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง มองเห็นได้ไกลไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดหรือหงุดหงิดกับสภาพจากจราจรรอบด้าน
เส้นทางที่ใช้ประจำคือเส้นรามอินทรา, ลาดพร้าว, ศรีนครินทร์ ล้วนแต่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ผิวถนนเต็มไปด้วยความขุรขระรวมถึงฝาท่อขนาดใหญ่หรือแผ่นปูนที่ปิดผิวถนนชั่วคราว ล้วนสร้างความสั่นสะเทือนและทำร้ายช่วงล่างอย่างแสนสาหัส แต่เราก็ยังรู้สึกว่ามีความมั่นคงในการลุย รถทรงตัวได้ดี ความกระด้างก็แทบไม่รู้สึก จุดนี้ก็ต้องยอมรับว่าทางวิศวกรของเค้าทำการบ้านมาได้ดีเลยทีเดียว แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ ความที่เป็นรถทรงสูง ใต้ท้องรถสูงถึง 200 มม. ทำให้วันที่ฝนฟ้าถล่มเมืองหลวงก็ไม่ต้องปาดเหงื่อ ลุ้นตัวโก่งเวลาผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังถึงขอบฟุตบาธ จากที่เคยคิดว่าจะซื้อเรือก็เปลี่ยนมาเป็นเจ้าอะแวนซ่าก็น่าจะดี
ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองนั้นทำได้น่าประทับใจ เราเติม E20 ตั้งแต่วันแรกระยะทางที่วิ่งไป 286.2 กม. ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าปัดขึ้นอยู่ 13.3 กม./ลิตร เมื่อลองเติมน้ำมันจริงใช้น้ำมันไป 22.55 ลิตร เป็นเงิน 550 บาท คิดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจริงได้ที่ 12.69 กม./ลิตร ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขบนหน้าปัด เมื่อคิดออกมาเป็นค่าใช้จ่ายตกกิโลเมตรละ 1.92 บาท ถือว่าน่าพอใจไม่น้อยเลย
ขอย้อนกลับมานิดนึง ปกติแล้วบ้านเราจะใช้รถคันนึงค่อนข้างยาว นอกเหนือจากเรื่องความชอบ ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เรื่องความทนทาน และศูนย์บริการก็เป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างที่บอกไปตอนต้น เพราะเราเป็นครอบครัวสายเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งโตโยต้าก็ตอบโจทย์ตรงนี้ มีศูนย์บริการค่อนข้างเยอะ ครอบคลุม ทำให้เวลาเราเดินทางไปไหนโดยเฉพาะต่างจังหวัดรู้สึกอุ่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องกินข้าวลิง 5555 ดังนั้นถ้าบ้านไหนจะเลือกรถมาใช้สักคัน อยากให้มองจุดนี้ด้วย
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน