Stranger Things 3 (Score 9/10)

ยังคงรักษามาตรฐานของซีรี่ส์ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นขึ้นหิ้งอย่างซีซั่นแรก แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ที่ดูสนุกที่สุดในยุคนี้อยู่ดี 6 โมงเย็น จนถึงตี 1 และมาต่อ EP.สุดท้ายในตอนตี 5 ไม่รู้สึกว่าเสียดายเวลาเลยซักนิด มันคุ้มค่ามากๆ

หลังจากที่หายไป 2 ปี จากซีซั่น 2 ซีซั่นนี้เลยเต็มไปด้วยความคาดหวัง และมันก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งพัฒนาการของตัวละคร ปริศนาในเรื่อง ไดอะล็อกเจ๋งๆ ความลุ้นระทึก หรือแม้กระทั่งมุกตลก ก็ยังทำได้ได้อย่างยอดเยี่ยม มันเพลินจนแทบหยุดดูไม่ได้เลย มาตรฐานซีรี่ส์เรื่องนี้มันสูง และมันก็รักษามาตรฐานของมันไว้ได้อย่างดี

เอกลักษณ์ที่เด่นชัดมากๆคือเรื่อง Storyline ที่แต่ละตัวละครจะมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง เป็นกลุ่ม เป็นคู่ อะไรก็ว่าไป สุดท้ายแล้ว ทุกๆเส้นเรื่องและตัวละครก็จะค่อยๆขมวดปมเข้ามาหากันอย่างแนบเนียนราวกับจั๊กแร้ของ วี วีโอเลต และที่ชอบในซีซั่นนี้คือมันสนุกทุกเส้นเรื่อง ซีซั่นที่แล้วยังมีความลำใยบางตัวละคร แต่ซีซั่นนี้ มีความรู้สึกลำใยแค่แปปเดียว นอกนั้น สนุก ไหลลื่น จนลืมความลำใยไปเลย และด้วยวัยที่โตขึ้นของตัวละคร ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจนมากขึ้นด้วย

เส้นเรื่องที่ชอบที่สุดในเรื่องคือพาร์ทของ สตีฟ ดัสติน โรบิน และ อิริก้า โคตรสนุก โคตรบันเทิง 4 ตัวละครนี้เป็นอะไรที่เคมีโคตรเข้ากันสุดๆ โดยเฉพาะดัสติน เห็นได้ชัดเลยว่าตัวละครนี้โตขึ้นมาก ฉลาด มีไหวพริบ พัฒนาการดีกว่าพวกเพื่อนๆอีก 3 คน และสุดยอด MVP ของซีซั่นนี้ขอยกให้ โรบิน สวย ฉลาด เป็นธรรมชาติ ไม่น่ารำคาญ และมีเสน่ห์สุดๆ ชอบมาก (เพิ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นลูกสาวของอูม่า เธอร์แมน กับ อีธาน ฮอว์ก หน้านางแบบเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งพ่อและแม่อย่างละครึ่งๆเลย เด็กคนนี้อนาคตไกลมากแน่ๆ)

ปัญหาของซีซั่นนี้น่าจะเป็น การเกลี่ยบทตัวละคร ที่ค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย แต่ก็เข้าใจแหละเพราะตัวละครมันเยอะมาก เยอะตั้งแต่ซีซั่นแรก จนซีซั่นนี้ก็มีตัวละครเพิ่มมาอีกเลยทำให้ ตัวละครบางตัวจางในจาง แทบจะไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องเลย แต่บางตัวก็เด่นขึ้นอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก เพราะข้อดีด้านอื่นๆ ก็กลบเรื่องนี้ไปหมดเลย

กับการรอคอย 2 ปี และมีให้ดูแค่ 8 ตอน มันน้อยมาก ยังอยากดูต่อ อยากดูอีก อยากให้มีซัก 22,24 ตอนไปเลย เอาให้ตายกันไปข้าง แต่เท่านี้ก็เป็นสัดส่วนที่ลงตัวที่สุดสำหรับซีรี่ส์เรื่องนี้แล้วแหละ อยากให้มีซีซั่นต่อไปเร็วๆ ยังอยากดูต่อ ยังไม่อยากให้มันหยุดอยู่แค่นี้

สุดท้ายแล้วมันก็เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ที่ผมรักมากๆ ที่พิมพ์ไปอาจดูเหมือนอวย แต่ก็อวยจริงๆแหละ เพราะมันมีคุณค่ากับการอวยจริงๆ ใครที่มี Netflix เรื่องนี้ Recommend เลย คือมันเหมือนเป็นเรือธงของ Netflix อ่ะ ถึงจะไม่ชอบแนวไซไฟ แนวยุค 80's หรือพล็อตแบบเด็กเป็นตัวเดินเรื่อง แต่ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้จริงๆ