สวัสดีครับเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 ผมได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนคนนึง (ผมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครับ แต่ส่วนใหญ่แค่ภายนอก) ครั้งนี้ก็ตามปกติครับป้องกันโดยสวมถุงยางอนามัย แต่ดันเกิดเหตุการณ์ถุงยางแตกครับ คือผมตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง"อีกครั้ง"
คือต้องท้าวความไปเมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้วก่อนนะครับ คือเคยเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เลยครับ ตอนนั้นผมพยายามหาข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เน็ต แล้วก็ไปเจอกระทู้พันทิปบอกว่าถ้าเรามีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ HIV ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านฉุกเฉิน (PEP) ภายใน 72 ชั่วโมง ผมจึงได้หาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับคลินิกที่ใกล้ๆผมซึ่งมี pulse clinic silom คลินิกนิรนามของสภากาชาดไทย ผมจึงตัดสินใจเลือก pluse clinic ครับเพราะเป็นเอกชนน่าจะเร็วกว่า ตอนนั้นกังวลไปหมดเลยครับคิดไปต่างๆนานา กลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อหรือเปล่านอนไม่หลับเลยครับ ผมจึงลุกขึ้นมาสวดมนต์ สวดไปคิดถึงหน้าครอบครัวไป ตอนนั้นน้ำตาไหลออกมาเองเลยครับ กลัวพวกเขาจะผิดหวังกลัวรับไม่ได้ พอสวดเสร็จผมก็อธิฐานขอให้ไม่เกิดอะไรขึ้นและตั้งใจจะสวดมนต์อย่างนี้ไปเรื่อยๆประมาณ2เดือนครับ พอเช้ามาผมก็รีบออกจากห้องเพื่อจะไปที่คลินิกครับ ผมเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดง คลินิกอยู่ข้างล่างสถานีเลยครับตรงข้ามสีลมคอมแพกต์ วันนั้นคลินิกเปิด 11.00 น. วันนั้นผมตัดสินใจมาตรวจ HIV เฉยๆนะครับเพราะยาต้านฉุกเฉินที่คลินิกราคาก็พอสมควรเลยครับ พอเข้าไปที่คลินิกเป็นกันเองมากเลยครับคุณหมอใจดีมากๆ ผมก็บอกว่ามาตรวจ HIV ครับ คุณหมอก็เจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือ รู้ผลเร็วมากด้วยครับไม่ถึง 1ชั่วโมงเลยครับ และผลออกมาเป็นลบครับตอนนั้นคือโล่งไปเปาะนึง เหลืออีกเปาะนึงคือที่ผมพึ่งไปเสี่ยงมาซึ่งต้องได้รับยาต้านฉุกเฉินแต่ผมไม่ได้บอกคุณหมอเรื่องนี้นะครับเพราะผมมาตรวจ HIV ก่อนเฉยๆ ค่าตรวจคุณหมอบอกว่าผมยังเป็นนักศึกษาอยู่และกล้าที่จะมาตรวจจึงลดให้เหลือ 500บาทครับ
พอเสร็จวันนั้นผมก็กลับมาที่ห้องครับนอนคิดไปมาว่าจะเอายังไงกับยาต้านฉุกเฉิน (PEP) ดีเพราะถ้าช้ากว่านี้มันจะเลย 72ชั่วโมงเอาได้ ผมจึงเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอีกรอบก็ไปเจออีกคลินิกนึงครับชื่อ Swing clinic สีลมครับ เขาบอกว่าที่คลินิกสามารถมารับยาต้านฉุกเฉิน(PEP)ได้ฟรีครับ ผมจึงตัดสินใจไปในวันรุ่งขึ้น เช่นเดิมครับผมเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดงเหมือนเดิม คลินิกอยู่ในซอยพัฒพงษ์1 ครับ พอเข้าไปในซอยเดินตรงไปเรื่อยๆจะอยู่ฝั่งขวามือครับจะมีป้ายเล็กๆเขียนไว้ คลินิกอยู่ที่ชั้น5นะครับ พอเข้าไปที่คลินิกเจ้าหน้าที่ก็ให้ทำบัตรโดยใช้ชื่อย่อครับ แล้วก็สอบถามว่าเสี่ยงยังไงมาถึงต้องการยาต้านฉุกเฉิน(PEP) ผมก็บอกไปว่าถุงยางแตกครับ คุณหมอก็บอกว่าต้องเจาะเลือดดูสถานะก่อนนะเพราะยา PEP เนี่ยใช้สำหรับคนที่ไม่มีเชื้อ HIV แต่มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ และถามผมว่าถ้าผมติดเชื้อ HIV จะทำยังไงต้องการบอกครอบครัวมั้ย จะฆ่าตัวตายหนือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ครับ และบอกคุณหมอว่าเมื่อวานผมไปตรวจมาแล้วที่ pulse clinic ผลเป็นลบและยื่นใบตรวจให้หมอดู แต่คุณหมอบอกว่าให้ตรวจซ้ำอีกรอบ ถึงตอนนี้ผมเริ่มใจไม่ดีอีกแล้วครับรู้สึกกังวลใจแปลกๆ แล้วผมก็ไปรอที่ห้องเจาะเลือดครับ ครั้งนี้เจาะที่เส้นเลือดที่แขนเลยครับเข็มใหญ่ครับเจ็บปวดกันเลยทีเดียว แล้วก็นั่งรอผลประมาณ 1ชั่วโมงครับ เออผมลืมบอกไปที่คลินิกคนไม่ค่อยเยอะเลยครับเร็วมากด้วยส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติมาใช้บริการครับ พอถึงเวลาฟังผลคุณหมอก็บอกว่าผลเลือกปกติดีครับ และก็ให้ยา PEP มาทาน30เม็ดครับ ทานวันละ1เม็ดตรงเวลาทุกวันหลังอาหาร ส่วนวันนี้ให้กิน2เม็ดครับ เม็ดแรกกินพร้อมข้าวเที่ยง อีกเม็ดเอาไว้กินตอนข้าวเย็นหลังจากนั้นก็กินทุกวันหลังข้าวเย็น ถ้าลืมให้รีบกินทันทีที่นึกได้ครับ (ผมเคยลืม1ครั้งเลยเวลาทานไปหลายชั่วโมงเลยครับ) และหมอก็ให้ใบนัดครั้งต่อไปมาตรวจซ้ำอีกครั้งหลังทานยาหมด ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยครับ นอกจากเราจะบริจาคให้กับทางคลินิกผมก็บริจาคไปจำนวนหนึ่งครับ
พอครบกำหนดนัดผมก็ไปที่คลินิกเพื่อไปตรวจซ้ำครับบวกตรวจค่าตับค่าไตด้วย ผลก็เป็นที่น่าพอใจครับปกติทุกอย่างและหมอก็ให้ยา เพร็พ (Prep) มากินครับ
เพร็พ (PrEP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis คือการป้องกันโรคก่อนได้รับเชื้อ นี่คือวิธีการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเอชไอวีโดยการทานยาวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน รายละเอียดค้นหาในกูเกิ้ลเลยครับ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้มีอะไรกับใครไปหลายเดือนเลยครับและไม่ได้ไปตรวจซ้ำตามหมอนัดอีกรอบด้วยครับ (มันน่าจับตีมั้ยล่ะชีวิตตัวเองแท้ๆไม่รู้จักรักษา)
แต่พอมาปีนี้ 2019 ผมกลับมามีอะไรกับคนอื่นอีกครั้งครับส่วนใหญ่ก็ภายนอกครับแต่มีครั้งนึ่งพี่เขาเผลอแตกในปากครับผมรีบกลืนทันที กังวลอยู่นะครับแต่ถามพี่เขาบอกว่าไม่ต้องห่วงเขาปลอดภัยดี ใช่ครับคนแบบผมเชื่อง่ายๆเลยครับไม่ไปตรวจไปรับยาต้านฉุกเฉินอีกต่างหาก ระยะเวลาก็ล่วงเลยมาได้ 1เดือนครับ ตามข้างต้นเลยครับคนร่านแบบผม ก็ไปมีอะไรกับคนอื่นอีกแล้วครับ และใช่ครับครั้งนี้ถุงยางแตกครับ คนทำแตกทำเหมือนเป็นเรื่องปกติเลยครับไม่กังวลใดๆเลย ผมแทบจะร้องไห้ตอนนั้นคิดอย่างเดียวต้องไปรับยาต้านฉุกเฉินให้เร็วที่สุดตอนนั้นค่ำแล้วครับคลินิก Swing ที่ผมเคยไปเมื่อปีที่แล้วก็ปิดแล้วแต่ยังสามารถไลน์สอบถามได้นะครับ ผมก็ไลน์ไปสอบถามครับทางคลินิกบอกว่าตอนนี้ที่คลินิกยาต้านฉุกเฉินไม่มีครับ เอาแล้วไงทีนี้ผมกลัวมากครับตอนนั้นแต่พี่เขาก็แนะนำให้ไปที่ คลินิกนิรนาม แต่ว่ามีค่าใช้จ่ายนะผมก็โอเคครับทำตัวเองก็ต้องจ่ายเองจะได้เข็ดหลาบ และเหมือนเคยครับผมนอนไม่หลับกังวลต่างๆนานา ครั้งที่แล้วผลปกติก็จริงแต่ผมไม่ได้ไปตรวจซ้ำอีกรอบ แถบเดือนที่แล้วกลืนน้ำอสุจิเข้าไปอีก ผมใช้วิธีเดิมครับสวดมนต์บวกอธิฐานบอกว่าผมขอโอกาสครั้งนี้ครั้งสุดท้าย จะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีกแล้วผมรับรู้ถึงอันตรายและสิ่งที่โชคชะตาตักเตือนผมแล้ว ผมจะไม่ทำอีกแล้ว นอนไม่หลับเลยครับครั้งนี้ผมออกจากห้องแต่เช้าเลยครับเพราะคลินิกเปิด 07.30 น. เออผมลงทะเบียนออนไลน์จองคิวไว้ก่อนนะครับ ผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีราชดำริ ทางออกราชกรีฑาสโมสรครับ เดินตรงไปเรื่อยๆไม่ไกลจากตัวสถานีครับข้างทางต้นไม้ร่มรื่นทำให้ใจสงบขึ้นมากครับ ผมไปถึง 07.45 น. ครับพอไปถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่กดบัตรคิวถามว่าเคยมาหรือเปล่า ผมบอกว่าไม่เคยแต่ลงทะเบียนออนไลน์มาพร้อมยื่นโค๊คให้ดูเขาก็กดบัตรคิวให้ ตอนนั้นมีคนไม่เยอะครับไม่ถึง10คน ยังไม่ทันนั่งก็ถึงลำดับผมครับก็ไปหน้าเค้าท์เตอร์ทำบัตรสมาชิก 20 บาท พร้อมยื่นบัตรประชาชนเพื่อใช้สิทธิ ตรวจ HIV ฟรี2ครั้งต่อปี แล้วก็ขึ้นไปรอชั้นบนเพื่อปรึกษาแพทย์ครับ รอไม่นานก็ได้เข้าพบแพทย์ครับ คุณหมอก็ถามตามปกติเลยครับทำอะไรมา เคยตรวตล่าสุดเมื่อไหร่ผลเป็นยังไง มีเพศสัมพันธ์บ่อยมั้ย ทำไมถึงเสี่ยง ผมก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมดเลยครับ คุณหมอก็ให้ตรวจ HIV ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี ครับค่าใช้จ่าย 740บาท ครับ พอปรึกษาเสร็จก็มาชำระเงินครับตอนออกมาชำระเงินคนทยอยมาใช้บริการแล้วครับ พอชำระเงินเสร็จเจ้าหน้าที่ก็บอกให้ไปรอที่ห้องเจาะเลือด และครั้งนี้เจาะที่เส้นเลือดที่แขนเหมือนเดิมครับเจ็บปวดคงต้องเข็ดจริงๆคราวนี้ นั้งรอฟังผล 2ชั่วโมงครับ
ตอนผมรอฟังผลไม่รู้ว่าคนมาจากไหนเยอะมากๆครับ ต่างจาก2คลินิกที่ผมเคยไปมาเลยครับ มีทั้งวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ กะเทย ทอม สาวประเภทสอง คนไทย คนต่างชาติ มีหมดเลยครับ แต่ละคนหน้าตาดีมากๆครับ(แอบนอกเรื่อง) แต่คิดในอีกแง่คือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนเหล่านี้ใครมีเชื้อไม่มีเชื้อผมมองว่ามันน่ากลัวมากๆเลยนะครับ และนี่แหละครับผมจึงเริ่มคิดได้ตาสว่างมองเห็นแสงแห่งธรรม
การรอผลครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันนานมากเลยครับ ยิ่งใกล้เวลายิ่งกังวลไปหมดกังวลกว่าครั้งก่อน และแล้วเวลา 11.00 กว่าๆ ก็ถึงเวลาฟังผลครับ ผมเดินไปด้วยตัวลอยๆนั่งรอหน้าห้องคุณหมอก็เรียกเข้าไป แล้วบอกกับผมว่า ผลเลือด ซิฟิลิส ค่าตับ ค่าไต ปกติดีทุกอย่างเชิญชำระค่ายาช่อง 9 ค่ะ ผมรู้สึกโล่งกว่าทุกครั้งมากเลยครับดีใจมากๆที่ได้รับโอกาสนี้อีก และผมจ่ายค่ายาบวกค่าบริการไป 602บาท รวมค่าตรวจทั้งสิ้น 1,342 บาทครับ แทบสลบแต่ทำไงได้ทำตัวเอง
ผมเข็ดหลาบจริงๆแล้วครับจะไม่หันกลับมาทางเดินนี้อีกมันไม่สนุกเลยขนาดกินยาต้านฉุกเฉินแค่1เดือนยังไม่โอเคเลยครับ คิดดูถ้าติดเชื้อต้องกินยาตลอดชีวิตผมไม่โอเคจริงๆครับ ผมหยุดแล้วจริงๆครับ ถ้าผมมีแฟนนู้นแหละค่อยมีมันไอ้เพศสัมพันธุ์เนี่ยแต่ก่อนมีผมจะพาแฟนและผมไปตรวจครับจะได้ไม่ต้องกังวล และควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นการสอดใส่หรือการทำออรัลเซ็กซ์ก็ตาม ถ้ากินยาเพร็พด้วยยิ่งดีเลยครับ
แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้มั่นใจ 100% หรอกนะครับผมต้องทานยาให้หมดก่อนและวันจันทร์นี้ผมก็ต้องไปตรวจซ้ำอีกครั้งหลังทานยาครบครับ ผมได้แต่ภาวะนาให้ผลมันออกมาเป็นลบนะครับ
ผมจึงอยากนำประสบการณ์ของผมมาเล่าให้ทุกคนฟังครับเผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบผมจะได้รับมือกับมันได้ทัน ถ้าเลิกพฤติกรรมแบบนี้ได้จะดีมากๆเลยครับ และสำหรับคนที่มีเชื้อก็อย่าแพร่เชื้อต่อเลยครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้จริงจังกระทู้แรกของผมพิมพ์เยอะไปหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ประสบการณ์ตรวจ HIV ทานยาต้านฉุกเฉิน(PEP)
คือต้องท้าวความไปเมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้วก่อนนะครับ คือเคยเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เลยครับ ตอนนั้นผมพยายามหาข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เน็ต แล้วก็ไปเจอกระทู้พันทิปบอกว่าถ้าเรามีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ HIV ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านฉุกเฉิน (PEP) ภายใน 72 ชั่วโมง ผมจึงได้หาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับคลินิกที่ใกล้ๆผมซึ่งมี pulse clinic silom คลินิกนิรนามของสภากาชาดไทย ผมจึงตัดสินใจเลือก pluse clinic ครับเพราะเป็นเอกชนน่าจะเร็วกว่า ตอนนั้นกังวลไปหมดเลยครับคิดไปต่างๆนานา กลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อหรือเปล่านอนไม่หลับเลยครับ ผมจึงลุกขึ้นมาสวดมนต์ สวดไปคิดถึงหน้าครอบครัวไป ตอนนั้นน้ำตาไหลออกมาเองเลยครับ กลัวพวกเขาจะผิดหวังกลัวรับไม่ได้ พอสวดเสร็จผมก็อธิฐานขอให้ไม่เกิดอะไรขึ้นและตั้งใจจะสวดมนต์อย่างนี้ไปเรื่อยๆประมาณ2เดือนครับ พอเช้ามาผมก็รีบออกจากห้องเพื่อจะไปที่คลินิกครับ ผมเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดง คลินิกอยู่ข้างล่างสถานีเลยครับตรงข้ามสีลมคอมแพกต์ วันนั้นคลินิกเปิด 11.00 น. วันนั้นผมตัดสินใจมาตรวจ HIV เฉยๆนะครับเพราะยาต้านฉุกเฉินที่คลินิกราคาก็พอสมควรเลยครับ พอเข้าไปที่คลินิกเป็นกันเองมากเลยครับคุณหมอใจดีมากๆ ผมก็บอกว่ามาตรวจ HIV ครับ คุณหมอก็เจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือ รู้ผลเร็วมากด้วยครับไม่ถึง 1ชั่วโมงเลยครับ และผลออกมาเป็นลบครับตอนนั้นคือโล่งไปเปาะนึง เหลืออีกเปาะนึงคือที่ผมพึ่งไปเสี่ยงมาซึ่งต้องได้รับยาต้านฉุกเฉินแต่ผมไม่ได้บอกคุณหมอเรื่องนี้นะครับเพราะผมมาตรวจ HIV ก่อนเฉยๆ ค่าตรวจคุณหมอบอกว่าผมยังเป็นนักศึกษาอยู่และกล้าที่จะมาตรวจจึงลดให้เหลือ 500บาทครับ
พอเสร็จวันนั้นผมก็กลับมาที่ห้องครับนอนคิดไปมาว่าจะเอายังไงกับยาต้านฉุกเฉิน (PEP) ดีเพราะถ้าช้ากว่านี้มันจะเลย 72ชั่วโมงเอาได้ ผมจึงเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอีกรอบก็ไปเจออีกคลินิกนึงครับชื่อ Swing clinic สีลมครับ เขาบอกว่าที่คลินิกสามารถมารับยาต้านฉุกเฉิน(PEP)ได้ฟรีครับ ผมจึงตัดสินใจไปในวันรุ่งขึ้น เช่นเดิมครับผมเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดงเหมือนเดิม คลินิกอยู่ในซอยพัฒพงษ์1 ครับ พอเข้าไปในซอยเดินตรงไปเรื่อยๆจะอยู่ฝั่งขวามือครับจะมีป้ายเล็กๆเขียนไว้ คลินิกอยู่ที่ชั้น5นะครับ พอเข้าไปที่คลินิกเจ้าหน้าที่ก็ให้ทำบัตรโดยใช้ชื่อย่อครับ แล้วก็สอบถามว่าเสี่ยงยังไงมาถึงต้องการยาต้านฉุกเฉิน(PEP) ผมก็บอกไปว่าถุงยางแตกครับ คุณหมอก็บอกว่าต้องเจาะเลือดดูสถานะก่อนนะเพราะยา PEP เนี่ยใช้สำหรับคนที่ไม่มีเชื้อ HIV แต่มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ และถามผมว่าถ้าผมติดเชื้อ HIV จะทำยังไงต้องการบอกครอบครัวมั้ย จะฆ่าตัวตายหนือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ครับ และบอกคุณหมอว่าเมื่อวานผมไปตรวจมาแล้วที่ pulse clinic ผลเป็นลบและยื่นใบตรวจให้หมอดู แต่คุณหมอบอกว่าให้ตรวจซ้ำอีกรอบ ถึงตอนนี้ผมเริ่มใจไม่ดีอีกแล้วครับรู้สึกกังวลใจแปลกๆ แล้วผมก็ไปรอที่ห้องเจาะเลือดครับ ครั้งนี้เจาะที่เส้นเลือดที่แขนเลยครับเข็มใหญ่ครับเจ็บปวดกันเลยทีเดียว แล้วก็นั่งรอผลประมาณ 1ชั่วโมงครับ เออผมลืมบอกไปที่คลินิกคนไม่ค่อยเยอะเลยครับเร็วมากด้วยส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติมาใช้บริการครับ พอถึงเวลาฟังผลคุณหมอก็บอกว่าผลเลือกปกติดีครับ และก็ให้ยา PEP มาทาน30เม็ดครับ ทานวันละ1เม็ดตรงเวลาทุกวันหลังอาหาร ส่วนวันนี้ให้กิน2เม็ดครับ เม็ดแรกกินพร้อมข้าวเที่ยง อีกเม็ดเอาไว้กินตอนข้าวเย็นหลังจากนั้นก็กินทุกวันหลังข้าวเย็น ถ้าลืมให้รีบกินทันทีที่นึกได้ครับ (ผมเคยลืม1ครั้งเลยเวลาทานไปหลายชั่วโมงเลยครับ) และหมอก็ให้ใบนัดครั้งต่อไปมาตรวจซ้ำอีกครั้งหลังทานยาหมด ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยครับ นอกจากเราจะบริจาคให้กับทางคลินิกผมก็บริจาคไปจำนวนหนึ่งครับ
พอครบกำหนดนัดผมก็ไปที่คลินิกเพื่อไปตรวจซ้ำครับบวกตรวจค่าตับค่าไตด้วย ผลก็เป็นที่น่าพอใจครับปกติทุกอย่างและหมอก็ให้ยา เพร็พ (Prep) มากินครับ
เพร็พ (PrEP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis คือการป้องกันโรคก่อนได้รับเชื้อ นี่คือวิธีการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเอชไอวีโดยการทานยาวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน รายละเอียดค้นหาในกูเกิ้ลเลยครับ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้มีอะไรกับใครไปหลายเดือนเลยครับและไม่ได้ไปตรวจซ้ำตามหมอนัดอีกรอบด้วยครับ (มันน่าจับตีมั้ยล่ะชีวิตตัวเองแท้ๆไม่รู้จักรักษา)
แต่พอมาปีนี้ 2019 ผมกลับมามีอะไรกับคนอื่นอีกครั้งครับส่วนใหญ่ก็ภายนอกครับแต่มีครั้งนึ่งพี่เขาเผลอแตกในปากครับผมรีบกลืนทันที กังวลอยู่นะครับแต่ถามพี่เขาบอกว่าไม่ต้องห่วงเขาปลอดภัยดี ใช่ครับคนแบบผมเชื่อง่ายๆเลยครับไม่ไปตรวจไปรับยาต้านฉุกเฉินอีกต่างหาก ระยะเวลาก็ล่วงเลยมาได้ 1เดือนครับ ตามข้างต้นเลยครับคนร่านแบบผม ก็ไปมีอะไรกับคนอื่นอีกแล้วครับ และใช่ครับครั้งนี้ถุงยางแตกครับ คนทำแตกทำเหมือนเป็นเรื่องปกติเลยครับไม่กังวลใดๆเลย ผมแทบจะร้องไห้ตอนนั้นคิดอย่างเดียวต้องไปรับยาต้านฉุกเฉินให้เร็วที่สุดตอนนั้นค่ำแล้วครับคลินิก Swing ที่ผมเคยไปเมื่อปีที่แล้วก็ปิดแล้วแต่ยังสามารถไลน์สอบถามได้นะครับ ผมก็ไลน์ไปสอบถามครับทางคลินิกบอกว่าตอนนี้ที่คลินิกยาต้านฉุกเฉินไม่มีครับ เอาแล้วไงทีนี้ผมกลัวมากครับตอนนั้นแต่พี่เขาก็แนะนำให้ไปที่ คลินิกนิรนาม แต่ว่ามีค่าใช้จ่ายนะผมก็โอเคครับทำตัวเองก็ต้องจ่ายเองจะได้เข็ดหลาบ และเหมือนเคยครับผมนอนไม่หลับกังวลต่างๆนานา ครั้งที่แล้วผลปกติก็จริงแต่ผมไม่ได้ไปตรวจซ้ำอีกรอบ แถบเดือนที่แล้วกลืนน้ำอสุจิเข้าไปอีก ผมใช้วิธีเดิมครับสวดมนต์บวกอธิฐานบอกว่าผมขอโอกาสครั้งนี้ครั้งสุดท้าย จะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีกแล้วผมรับรู้ถึงอันตรายและสิ่งที่โชคชะตาตักเตือนผมแล้ว ผมจะไม่ทำอีกแล้ว นอนไม่หลับเลยครับครั้งนี้ผมออกจากห้องแต่เช้าเลยครับเพราะคลินิกเปิด 07.30 น. เออผมลงทะเบียนออนไลน์จองคิวไว้ก่อนนะครับ ผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีราชดำริ ทางออกราชกรีฑาสโมสรครับ เดินตรงไปเรื่อยๆไม่ไกลจากตัวสถานีครับข้างทางต้นไม้ร่มรื่นทำให้ใจสงบขึ้นมากครับ ผมไปถึง 07.45 น. ครับพอไปถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่กดบัตรคิวถามว่าเคยมาหรือเปล่า ผมบอกว่าไม่เคยแต่ลงทะเบียนออนไลน์มาพร้อมยื่นโค๊คให้ดูเขาก็กดบัตรคิวให้ ตอนนั้นมีคนไม่เยอะครับไม่ถึง10คน ยังไม่ทันนั่งก็ถึงลำดับผมครับก็ไปหน้าเค้าท์เตอร์ทำบัตรสมาชิก 20 บาท พร้อมยื่นบัตรประชาชนเพื่อใช้สิทธิ ตรวจ HIV ฟรี2ครั้งต่อปี แล้วก็ขึ้นไปรอชั้นบนเพื่อปรึกษาแพทย์ครับ รอไม่นานก็ได้เข้าพบแพทย์ครับ คุณหมอก็ถามตามปกติเลยครับทำอะไรมา เคยตรวตล่าสุดเมื่อไหร่ผลเป็นยังไง มีเพศสัมพันธ์บ่อยมั้ย ทำไมถึงเสี่ยง ผมก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมดเลยครับ คุณหมอก็ให้ตรวจ HIV ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี ครับค่าใช้จ่าย 740บาท ครับ พอปรึกษาเสร็จก็มาชำระเงินครับตอนออกมาชำระเงินคนทยอยมาใช้บริการแล้วครับ พอชำระเงินเสร็จเจ้าหน้าที่ก็บอกให้ไปรอที่ห้องเจาะเลือด และครั้งนี้เจาะที่เส้นเลือดที่แขนเหมือนเดิมครับเจ็บปวดคงต้องเข็ดจริงๆคราวนี้ นั้งรอฟังผล 2ชั่วโมงครับ
ตอนผมรอฟังผลไม่รู้ว่าคนมาจากไหนเยอะมากๆครับ ต่างจาก2คลินิกที่ผมเคยไปมาเลยครับ มีทั้งวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ กะเทย ทอม สาวประเภทสอง คนไทย คนต่างชาติ มีหมดเลยครับ แต่ละคนหน้าตาดีมากๆครับ(แอบนอกเรื่อง) แต่คิดในอีกแง่คือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนเหล่านี้ใครมีเชื้อไม่มีเชื้อผมมองว่ามันน่ากลัวมากๆเลยนะครับ และนี่แหละครับผมจึงเริ่มคิดได้ตาสว่างมองเห็นแสงแห่งธรรม
การรอผลครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันนานมากเลยครับ ยิ่งใกล้เวลายิ่งกังวลไปหมดกังวลกว่าครั้งก่อน และแล้วเวลา 11.00 กว่าๆ ก็ถึงเวลาฟังผลครับ ผมเดินไปด้วยตัวลอยๆนั่งรอหน้าห้องคุณหมอก็เรียกเข้าไป แล้วบอกกับผมว่า ผลเลือด ซิฟิลิส ค่าตับ ค่าไต ปกติดีทุกอย่างเชิญชำระค่ายาช่อง 9 ค่ะ ผมรู้สึกโล่งกว่าทุกครั้งมากเลยครับดีใจมากๆที่ได้รับโอกาสนี้อีก และผมจ่ายค่ายาบวกค่าบริการไป 602บาท รวมค่าตรวจทั้งสิ้น 1,342 บาทครับ แทบสลบแต่ทำไงได้ทำตัวเอง
ผมเข็ดหลาบจริงๆแล้วครับจะไม่หันกลับมาทางเดินนี้อีกมันไม่สนุกเลยขนาดกินยาต้านฉุกเฉินแค่1เดือนยังไม่โอเคเลยครับ คิดดูถ้าติดเชื้อต้องกินยาตลอดชีวิตผมไม่โอเคจริงๆครับ ผมหยุดแล้วจริงๆครับ ถ้าผมมีแฟนนู้นแหละค่อยมีมันไอ้เพศสัมพันธุ์เนี่ยแต่ก่อนมีผมจะพาแฟนและผมไปตรวจครับจะได้ไม่ต้องกังวล และควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นการสอดใส่หรือการทำออรัลเซ็กซ์ก็ตาม ถ้ากินยาเพร็พด้วยยิ่งดีเลยครับ
แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้มั่นใจ 100% หรอกนะครับผมต้องทานยาให้หมดก่อนและวันจันทร์นี้ผมก็ต้องไปตรวจซ้ำอีกครั้งหลังทานยาครบครับ ผมได้แต่ภาวะนาให้ผลมันออกมาเป็นลบนะครับ
ผมจึงอยากนำประสบการณ์ของผมมาเล่าให้ทุกคนฟังครับเผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบผมจะได้รับมือกับมันได้ทัน ถ้าเลิกพฤติกรรมแบบนี้ได้จะดีมากๆเลยครับ และสำหรับคนที่มีเชื้อก็อย่าแพร่เชื้อต่อเลยครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้จริงจังกระทู้แรกของผมพิมพ์เยอะไปหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ